เชียงใหม่สั่งเข้มห้ามทิ้งด่าน อย่าปล่อยช่องว่าง ยึดกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นตรวจจับ เมายึดรถดำเนินคดี เผยมี 47 สถานบันเทิงที่ได้รับอนุญาตเปิดถึง 6 โมงเช้า ส่วนสถานประกอบการที่คล้ายเปิดได้แค่เที่ยงคืนฝ่าฝืนสั่งปิดทันที ผวานักท่องเที่ยวแห่มาสัมผัสหนาว“รองฯอุ้ย”ปรี๊ดเมืองท่องเที่ยวชูวัฒนธรรมประเพณี ธรรมชาติ ยันไม่สนพวกเปลี่ยนที่เที่ยวดื่มกิน ยาหอมอำเภอไหนไม่มีอุบัติเหตุจะพิจารณาความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2562 พร้อมกับประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลไปยัง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวสรุปผลการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯประจำวันที่ 27 ธ.ค.61 ซึ่งเป็นวันแรกของการเก็บสถิติ 7 วันอันตรายว่า จังหวัดเชียงใหม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 19 ครั้ง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20 คน แยกเป็นชาย 14 คนหญิง 6 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติต่างๆ ภาพรวมจะดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เนื่องจากผู้ตายทำงานที่สถานบันเทิงและกำลังจะกลับบ้าน ตรวจแล้วในร่างกายไม่มีแอลกอฮอลล์ สวมหมวกกันน๊อค และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจดูกล้องวงจรปิดพบว่ารถยนต์ปิกอัพเพิ่งเข้าไปจอดได้ไม่นานแล้วผู้ตายขี่ไปชนท้ายได้รับบาดเจ็บและมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งได้ให้ทางประกันภัยเข้าไปดูแลเรื่องสิทธิต่างๆ ให้เนื่องจากเป็นคนต่างจังหวัดด้วย
“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมีการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวและยานพาหนะต่างถิ่นจะเข้ามามากกว่าปีที่ผ่านมา 20% ได้กำชับไปทุกพื้นที่ ทุกหน่วยงานแล้ว โดยเฉพาะชุดเคลื่อนที่เร็ว ไม่อยากให้ด่านชุมชนตั้งอยู่กับที่แต่ต้องพร้อมเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ที่จัดงาน จัดกิจกรรมในพื้นที่เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่ามีการจัดงานตรงไหนบ้าง ให้เข้าไปเตือนและขอร้อง โดยเฉพาะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หากไม่เชื่อฟังก็ให้สนธิกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วซึ่งมีทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเพื่อบังคับใช้กฎหมาย”รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า
ในด่านตรวจต่างๆ ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเมาไม่ขับ ไม่ปฏิบัติตามกฎ ปีนี้หากพบปริมาณแอลกอฮอลล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดให้ยึดรถทันที ทางทหารก็พร้อมสนับสนุนพื้นที่จอดรถเพิ่มด้วย ด่านตรวจต้องไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นใครยิ่งใหญ่ระดับไหนหากดื่มหรือมึนเมาให้ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ให้หมด และไม่ต้องร้องขอความช่วยเหลือ ไม่ต้องอ้างใครทั้งนั้น ไม่มียกเว้นทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน คนที่เข้าเวรขอให้อย่ามีช่องว่างในช่วงที่สับเปลี่ยน หากคนที่สับเปลี่ยนเวรยังไม่มาให้ปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน เพราะขณะนี้ดูสถิติต่างๆ ทั้งห้วงเวลาเกิดเหตุ ยานพาหนะและปัจจัยที่เกี่ยวข้องล้วนแต่ซ้ำเดิม เพราะฉะนั้นห้ามทิ้งด่านเด็ดขาด
รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ จะต้องไม่ปล่อยให้มีการจำหน่ายตรงไหนก็ได้ พื้นที่จำหน่ายจะต้องเป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ไม่มีการออกใบอนุญาตชั่วคราว โดยเฉพาะในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หรือเคาน์ดาวน์ พื้นที่นั้นไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของใครไม่มีข้อยกเว้น หากให้เอกชนเช่าจัดกิจกรรมหรือจัดงาน และมีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ก็ต้องไม่เกินเที่ยงคืน ส่วนพื้นที่อุทยานหรือป่าไม้ไม่มีการอนุญาตอยู่แล้ว หากใครฝ่าฝืนต้องจับให้หมด
“จังหวัดเชียงใหม่มีสถานบันเทิงจำนวน 47 แห่งซึ่งในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่สามารถเปิดให้บริการได้ถึง 6 โมงเช้า โดยแยกเป็นอ.ฝาง 1 แห่ง สันทราย 2 แห่ง นอกนั้นอยู่ในเขตอ.เมืองทั้งหมด ส่วนสถานประกอบการที่คล้ายสถานบันเทิง ไม่มีสิทธิหากเปิดเกินเวลาให้สั่งปิดให้หมด และสถานบันเทิงที่ได้รับอนุญาต 47 แห่งนั้นหากปล่อยให้เยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการก็ให้ดำเนินการทางกฎหมายทันทีโดยเฉพาะการสั่งปิดสถานบันเทิงนั้นๆ โดยขอให้ทุกฝ่ายยึดกฎหมายและข้อสั่งการนี้”นายพุฒิพงศ์ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวก็จริง แต่ควรจะมาเที่ยวชมธรรมชาติ มาดูวัฒนธรรม ประเพณี ไม่ใช่มาดื่มฉลอง มาเปลี่ยนที่กิน ที่เที่ยว เราเป็นเมืองพุทธ เราไม่ต้องการคนที่จะมาเปลี่ยนที่ฉลองช่วงเทศกาลเท่านั้น สรรพสามิตขอให้ตรวจสอบเรื่องใบอนุญาตอย่างเข้มงวด อย่าเอาเทศกาลมาช่วยฉลองการค้าของตนเอง รวมถึงเรื่องการปล่อยโคมลอย โคมไฟแม้จะเป็นวันที่จังหวัดอนุญาตตามประกาศจังหวัดก็ตาม แต่ผู้ที่ยื่นขออนุญาตทั้งหมดได้ส่งรายชื่อให้ทางสรรพากรไปดำเนินการแล้ว ตั้งแต่ช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา พื้นที่ไหนขออนุญาตปล่อยโคมไฟกี่ลูกให้ตามไปจัดเก็บรายได้ให้หมด เพราะล้วนเอาไปทำในเชิงพาณิชย์หมด
นายพุฒิพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า ในขณะนี้มี 14 อำเภอที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนแล้ว แต่ถ้าหากอำเภอไหนไม่เกิดอุบัติเหตุทางจังหวัดจะพิจารณาความดี ความชอบเป็นพิเศษ และใครที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายแล้ว แต่ในช่วงนี้ยังปฏิบัติหน้าที่พื้นที่เดิมขอให้ทำงานให้ดีที่สุดไปก่อน และหากพื้นที่ไหนมีปัญหาปล่อยเกียร์ว่างก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้โดยเฉพาะปลัดอำเภอต่างๆ จึงขอให้ทุกคนที่ต้องเสียสละในช่วงที่คนอื่นหยุด ทำงานให้เต็มที่ด้วย.
