ผู้ว่าฯเชียงใหม่นำทีมเยี่ยมชมศูนย์การค้าเซนทรัลเฟสฯ ดูการวางแนวทางก่อนเปิดบริการในวันที่ 17 พ.ค.หลังศบค.มีมติผ่อนปรนระยะ 2 กำชับให้ยึดปฏิบัติทั้งประชาชนผู้มาใช้บริการและผู้ประกอบการ เผยหากทีมติดตามตรวจสอบพบฝ่าฝืนสามารถสั่งปิดเฉพาะที่ได้
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.63 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5,นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนมาตรการผ่อนปรน โดยมี คุณอรชร จันทร์วิวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฎิบัติการสาขาเขตภาคเหนือ และคณะผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับพร้อมกับนำชมตัวอย่างแนวทางและมาตรการของร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้าฯ ทั้งร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า ร้านตัดผม ศูนย์อาหารและห้องน้ำ
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ทางคณะกรรมการมาเยี่ยมชมดูการทำงานของทีมป้องกันโรคระบาดของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และทีมผู้ประกอบการ ซึ่งได้มีการประชุมและวางแนวทางปฏิบัติร่วมกันไว้หากมีการผ่อนปรนและเปิดให้บริการได้แล้วจะมีวิธีการให้บริการอย่างไรเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแนวทางปฏิบัตินี้ใช้แบบเดียวกันทุกห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าหลังจากที่ศบค.ได้ประกาศมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 ออกมา
“สำหรับที่เซ็นทรัล เฟสติวัลเชียงใหม่นี้มีรายละเอียดในการปฏิบัติแต่ละแผนกและการบริการในภาพรวม เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการปฏิบัติ ซึ่งได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าจะต้องมีการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือประชาชนที่มาใช้บริการด้วย โดยเฉพาะมาตรการทางสังคม การเว้นระยะห่าง การใช้เจลแอลกอฮอลล์ และการสวมหน้ากากทุกครั้ง”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า
ในส่วนของการเข้าใช้บริการในห้างหรือศูนย์การค้าก็จะเป็นไปตามข้อกำหนดคือเนื้อนี้ 4 ตารางเมตรต่อคน ดังนั้นห้างหรือศูนย์การค้าฯมีพื้นที่ใช้สอยกี่ตารางเมตรก็ต้องคำนวณจำนวนคนที่เข้าใช้บริการ และได้ให้แต่ละพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านต่างๆ ที่เปิดบริการให้คนเข้าไปใช้บริการต้องกำหนดจำนวนคนและมีเครื่องหมายสัญญาณเตือนหรือแจ้งให้คนที่กำลังจะเข้าไปใช้บริการได้รู้ว่าในขณะนั้นพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ใช้บริการจำนวนเท่าไหร่ และขาดหรือเต็มจำนวนที่กำหนด โดยใช้สัญญลักษณ์ไฟเตือนหรือเครื่องหมายแสดงคิวก็แล้วแต่จะบริหารจัดการ รวมถึงจำนวนคนที่เข้า-ออกศูนย์การค้าฯด้วย เหมือนกับจำนวนช่องว่างที่จอดรถที่มีตัวเลขดิจิตอลบอกว่าพื้นที่โซนไหนมีที่ว่างเท่าไหร่หรือเต็มแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการผ่อนปรนระยะที่ 2 คือเรื่องของการหย่อนยาน ทั้งของพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการ ซึ่งจังหวัดขอเน้นย้ำให้เป็นวินัยในการปฏิบัติ เพราะในส่วนของจังหวัดเองจะมีทีมที่ออกตรวจตราตลอดเวลา หากฝ่าฝืนทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดจะมีคำสั่งปิดเฉพาะที่ได้ นอกจากนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังเปิดช่องทางให้ประชาชนที่พบเห็นว่ามีการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ข้อกำหนดทั้งทางเฟสบุ๊ค ไลน์และที่ศูนย์ดำรงธรรม โดยขอให้ประชาชนช่วยเป็นหู เป็นตาด้วยเพื่อให้พวกเราสามารถใช้ชีวิตปกติในรูปแบบใหม่หรือ New Normal ได้
