เอกชนชง 4 ประเด็นให้ “นายกฯเศรษฐา”ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่

เอกชนชง 4 ประเด็นให้ “นายกฯเศรษฐา”ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่สรุป 4 ประเด็นหลักเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ยกระดับอุทยานหลวงราชพฤษ์ ศูนย์ประชุมนานาชาติฯและไนท์ซาฟรี ผลักดันให้เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคม ทางบก รองรับจีนตอนใต้ ด้วยเส้นทาง R3A ขอรัฐบาลสั่งหน่วยงานในพื้นที่ดึง 8 ประเทศเข้ามาท่องเที่ยวช่วงไลว์ซีซั่น

นายวรพงษ์ หมู่ชาวใต้ เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่(สทท.ชม.) สรุป 4 ประเด็นที่หลักจะนำเสนอ ต่อนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะประชุมร่วมกับภาครัฐ เอกชนและนักวิชาการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 16 ก.ย. 2566 เวลา 14.00 น. ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ( STEP)

ประเด็นนำเสนอที่ 1แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่โดยภาคเอกชน 2567-2570 จัดทำโดย สทท. ชม. ร่วมกับนักวิชาการนำโดย ศจ. เกียรติคุณ ดร. มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด พร้อมทีมนักวิชาการ 20 ท่าน Chiang Mai the BIG 5 นำเสนอ ผวจ., อบจ. และ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ บรรจุเข้าแผนปฎิบัติราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ต้นน้ำ)

ยุทธศาสตร์ที่ 1 – เชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก และศูนย์นานาชาติด้านศิลวัฒนธรรมพื้นบ้าน

ยุทธศาสตร์ที่ 2 – เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเทศกาลและการประชุมระดับโลก

ยุทธศาสตร์ที่ 3 – เชียงใหม่เป็นศิลปะวิทยาการด้านอาหารระดับสากล

ยุทธศาสตร์ที่ 4 – ส่งเสริมให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางเชิงสุขภาพ เมืองพำนักระยะยาวและอยู่สบาย

ยุทธศาสตร์ที่ 5 – ส่งเสริมให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติและสันทนาการ

สิ่งที่รับการสนับสนุน จากนายกรัฐมนตรี

  1. แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน และนักวิชาการ ให้คำปรึกษาแก่จังหวัดในการออกแบบโครงการ (กลางน้ำ) ที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ทั้ง 5
  2. สนับสนุนงบประมาณ แก่ยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ในช่วงบูรณาการปี 2567-2570

ประเด็นนำเสนอที่ 2

2.1 ยกระดับขีดความสามารถของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ โดยมีการจัดการด้านการตลาดอย่างหรืออาชีพสูงสุด หรือให้เอกชนรับสัมปทานบริหารจัดการ เพื่อสร้างดีมานด์แก่อุตสาหกรรมการบอน สู่รายได้ที่ก้าวกระโดด

2.2. ยกระดับอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ให้เป็นแม่เหล็กในการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยว เป็นสถานที่จัดงานอีเว่นท์อย่างแท้จริง และดึงดูดเอกชนให้ลงทุนจัดงานอีเว่นขนาดใหญ่ตลอดปี

2.3 ยกระดับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สู่ version 2 เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เทียบเท่ากับของเอกชนในพัทยาและภูเก็ต โดยต่อยอด เช่นกระเช้าลอยฟ้าไปยังดอยสุเทพ และเชื่อมโยงอื่นๆ ไม่ด้อยไปกว่าสิงคโปร์

ประเด็นนำเสนอที่ 3

ผลักดันให้เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคม ทางบก รองรับจีนตอนใต้ ด้วยเส้นทาง R3A การคมนาคมเพื่อการท่องเที่ยวแม่น้ำโขง การคมนาคมทางบกจากอินเดียสู่อำเภอแม่สอด ด้วยการปรับกฎระเบียบขั้นตอนราชการมน นทท เข้าเที่ยวภาคเหนือได้สะดวก และส่งเสริมด้านสัมปทานให้เอกชน เดินรถ เดินเรือ สำหรับ นทท เข้าสู่เชียงใหม่และภาคเหนือตอนบนได้อย่างสะดวกง่ายดาย ติดขัดข้อกฎหมายให้น้อยที่สุด

ประเด็นนำเสนอที่ 4.

ข้อเสนอการแก้ปัญหา ปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ด้วยการใช้โอกาส จาก กท่องเที่ยว 8 ประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซีย ที่มีเที่ยวบินตรงสู่เชียงใหม่ และปิดเทอมภาคเรียนพร้อมกัน 45-50 วัน ในช่วง ก.ค. – ส.ค.  ด้วยการจัดกิจกรรมอีเว้นท์ดีไซน์ดึงดูดรองรับในระดับสากล โดยเฉพาะผลไม้เด่น อาหารพื้นเมือง พร้อม Michelin Huide ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาหัตถกรรม และการแสดง (มีชุดเอกสารโครงการประกอบ)

สิ่งที่ขอรัฐบาลสรับสนุน คิอ จังหวัด อบจ. ทกจ. ททท. พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน และ ปชส. ล่วงหน้า 6 เดือน ใน 8 ประเทศ ผ่าน ททท. ใน 8 ประเทศ และกลไลของรัฐบาลผ่าน 8 ประเทศ.

You may also like

เริ่มแล้วกับงาน“AMAZING CHIANG MAI COUNTDOWN 2025”เข้าชมฟรีททท.คาดเงินสะพัด3.5 พันล้านบาท เผยยอดจองที่พักพุ่งกว่า 91%

จำนวนผู้