บสย.ตั้งไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์ฯนั่งที่ปรึกษาทำแผนปรับโครงสร้างองค์กรยกระดับสู่องค์กรรัฐวิสาหกิจยุคดิจิทัล

บสย.ตั้งไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์ฯนั่งที่ปรึกษาทำแผนปรับโครงสร้างองค์กรยกระดับสู่องค์กรรัฐวิสาหกิจยุคดิจิทัล

- in headline, เศรษฐกิจ

บสย.  แต่งตั้ง ไพร้ซ์วอเตอร์เฮาส์ฯ  นั่งที่ปรึกษา ใช้เวลา 150 วันจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนวิสาหกิจเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและบุคลากร  ยกระดับสู่องค์กรรัฐวิสาหกิจ ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย.ได้ลงนามในสัญญาจ้างและแต่งตั้ง บริษัท ไพร้ซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด  เป็นที่ปรึกษาโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ และแผนวิสาหกิจ ปี 2563 ตามแผนยุทธศาสตร์ ระยะกลาง ปี 2563 -2567 แผนปฎิบัติการแผนการปรับโครงสร้างและแผนพัฒนาบุคลากร (Transformation)    เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดนโยบาย บทบาท และการดำเนินงานของ บสย. ให้เป็นไปตามแนวทาง และข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้เสีย  ภายใต้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และกระแสดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว   โดยจะนำมาใช้เป็นแผนวิสาหกิจ และแผนปฎิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมในการปรับโครงสร้างองค์กร  กล่าวได้ว่า โครงการนี้ จะเป็นการยกเครื่ององค์กรครั้งสำคัญในรอบ 27 ปีของ บสย. เพื่อก้าวสู่องค์กรรัฐวิสาหกิจยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

สำหรับขอบข่ายการทำงานที่สำคัญของบริษัท ไพร้ซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์  คอลซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด จะประกอบด้วย  1.แผนการบริหารจัดการธุรกิจรูปแบบใหม่ (New Business Model)  2. แผนการบริหารจัดการโครงสร้างองค์กรและระบบงาน 3.แผนการบริหารบุคคล (HR Strategy)  โดยโครงสร้างระบบงานและระบบการบริหารบุคลากร จะเป็นการทำงานควบคู่สอดคล้องกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม และส่งเสริม สนับสนุนการทำงานของบุคลากร ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนนำไปสู่การพัฒนาองค์กรต่อไป ซึ่งบริษัทฯ จะใช้เวลา 150 วันในการดำเนินการ นับจากวันที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลที่ได้จากแผนการปรับโครงสร้างและแผนพัฒนาบุคลากร (Transformation)  จะก่อให้เกิดแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ของ บสย. ซึ่งจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs  ทุกกลุ่ม โดยเน้นให้ความช่วยเหลือสนับสนุนตามความต้องการของแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม ทั้ง SMEs กลุ่มที่มีศักยภาพ แต่ยังต้องอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐ และกลุ่มที่ บสย. สามารถคัดกรองระดับศักยภาพ ความสามารถ และมีแนวทางในการพัฒนา เพื่อปรับลดระดับการพึ่งพิงภาครัฐ นอกจากนี้ การปรับตัวของ บสย.ครั้งนี้ ยังรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อที่สร้างโอกาสด้านรายได้  การปรับลดค่าเสียโอกาสในการใช้งบสนับสนุนจากภาครัฐให้ลดลงกลับมาเป็นโยชน์มากขึ้น เพื่อยกระดับการดำเนินงานและสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพให้แก่ บสย.ในอนาคต ซึ่งการปรับโครงสร้างองค์กรจะดำเนินการสิ้นสุดภายในเดือน สิงหาคม 2562.

You may also like

เริ่มแล้วกับงาน“AMAZING CHIANG MAI COUNTDOWN 2025”เข้าชมฟรีททท.คาดเงินสะพัด3.5 พันล้านบาท เผยยอดจองที่พักพุ่งกว่า 91%

จำนวนผู้