ฝุ่นควันพ่นพิษ ผู้ประกอบการเกสท์เฮ้าส์ครวญนักท่องเที่ยวกลุ่มDigital Nomadsขอเช็คเอ้าท์เผ่นออกจากเชียงใหม่ เผยต่างชาติชี้เป็น Season Burning

ฝุ่นควันพ่นพิษ ผู้ประกอบการเกสท์เฮ้าส์ครวญนักท่องเที่ยวกลุ่มDigital Nomadsขอเช็คเอ้าท์เผ่นออกจากเชียงใหม่ เผยต่างชาติชี้เป็น Season Burning

ผู้ประกอบการเกสท์เฮ้าส์เชียงใหม่เดือดร้อนหนักหลังนักท่องเที่ยวกลุ่มคนทำงานยุคดิจิทัล แบบไร้ออฟฟิศ (Digital Nomads) ขอเช็คเอ้าท์เผ่นออกจากเชียงใหม่ เผยต่างชาติชี้เป็น Season Burning  ชี้สถานการณ์ปีนี้แย่และหนัก ฝุ่นควันฯมาเร็วและรุนแรง ขณะที่วอร์รูมเชียงใหม่สั่งทุกอำเภอปรับแผน หลังจุดความร้อน Hotspot พุ่งสูงถึง 60 จุดภายในคืนเดียว ขณะที่ภาคเหนือพบถึง 1,525 จุด มากสุดที่จ.ตาก

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กpm2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือเริ่มกลับมาวิกฤติอีกระลอก จุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ เริ่มมีมากขึ้นหลายจังหวัด ส่งผลต่อคุณภาพอากาศโดยรวม ทั้งภาคเหนือมีจุด Hotspot วันที่ 28 ก.พ. 66 เวลา 02.08 น. มากถึงจำนวน 1,525 จุด โดยจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือจ.ตาก 325 จุด รองลงมาคืออุตรดิตถ์  168 จุดแพร่  161 จุด,น่าน  157 จุด,ลำปาง  144 จุด,พิษณุโลก 100  จุด,เพชรบูรณ์  89 จุด,ลำพูน  82 จุด,อุทัยธานี  60 จุด,เชียงใหม่  59  จุด,แม่ฮ่องสอน  40 จุด,สุโขทัย  40 จุด ,กำแพงเพชร 39 จุด,พะเยา  37 จุด,นครสวรรค์ 18  จุด,เชียงราย 5 จุดมีเพียงพิจิตรที่ไม่พบจุดความร้อน

ทางด้านนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผวจ.เชียงใหม่ในฐานะรองผอ.ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นฯpm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ศูนย์ฯอำเภอให้ปรับแผนการทำงาน เนื่องจาก Gisda รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot)ประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 รอบเช้า จำนวน 60 จุด อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์  ประกอบด้วยอมก๋อย 14 จุด ,จอมทอง 13 จุด,ฮอด 3 จุด,ดอยเต่า 3 จุด,ดอยหล่อ 3 จุด,แม่วาง 3 จุด,แม่แตง 2 จุด,สันกำแพง 1 จุด,ดอยสะเก็ด 1 จุด,สะเมิง 1 จุดและไชยปราการ 1 จุด

อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.อมก๋อย 5 จุด,แม่แจ่ม 3 จุด,ดอยเต่า 1 จุด,สันทราย 1 จุด,ดอยสะเก็ด 1 จุด,แม่แตง 1 จุดและแม่วาง 1 จุด นอกจากนี้ยังพบในเขต สปก.ที่อ.แม่วาง 1 จุด ชุมชนและอื่น ๆ ในอ.ฮอด 1 จุด โดยสั่งการให้บูรณาการทุกหน่วยงาน 1.ให้เข้าดับไฟทุกจุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 2.ประชาสัมพันธ์ให้ ปชช.ทราบเรื่องมาตรการห้ามเผา 3.จัดชุดลาดตระเวนโดยเฉพาะพื้นที่สีแดง (พื้นที่มีสถิติมีการเผามาก) 4.ให้เข้มงวดกับผู้เข้าป่าเพื่อหาของป่าหรือล่าสัตว์ 5.ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ให้ได้ 6.ให้ทำความสะอาดถนน รดน้ำต้นไม้หรือพ่นฝอยละอองนำ้เพิ่มความชุ่มชื่นให้บรรยากาศ 7.รายงานผลการปฏิบัติให้จังหวัดทราบด้วย

ทางด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐานในจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ เป็นผลจากการเกิดไฟป่าในพื้นที่อื่นและฝุ่นควันได้ไหลมารวมอยู่ในพื้นที่ โดยยืนยันว่าขณะนี้ทุกหน่วยได้ควบคุมสถานการณ์ได้ดีและจำนวนจุดความร้อนก็อยู่ในระดับคงที่แล้ว

ส่วนทางด้านนายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอแม่ออน ได้แจ้งศูนย์ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าฯเดิมของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21.00 น. เกิดไฟป่าลุกลามวงกว้าง  ฝั่งทิศเหนือของสนามกอล์ฟอัลไพน์ตั้งแต่ช่วงเย็นนั้น   จากการตรวจสอบพิกัด พบว่าอยู่ในเขตตำบลห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน       อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามข้อตกลง(mou)และการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้อำเภอแม่ออนได้ประสานทีมอำเภอบ้านธิ  จังหวัดลำพูน อำเภอสันกำแพง หน่วยควบคุมไฟป่าของอุทยานแม่ตระไคร้ และหน่วยเหยี่ยวไฟ เข้าพื้นที่และนัดหมายกัน 08.00 น. วันที่ 28 ก.พ.66โดยชุดบินโดรนของหน่วยเหยี่ยวไฟ มาสนับสนุน การปฏิบัติด้วย

