3 ชุมชนย่านวัวลาย หมื่นสาร นันทาราม และวัดศรีสุพรรณ ร่วมกันจัดงานยิ่งใหญ่ “สืบสานมรดกทางภูมิปัญญา หัตถศิลป์ถิ่นล้านนา” ด้วยพลังสร้างสรรค์ โชว์ผลงานชิ้นเอก ทั้งเครื่องเงิน เครื่องเขิน และหัตถกรรม พร้อมการแสดงดนตรีล้านนาออเคสตร้าประกอบแสงสีเสียงอลังการ เป็นครั้งแรกในบรรยากาศหน้าอุโบสถเงิน วัดศรีสุพรรณ อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นแห่งชุมชน
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกอบจ.เชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานสืบสานมรดกทางภูมิปัญญา หัตถศิลป์ถิ่นล้านนาวัดศรีสุพรรณ
เป็นที่ทราบกันดีว่า เชียงใหม่เป็นเมืองที่รุ่งเรืองทางด้านศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะงานหัตถกรรมต่างๆ ที่อยู่คู่กับชุมชนต่างๆของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่นั้น จะมีชุมชนที่มีภูมิปัญญา ในการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมอยู่หลากหลายแห่ง อย่างเช่นทั้งสามชุมชนที่ทุกท่านได้พบในงานวันนี้ ได้แก่เครื่องเงินชุมชนวัดศรีสุพรรณ การตอกดุนลายโลหะชุมชนวัดหมื่นสาร และเครื่องเขินชุมชนวัดนันทาราม นอกจากนี้ ยังมีชุมชนอื่นๆ ที่มีงานหัตถกรรมที่โดดเด่นอีกหลายชุมชน
การจัดงานสืบสานมรดกทางภูมิปัญญาหัตถศิลป์ถิ่นล้านนาในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการส่งเสริมงานหัตถกรรมของชุมชน และเป็นการอนุรักษ์สืบสานงานหัตถกรรม รักษาไว้ซึ่งมรดกทางภูมิปัญญา ที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา ให้ยังคงอยู่คู่กับจังหวัดเชียงใหม่สืบไป
นางวิลาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ และชุมชนหัตถกรรมย่านวัวลาย ได้จัดทำโครงการ“สืบสานมรดกทางภูมิปัญญา หัตถศิลป์ถิ่นล้านนา” เพื่อเป็นการอนุรักษ์และต่อยอดมรดกทางภูมิปัญญาของชุมชนย่านวัวลาย อันมีเอกลักษณ์ในการทำเครื่องเงิน เครื่องเขิน อันโดดเด่น เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกมาโดยตลอดนั้น จึงได้ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดงานดังกล่าวขึ้น ในวันที่ 26-27 สิงหาคม 2565 โดยมีทั้งการแสดงนิทรรศการช่างศิลป์ถิ่นล้านนา นิทรรศการหัตถกรรม 3 ชุมชน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมทำเวิร์คช็อปงานหัตถกรรมได้ฟรี และร้านค้าชุมชนหน้าวัด ตามแบบกาดหมั้วครัวแลง ที่สำคัญในงานนี้ ได้จัดการแสดงดนตรีอันยิ่งใหญ่ตระการตา ด้วยวงดนตรีล้านนาออเคสตร้า วง เดอะ ระมิงค์ พร้อมการแสดงแสงสีเสียง ทาบทอกับฉากหลังอุโบสถเงินอันเลื่องชื่อ ของวัดศรีสุพรรณ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ที่มีการบรรเลงเพลงล้านนาแบบออเคสตร้า ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งนี้ โดยได้สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าชม ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เสมือนเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ให้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง.
