จัด Mini Exhibition นำผู้ส่งออกลำไยในภาคเหนือจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อต่างประเทศ

จัด Mini Exhibition นำผู้ส่งออกลำไยในภาคเหนือจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อต่างประเทศ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัด Mini Exhibition นำผู้ส่งออกลำไยในภาคเหนือจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อต่างประเทศ เผยปริมาณการค้าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ประมาณ 3,000 ตันและตลอดทั้งปีมีมูลค่ากว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐ

วันที่ 18 ก.ค.61 ที่โรงแรมแคนทารี่ ฮิลล์ อ.เมืองเชียงใหม่ นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน Mini Exhibition และกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้า ในโครงการผลักดันการส่งออกผลไม้ภาคเหนือ โดยการเชื่อมโยงการค้ากับตลาดศักยภาพในอาเซียน เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้นตามนโยบายในการพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจไทยเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง และเร่งรัดการส่งออกเพื่อระบายสินค้าเกษตรในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมาก

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้รับทราบสถานการณ์ผลผลิตลำไยในพื้นที่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ โดยคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2561 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ดังนั้น ในการแก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบจากปริมาณผลผลิตลำไยที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาดจำนวนมาก กระทรวงพาณิชย์จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งจัดหาตลาดใหม่ และช่องทางการค้าใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดเดิม เช่น อินโดนีเซีย และจีน นอกจากนั้น ยังเป็นการวางแผนการส่งออกสินค้าผลไม้ในระยะยาว โดยแสดงให้ผู้ซื้อได้เห็นถึงศักยภาพของผลไม้ภาคเหนือและผลิตภัณฑ์จากผลไม้ โดยเฉพาะลำไย รวมถึงเป็นการเร่งผลักดันการส่งออกลำไยฤดูการผลิตที่จะถึงนี้

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ได้เชิญ ผู้ซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งกรมฯ ได้คัดสรรผู้ซื้อรายสำคัญและมีศักยภาพในการนำเข้า จากตลาดใหม่ๆ ถึง 12 บริษัท จาก 6 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ อินเดีย ตะวันออกกลาง (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน) สิงคโปร์ และมาเลเซีย รวมถึงขยายช่องทางการส่งออกในตลาดเดิม (จีน) ผ่านการค้าออนไลน์ (E-Commerce) โดยเชิญผู้แทนจากบริษัท Win-Chain Import Fruit Business Unit ซึ่งเป็นบริษัทจัดซื้อสินค้าผลไม้ของเว็บไซต์ TMall (บริษัทในเครืออาลีบาบา) เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยจะมีผู้ส่งออกลำไยในพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับการคัดสรรเข้าร่วมกว่า 20 ราย โดยคาดการณ์มูลค่าเจรจาการค้าที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เฉพาะช่วงจัดงานประมาณ 3,000 ตัน และกว่า 23,000 ตัน ภายใน 1 ปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 560 ล้านบาท (1 ตัน มูลค่าประมาณ 700 เหรียญสหรัฐฯ) และหลังจากมีการเจรจาธุรกิจแล้ว ทางกรมฯ ได้จัดกิจกรรมเยี่ยมชมสถานประกอบการ โดยนำคณะผู้นำเข้าเข้าเยี่ยมสถานประกอบการผู้ผลิตลำไยและผลิตภัณฑ์แปรรูป เพื่อแสดงถึงศักยภาพและมาตรฐานของอุตสาหกรรมผลไม้ภาคเหนือและผลิตภัณฑ์ลำไยไทยอีกด้วย

นางวรรณภรณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการเสวนาหัวข้อ “ติดอาวุธนักธุรกิจผลไม้ภาคเหนือ…ขับเคลื่อนการค้าผลไม้อย่างไรในยุคดิจิทัล” โดยวิทยากรผู้มากประสบการณ์ ได้แก่ รศ.ดร.สมบัติ  ชิณะวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Creative and Innovation จากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Mr. Jason Xiang, Senior Sourcing Manager จาก Win-Chain Import Fruit   Business Unit ผู้แทนTmall Fresh คุณปรีชา พูลกำลัง ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์การเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีทีที เอ็กซ์เพรส จำกัด โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบการในพื้นที่และผู้ที่สนใจในธุรกิจส่งออกสินค้าผลไม้และผลิตภัณฑ์จากผลไม้ และสร้างการตระหนักรับรู้และสร้างความเข้าใจในการพัฒนาคุณภาพสินค้า การสร้างมูลค่าเพิ่ม การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ของสินค้า และการค้าในรูปแบบ E-commerce.

You may also like

ทอท.เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ประชาชนในรัศมี 5 กม. จากสนามบินเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 เกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)โครงการพัฒนาสนามบินเชียงใหม่

จำนวนผู้