แบงก์ชาติเหนือชี้เศรษฐกิจ การเงินไตรมาส 2 ปีนี้ปรับตัวดีขึ้น คาดไตรมาส 3 จะดีต่อเนื่องเพราะ ประชาชนปรับตัวอยู่กับโควิดฯได้ทำให้ท่องเที่ยวฟื้น เชื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวดีในช่วงครึ่งหลังปี 66
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.65 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาส 2 ปี 2565 โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปีนี้ยังฟื้นตัวได้และคาดว่าในปี 2566 จะมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 จะโตถึง 4.2
สำหรับเศรษฐกิจภาคเหนือปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง แรงงานภาคเกษตรปรับตัวดี แต่แรงงานนอกภาคเกษตรเริ่มฟื้นตัวและมีรายได้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ภาคก่อสร้างก็เริ่มดีรายได้ การบริโภคปรับตัวดีขึ้นจากการท่องเที่ยวแต่ก็ไม่สบายตัวเพราะของแพง แนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2565 คาดว่าปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เพราะประชาชนสามารถปรับตัวอยู่กับ COVID-19 ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกิจกรรมในภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับรายได้เกษตรยังคงขยายตัว ตลาดแรงงานที่ทยอยปรับดีขึ้น และมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ มีส่วนช่วยพยุงการบริโภค แม้จะมีปัจจัยกดดันจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่วนภาคธุรกิจยังคงมีแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่ง
ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม ภาคอสังหาฯดีขึ้นในส่วนของบ้านเดี่ยวในกลุ่มที่มีรายได้ประจำ เนื่องจากมีการเร่งซื้อเพราะคาดว่าราคาวัสดุก่อสร้างจะปรับตัวสูง อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าไตรมาสก่อนจากราคาพลังงานและอาหาร โดยพบว่าเงินรายได้ครึ่งหนึ่งใช้จ่ายค่าพลังงานและอีกครึ่งหนึ่งใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร
“อย่างไรก็ตามแรงกดดันต่างๆ จะลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในส่วนของหนี้ครัวเรือนยังสูง โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ภาคการเงินยังเติบโตได้ คุณภาพหนี้ยังดี ธนาคารมีการดูแลการปรับโครงสร้างหนี้และยังไม่เห็นสัญญาณหนี้เสียหรือ NPL”นายธาริฑธิ์ กล่าวชี้แจง.
