เครือข่ายเอกชนภาคการท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือเตรียมยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จเพิ่มเติมและเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีขอมืออาชีพมาทำงานแก้ปัญหาไมซ์

เครือข่ายเอกชนภาคการท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือเตรียมยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จเพิ่มเติมและเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีขอมืออาชีพมาทำงานแก้ปัญหาไมซ์

- in headline, เศรษฐกิจ

เครือข่ายเอกชนภาคการท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และเครือข่ายแนวร่วมอื่น เตรียมยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จเพิ่มเติมและเข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำกับดูแล สสปน. เพื่อเรียกร้องขอคัดสรรคนมีประสบการณ์ เข้าใจคนพื้นที่ทำงานแก้ปัญหาไมซ์อย่างมืออาชีพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายเอกชนภาคการท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนได้จัดประชุมเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สสปน. หรือ ทีเส็บ พื้นที่ภาคเหนือ โดยกล่าวหาว่าก่อให้เกิดความไม่ลงรอยและไม่พอใจในกลุ่มของภาคเอกชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จน เกิดเป็นประเด็นปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในพื้นที่ ที่ผ่านมานั้น

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือประเด็น การละเลยใส่ใจของผู้บริหาร สสปน. ต่อกรณีปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว รวมถึงการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพกับภาคเอกชนในพื้นที่ จน เกิดเป็นปัญหาคาราคาซังเรื้อรังมานาน หลังจากภาคเอกชนในพื้นที่ ได้มีการส่งเสียงร้องขอให้คัดสรรบุคคลากรที่มีประสบการณ์ มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่มาทำงานในพื้นที่ แต่ผู้บริหารของ สสปน.ก็ยังไม่ใส่ใจ ซึ่งภาคเอกชนเกรงว่า การละเลยดังกล่าวอาจส่งผลต่อการยอมรับของผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือ อันนำไปสู่ความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นปัญหาดังกล่าวยัง ส่งผลให้ความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมของไมซ์ภาคเหนือลดต่ำลงกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านไมซ์สูงมาก นักเดินทางไมซ์จากในประเทศและต่างประเทศเดินทางเข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ ถ้าผู้บริหารให้ความสำคัญและใส่ใจกับความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ เชื่อว่าไมซ์จะเป็นกลไกสำคัญในการนำรายได้จำนวนมากเข้าสู่พื้นที่และชุมชนภาคเหนือได้เป็นอย่างดี

ด้านนายประธาน  อินทรียงค์   ประธานเขตภาคเหนือ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เท่าที่ผ่านมา การทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่าง TCEB  กับเครือข่ายภาคเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่ของภาคเหนือนั้น  TCEB ไม่ได้ให้ความสำคัญกับภาคเอกชนตามกรอบกฎหมาย  ที่ต้องทำงานบูรณาการร่วมกัน  จากการประชุมหารือร่วมกันพบปัญหาลักษณะเดียวกันแทบทุกจังหวัด  นอกจากนี้ในบางจังหวัด TCEB  ยังลงพื้นที่ทำงานไปยังภาคธุรกิจโดยตรง โดยไม่เห็นความสำคัญต่อองค์กรที่ถูกตั้งขึ้นตาม  พรบ. ที่ต้องรองรับการทำงานบูรณาการร่วมกัน

ทั้งนี้ เครือข่ายเอกชนภาคการท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และเครือข่ายแนวร่วมอื่น เตรียมยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จเพิ่มเติมและเข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำกับดูแล สสปน. เพื่อเรียกร้องต่อกรณีปัญหาดังกล่าวที่ยังไมได้รับการใส่ใจและตั้งใจแก้ไขอย่างเป็นมืออาชีพต่อไป.

You may also like

เริ่มแล้วกับงาน“AMAZING CHIANG MAI COUNTDOWN 2025”เข้าชมฟรีททท.คาดเงินสะพัด3.5 พันล้านบาท เผยยอดจองที่พักพุ่งกว่า 91%

จำนวนผู้