ทางด้านนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการเดินสำรวจพบว่าทางศูนย์การค้าฯพยายามที่จะทำตามข้อตกลงที่คณะกรรมการควบคุมฯโรคกำหนดไว้ แต่จะต้องมีการปรับปรุงเรื่องของทางเข้าออก ที่ต้องวางหรือกำหนดจุดการเว้นระยะห่างก่อนเข้าห้าง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องการต่อไปคือทางห้างหรือศูนย์การค้าจะต้องจัดทีมงานดูแลในเรื่องการให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไข ทั้งนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะมีทีมงานคอยตรวจสอบประเมินอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในระหว่างที่สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศยังไม่แน่นอนนั้น บริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้ริเริ่มการจัดทำแผนแม่บท ‘เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ’ เพื่อยกระดับมาตรการความสะอาดและความปลอดภัยในเชิงรุกไว้ล่วงหน้า ที่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริงกับศูนย์การค้า ร้านค้า และพนักงานทุกคน เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการลดการแพร่ระบาด และทำให้ทุกคนในศูนย์การค้าของเราปลอดภัยขั้นสูงสุด อีกทั้งเพื่อตอบรับ ‘New Normal’ หรือพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งบริษัทฯ ไม่สงวนสิทธิ์ในแผนงานนี้ เพื่อส่งเสริมให้เป็นแผนแม่บทในการดำเนินกิจการค้าปลีกของประเทศ และกำหนดบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคม นับจากนี้ไป ซึ่งครอบคลุมในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยใน 5 แกนหลัก กว่า 75 มาตรการ ได้แก่ (1) การคัดกรองอย่างเข้มงวด, (2) มาตรฐาน Social Distancing ทุกจุด, (3) การติดตามเพื่อความปลอดภัย, (4) การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดสัมผัส และ (5) แนวทางลดการสัมผัส (Touchless) โดยจะขอความร่วมมือจากพันธมิตรร้านค้าทุกร้านค้าในศูนย์การค้าให้ร่วมกันดำเนินตามแผนแม่บท ‘เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ’ ร่วมกัน เพื่อฝ่าฝันวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
ทั้งนี้มาตรการคลายล็อก ผ่อนปรนระยะที่ 2 ศบค.มีมติให้เปิดกิจการเพิ่มเติม มีผล 17 พฤษภาคม นี้ แบ่งกิจกรรมเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.กลุ่มสีขาว กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต การจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ในโรงแรม ท่าอากาศยาน ห้ามบริโภคที่ร้าน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดบริการได้ ให้บริการในเวลา 20.00 น. *โรงภาพยนตร์ คาราโอเกะ ยังปิดเหมือนเดิม*เปิดร้านอาหารและเครื่องดื่มภายในหน่วยงาน อาคารสำนักงาน แต่*ห้ามบริโภคสุราในร้าน* ร้านค้าปลีก ร้านค้าย่อย ค้าส่งขนาดใหญ่ ตลาดนัด ตลาดน้ำ เปิดได้
2 กิจกรรมด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ เช่น คลินิกเวชกรรม สถานเสริมความงาม สามารถทำได้เฉพาะเรือนร่าง ยกเว้นการเสริมความงามบนใบหน้า เพราะยังมีความเสี่ยง ปิดในส่วนคลินิกควบคุมน้ำหนัก สัดส่วน ห้ามสัก เจาะ / อาบ อบนวด อาบน้ำสมุนไพร เปิดกิจกรรมออกกำลังกาย โรงยิม ฟิตเนส เปิดเฉพาะกีฬาที่ไม่มีการปะทะ เล่นไม่เกิน 3 คน เช่น แบดมินตัน ปิงปอง ฟันดาบ ปีนผา ส่วนฟิตเนสเปิดเฉพาะเล่นด้วยตัวเอง ไม่มีเล่นแบบกลุ่ม และไม่ให้ใช้ลู่วิ่ง จักรยาน เพราะมีการสัมผัสต่อกันได้ สระว่ายน้ำสาธารณะ จำกัดเล่นไม่น้อยกว่า 7 ฟุต ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้ตามจำนวนเลนของการว่าย จำกัดการบริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง และยังให้ปิดสนามมวย ยิม โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ ต่อไป
3 กิจกรรมอื่นๆ เปิดเพิ่มห้องประชุม ศูนย์ประชุมได้ แต่เปิดให้เฉพาะจัดประชุมหน่วยงาน ต้องสามารถติดตามได้ ให้โรงแรมเปิดได้ ห้องสมุดสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ เปิดได้ ส่วนกิจการถ่ายภาพยนต์และวีดีทัศน์ หน้าฉากรวมกลุ่มไม่เกิน 10 คน รวมทีมงานไม่เกิน 50 คน
ส่วนการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ ยังคงมาตรการเดิม ยังไม่เปิดสนามบินให้ชาวต่างชาติลง ปรับระยะเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานเป็น 23.00 น.- 04.00 น. และงดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด.