ปลัดก.เกษตรเปิดโครงการขับเคลื่อนไทยนิยมหนุนเกษตรกรปลูกสตอเบอรี่แปลงใหญ่

ปลัดก.เกษตรเปิดโครงการขับเคลื่อนไทยนิยมหนุนเกษตรกรปลูกสตอเบอรี่แปลงใหญ่

ปลัดก.เกษตรและสหกรณ์คิกออฟโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในการพัฒนาฟื้นฟูแหล่งน้ำชลประทานเพื่อป้องกันและบรรเทาอุทกภัยและบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งให้กับพื้นที่ปลูกสตรอเบอรี่แปลงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่บ่อแก้วสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 28 พ.ค. 61 เวลา 14.00 น. ที่บริเวณแก้มลิงหนองบ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการเริ่มต้นขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดยมี นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ นายอำเภอสะเมิง พร้อมด้วยข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น เกษตรกรผู้ปลูกสตรอเบอร์รี่ และราษฎรในพื้นที่ให้การต้อนรับ ในส่วนของหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติการในคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัดของจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1  นำโดย นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 รายงานความเป็นของโครงการ

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่ครม.มีมติเมื่อ 16 มกราคม 2561 เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 20 ปี (2560-2579) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีกรอบหลักในการดำเนินงาน 10 เรื่อง ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนโครงการ ในส่วนของกรมชลประทาน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างแรงงานสร้างรายได้ การส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ การพัฒนาแหล่งน้ำสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการพัฒนาฟื้นฟูแหล่งน้ำชลประทานเพื่อป้องกันและบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้ง

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า การขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืน เป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีการ KICKOFF พร้อมๆ กันทุกโครงการ ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 สำหรับโครงการที่สนับสนุนการพัฒนาในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นโครงการจัดหาน้ำให้กับพื้นที่ปลูกสตรอเบอร์รี่แหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในเขตตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง มีด้วยกัน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการแก้มลิงหนองบ่อแก้ว พร้อมระบบส่งน้ำและอาคารประกอบ โดยการขุดลอกสระเพื่อเพิ่มขนาดความจุในการเก็บกักน้ำ จำนวน 2 สระการขุดลอกสระเก็บน้ำแห่งที่ 1 ความจุ 95,000 ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้สระเก็บน้ำเดิมมีความจุเพิ่มขึ้นอีก 27,870 ลบ.ม. ส่วนการขุดลอกสระเก็บน้ำแห่งที่ 2 ความจุ 120,000 ลบ.ม. จะช่วยเพิ่มขนาดความจุจากเดิมอีก 55,790 ลบ.ม. พร้อมกับการก่อสร้างคลองดาดคอนกรีตทดแทนคลองดินที่มีแต่เดิม ความยาว 1,636 เมตร

ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนอีกโครงการจะเป็นการปรับปรุงอาคารท่อระบายปากคลองส่งน้ำ (ทรบ.) พร้อมอาคารประกอบลำเหมืองห้วยน้ำใส เป็นการปรับปรุงทำนบดินหนองสมบูรณ์ โดยก่อสร้างทำนบดินใหม่ สูง 3 เมตร พร้อมก่อสร้างอาคารประกอบ ความจุ 480,000 ลบ.ม. โครงการนี้จะทำให้ความจุหนองสมบูรณ์เพิ่มขึ้น 30,000 ลบ.ม. พร้อมก่อสร้างอาคารอัดน้ำในลำห้วยน้ำใส จำนวน 7 แห่ง และขุดลอกลำห้วยน้ำใส ยาว 2,500 เมตร

“เมื่อดำเนินการโครงการแล้วเสร็จ พื้นที่แก้มลิงที่ได้รับการปรับปรุงจะมีความจุเพิ่มขึ้น 86,660 ลบ.ม.สามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรในเขตพื้นที่บ้านหมู่ที่ 1, 4, 5 และหมู่ที่ 10 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประมาณ 1,300 ไร่ รวมถึงสามารถส่งน้ำสนับสนุนการดำเนินการต่างๆ ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮได้เป็นอย่างดี คาดจะสร้างรายได้และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนได้ อันเป็นเป้าประสงค์ของโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในการจะให้ประชาชน ชุมชน อยู่ดีมีสุข” ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าว

นายเลิศวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนรับผิดชอบของกรมชลประทานในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังมีการดำเนินการเกี่ยวกับเมนูการจ้างแรงงานชลประทาน บำรุงรักษาอาคารชลประทาน สร้างรายได้แก่เกษตรกร อีก 4 โครงการ งบประมาณ 4.4 ล้านบาท สามารถจ้างแรงงาน ผู้ขึ้นทะเบียน ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำได้กว่า 177 คน ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามกรอบการขับเคลื่อนคนไทยไม่ทิ้งกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ยางพาราในงานซ่อมแซมถนนชลประทาน ถนนบนสันเขื่อน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสัญจรในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร จำนวน 17 โครงการ ครอบคลุม 10 อำเภอ ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะมีการใช้น้ำยางพารามากกว่า 55 ตัน เมื่อถนนยางพาราที่ได้รับการปรับปรุงแล้วเสร็จ จะมีราษฎรได้รับประโยชน์ กว่า8,449 ครัวเรือนด้วย.

You may also like

กกท. จัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลก “Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 presented by SAT”หวังสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมกระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่น

จำนวนผู้