คชท.บุกNBT จี้เสนอข่าวอย่างรับผิดชอบ อย่าแบ่งแยก-เหยียดชาติพันธุ์

คชท.บุกNBT จี้เสนอข่าวอย่างรับผิดชอบ อย่าแบ่งแยก-เหยียดชาติพันธุ์

เชียงใหม่ ( 30 มิ.ย.60)/  “ไวยิ่ง”บุก NBT จี้ออกมาขอโทษเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดในการเสนอข่าวสร้างความเข้าใจที่ผิดต่อสาธารณะ แนะควรระมัดระวังข่าวที่สร้างอคติต่อชาติพันธุ์  ด้านผู้บริหาร NBT ยืดอกรับผิดยันไม่มีเจตนาพร้อมทำตามคำแนะนำ

เมื่อ 30 มิ.ย.60 ตัวเเทนเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (คชท.) นำโดยนายไวยิ่ง ทองบือ เข้าไปยื่นหนังสือต่อนางสาวศศิวิมล พงษ์ปรีชา ผู้อำนวยการสถาณีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) จังหวัดเชียงใหม่ ขอให้สถานณีช่อง NBTออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีของชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ทั้งนี้สืบเนื่องจากการนำเสนอข่าวของผู้รายงานข่าวของสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT เชียงใหม่  เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ในประเด็นการรับบริจาคเลือดของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยมีการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวกับการรับบริจาคเลือดจากชนเผ่าพื้นเมืองกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่ไม่ชัดเจนและสร้างให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณะ โดยเฉพาะมีเนื้อหาบางช่วงที่ระบุว่า “สำหรับชนเผ่าไม่สามารถนำเลือดของคนทั่วไปต้องเป็นกลุ่มชนเผ่าด้วยกันเท่านั้นเพราะมีสารบางชนิดในกลุ่มชนเผ่าจึงไม่สามารถนำมาใช้กับบุคคลทั่วไปได้…” ซึ่งทำให้เกิดความสับสนและสร้างความรู้สึกแบ่งแยกระหว่างกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองกับคนทั่วไป

ต่อประเด็นนี้ คชท. มีข้อกังวลต่อการนำเสนอข่าวของหน่วยงานท่าน จึงขอให้ท่านออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีของชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ดังนี้

1. ขอโทษชนเผ่าพื้นเมืองต่อประเด็นที่ได้นำเสนอข่าวที่ผิดพลาดและคลาดเคลื่อนจากข้อมูลข้อเท็จจริงจากที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้แถลงไปแล้ว เพื่อให้ชนเผ่าพื้นเมืองพ้นจากข้อกล่าวหา โดยให้นำเสนอผ่านช่องทางของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และรายการวิทยุภาคภาษาชนเผ่าของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.เชียงใหม่ ด้วย

2. ให้มีความระมัดระวังการนำเสนอข่าวที่อาจก่อให้เกิดการตีตราเหมารวม การสร้างอคติทางชาติพันธุ์ สร้างความแตกแยกระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในสังคมไทย เช่น ไม่นำเสนอชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ หรือมีคำว่า “ชาวเขา” ในกรณีที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้เป็นกระทำของตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนั้นๆ ไม่ใช่เป็นการกระทำของทั้งกลุ่มชาติพันธุ์หรือชนเผ่าพื้นเมืองทั้งหมด ซึ่งทำให้ผู้รับสารมีความเข้าใจที่ผิดและมีอคติทางชาติพันธุ์ได้

3. ขอความร่วมมือมายังสถานี ให้นำเสนอชื่อเรียกที่เหมาะสมและถูกต้องเกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อแสดงถึงการยอมรับต่อความหลากหลายทางชาติพันธุ์และเคารพต่อการนิยามตัวเอง ดังนี้

3.1 รณรงค์ให้เปลี่ยนคำว่า “ชาวเขา” ให้เป็น “ชนเผ่าพื้นเมือง”

3.2 ให้เรียกชื่อแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกต้อง เช่น

ให้เรียก “ม้ง” แทน “แม้ว”

ให้เรียก “ลาหู่”แทน “มูเซอ”

ให้เรียก “อาข่า” แทน “อีก้อ”

ให้เรียก “ลีซู” แทน “ลีซอ”

ให้เรียก “อิ้วเมี่ยน” แทน “เย้า”

ให้เรียก “ดาราอาง” แทน “ปะหล่อง”

ให้เรียก “มละบริ” แทน “ผีตองเหลือง”

ให้เรียก “ลเวือะ” แทน “ลัวะ”

ทั้งนี้ คชท. และภาคีองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ขอให้กำลังใจในการนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ถูกเกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมือง และยินดีที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะติดตามการนำเสนอข่าวและการแสดงความรับผิดชอบของหน่วยงานท่านในครั้งนี้

ทางด้าน นางสาวศศิวิมล พงษ์ปรีชา กล่าวยอมรับเป็นความผิดพลาดด้านการสื่อสารโดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาเลือกปฏิบัติ และมีบางถ้อยคำที่สื่อสารผิดพลาดไป  จึงได้กล่าวขอโทษต่อชนเผ่าพื้นเมือง และจะเสนอข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประเด็นดังกล่าวต่อไป.

You may also like

ทอท.เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ประชาชนในรัศมี 5 กม. จากสนามบินเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 เกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)โครงการพัฒนาสนามบินเชียงใหม่

จำนวนผู้