เชียงใหม่เร่งทำหนังสือ ขอหารือมหาดไทย-คมนาคม-ท่องเที่ยว ขอยกเว้นบังคับใช้กม.เขตปลอดภัยเดินอากาศในเขตท็อฟฟี่โซน หวั่นท่องเที่ยวทรุดหนักหากช่วงเคาน์ดาวน์ห้ามจุดพลุ ปล่อยโคมลอย
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.62 ที่ห้องประชุม 2 อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมมาตรการจุดพลุ โคมลอยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
รองผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญในการประชุมหารือในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายอำเภอที่อยู่ในเขตปลอดภัยเดินอากาศหรือ ท็อปฟี่โซน ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเนื่องจากมีกฎหมายพ.ร.บ.การเดินอากาศ(ฉบับที่ 14)พ.ศ.2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 26 พ.ค.62 มาตรา 33 วรรคสอง มาตรา 59/1 ห้ามจุดหรือปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน(ว่าวฮม)เด็ดขาด ซึ่งกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอคือ อำเภอเมืองเชียงใหม่ทุกตำบล 16 ตำบลรวมทั้งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และอ.หางดง 11 ตำบลครอบคลุมทั้งหมด ส่วน อ.สารภีควบคุม 4 ตำบลคือ ขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาลและหนองผึ้ง อ.แม่ริม 3 ตำบลคือ ต.ดอนแก้ว ริมใต้และแม่สาและอ.สันทราย 1 ตำบลคือหนองหาร
“เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับเขตปลอดภัยเดินอากาศซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อพ.ค.2562 บังคับใช้ ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมาก็มีปัญหาเรื่องการปล่อยโคมลอยที่ยังพบอยู่ ด้วยเหตุนี้ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่จึงมีหนังสือแจ้งไปยังสถานประกอบการต่างๆ ให้ยึดปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานเชียงใหม่ได้แจ้งว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจัดงานเคาน์ดาวน์หรือนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่ที่ต้องมีการจุดพลุและเฉลิมฉลอง หากมีการห้ามจุดพลุและปล่อยโคมลอยเกรงว่าจะทำให้สูญเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวได้”นายคมสัน กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ในที่ประชุมได้มีการหารือในหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างพื้นที่กรุงเทพฯ บางพื้นที่ก็มีการจัดงานเคาน์ดาวน์และมีการจุดพลุด้วย และไม่ได้มีการงดเที่ยวบินเหมือนกับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีประกาศจังหวัดรองรับ โดยอนุญาตให้มีการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน(ว่าวฮม) ได้ใน 3 วันคือวันลอยกระทง และในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 19.00-01.00 น.ของวันถัดไป โดยให้ยื่นขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน และทางสายการบินต่างๆ ก็มีการงดบินตั้งแต่ 18.00 น.ของวันที่มีการอนุญาตแล้ว จึงไม่มีผลกระทบต่อการบิน และในการประชุมครั้งนี้ก็ยังได้มีการสอบถามท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปแล้วว่าหลังเที่ยงคืนเข้าสู่เช้าวันที่ 1 ม.ค.มีเครื่องบินๆ หรือไม่ซึ่งการท่าฯก็ยืนยันว่าหลังเที่ยงคืนไม่มีเที่ยวบินๆ ลงแล้ว
นายคมสัน กล่าวอีกว่า ที่ประชุมจึงได้มีมติให้ททท.สำนักงานเชียงใหม่ทำหนังสือขอหารือเป็นการเร่งด่วน ไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงคมนาคม โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้ลงนามในหนังสือ รวมทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้วยว่าจะมีข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษได้หรือไม่อย่างไร โดยให้ส่งหนังสือหารือภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หนักใจ เพราะพ.ร.บ.เขตปลอดภัยเดินอากาศเป็นกฎหมาย หากมีผู้ฝ่าฝืนก็จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี เรื่องนี้จึงต้องให้ได้ข้อชัดเจนเพื่อจะได้นำเป็นแนวทางปฏิบัติในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย.