ทางด้านนางสาวทิวาพร  ภัทราวราพันธ์ เจ้าของเกสท์เฮ้าส์@phasing Repro เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่นควันส่งผลกระทบทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อย่างมาก  ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการเกสท์เฮ้าส์ ซึ่งเพิ่งจะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายได้ไม่กี่เดือนก็มาเจอปัญหามลพิษจากฝุ่นควันอีก เพราะที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวพักทั้งรายวันและรายเดือน แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวที่เช่าไว้ว่าจะอยู่ยาวถึงเดือนเมษายน มาขอยกเลิกที่จองไว้และบอกว่าจะรอจนกว่าจะหมดฤดูเผาป่าก่อนจะกลับมาใหม่

“นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาพักที่เกสท์เฮ้าส์พี่ เป็นกลุ่มที่ Digital Normads เพราะเชียงใหม่อยู่ในอันดับ 3 ของโลกเป็นจุดหมายยอดฮิต คนทำงานยุคดิจิทัล แบบไร้ออฟฟิศ (Digital Nomads) ซึ่งข้อมูลของเว็บไซต์ชุมชนของ Digital Nomads ก็ระบุว่า จุดหมายปลายทางชั้นนำ อันดับที่ 3 คือ เชียงใหม่ ประเทศไทย เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีครบ ทั้งธรรมชาติ และวัฒนธรรม อาหาร และที่พักอาศัย แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวมาพูดกับพี่ว่าขอเช็คเอ้าท์ก่อนเวลา เขาขอหนีลงใต้ รอให้สถานการณ์ให้ดีขึ้นก่อนค่อยมา เขาบอกว่าเชียงใหม่ตอนนี้เป็น Burning Season เป็นฤดูเผาป่า เขาไม่ได้พูดเลยว่าเชียงใหม่มีปัญหา Smoke  เขาบอกเขาเองพอเจอสภาพอากาศแบบนี้ก็ขอหนีไปที่อื่นก่อน แต่เขาสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไทย ราชการไทยถึงไม่แก้ไขปัญหา ไม่ห่วงสุขภาพอนามัยของประชากรเขาเลยหรือ”นางสาวทิวาพร กล่าวและว่า

ปีนี้สถานการณ์ฝุ่นควันมาเร็วและหนักกว่าทุกๆ ปี กลางเดือนกุมภาพันธ์นักท่องเที่ยวก็อยู่ไม่ได้แล้ว หนีออกพื้นที่กัน เกสท์เฮ้าส์พี่มีห้องพัก 10 กว่าห้อง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากยุโรปและ อเมริกา ไม่มีเอเชียเลยตั้งแต่หลังโควิดแล้วก็ส่วนใหญ่เช่ารายเดือน ตอนสถานการณ์ฝุ่นควันเริ่มวิกฤตเมื่อกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวก็มาคุยว่าอยู่กันได้อย่างไร เขาขอให้ติดเครื่องฟอกอากาศเราก็ไม่สามารถทำได้เพราะต้นทุนสูง ต้องใช้เครื่องฟอกจำนวนมาก ในช่วงกลางวันพวกเขาก็ไปอยู่ในร้านกาแฟ ร้านอาหารที่มีเครื่องฟอกอากาศ แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นมาอีก คราวนี้เขาขอเช็คเอ้าท์เลย

น.ส.ทิวาพร กล่าวด้วยว่า แม้แต่ตัวเองก็ยังมีอาการ ทุกครั้งที่ไม่ได้อยู่ในห้องที่มีเครื่องฟอกอากาศก็จะเจ็บคอ ไอ แสบตา ซึ่งจริงๆ ตนก็อยู่เชียงใหม่มานานถามว่ามองการแก้ปัญหาของราชการเป็นอย่างไรก็พูดได้แค่ว่าเหมือนเดิม ไม่เคยมีอะไรดีขึ้น ปีนี้ยิ่งแย่จากที่เอาตัวเองเป็นตัววัดเพราะไม่เคยอาการหนักแบบนี้มาก่อน ปกติช่วงฝุ่นควันจะมาเดือนมี.ค.-เม.ย.แต่ปีนี้มาเร็ว หากถามว่าอยากเสนอหรือเรียกร้องอย่างใดก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน เพราะเขาก็พูดกันต่อๆ มานานแล้วว่าถ้าหากไม่เผาป่าก็จะไม่มีเงินลงมาสู่ชุมชน เรารู้มาแบบนี้ไม่รู้จริงไม่จริง แต่เราได้รับผลกระทบทุกปีและไม่เห็นว่าสถานการณ์มันดีขึ้น.

 

You may also like

เริ่มแล้วกับงาน“AMAZING CHIANG MAI COUNTDOWN 2025”เข้าชมฟรีททท.คาดเงินสะพัด3.5 พันล้านบาท เผยยอดจองที่พักพุ่งกว่า 91%

จำนวนผู้