กรีนเทค โอโซน โซลูชั่น และบีเรดดี้ ร่วมกับและเครือข่ายผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่ จัดงานสัมมนา ภายใต้หัวข้อ Wellness and Food safety สนองความต้องการตลาดที่เน้นสะอาด ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับสมาคมโรงแรมเชียงรายในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุนให้กับโรงแรม และร่วมกันผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยืน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากภาคการท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ โรงแรมสมายล์ลานนา บริษัท กรีนเทค โอโซน โซลูชั่น จำกัดและบริษัทบีเรดดี้ จำกัด ร่วมกับและเครือข่ายผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่ จัดงานสัมมนา ภายใต้หัวข้อ Wellness and Food safety โดยมีผู้แทนจากสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน) ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม นำเที่ยวและร้านอาหารเข้าร่วมงานจำนวนมา
นายภิญโญ สุขทัต กรรมการผู้จัดการ บจก.กรีนเทค โอโซน โซลูชั่น เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญว่าปัจจุบันความต้องการของตลาดส่วนใหญ่ ต้องการผลิตภัณฑ์อุปโภค บริโภคที่ สะอาดและปลอดภัย ทั้งผู้บริโภคและสังคม สิ่งแวดล้อม อีกทั้งความปลอดภยัทางด้านอาหาร เพื่อส่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้าต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์อุปโภคที่มาจากธรรมชาติไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและได้สนับสนุนผู้ประกอบการ สิ่งสำคัญที่สุดคือผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดต้นทุนในกระบวนการผลิตธุรกิจไดจ้ริง จึงได้มีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้น
โดยภายในงาน ยังมีผู้ประกอบการสินค้า นวัตกรรมด้านอาหาร , การแปรรูปอาหารเพื่อสุขภาพ และสินค้าด้านการบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการและยังปลอดภยัต่อผู้บริโภคที่ได้รับการสนับสนุนจาก สวทช.ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและยังส่งเสริมให้เกิดการพบปะ (Business Matching )ระหว่างผู้ผลิต (เกษตรกร) และผู้ซื้อ (คนกลาง) รวมถึงผู้บริ โภค (ร้านอาหาร , โรงแรม ) อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง สมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงรายกับห้างหุ้นส่วนจำกัดสุขสาคร ยังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง( MOU) โดยบันทึกข้อตกลงนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ให้สมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงรายและโรงแรมสมาชิก สนับสนุนใช้สินค้าที่ทาง หจก.สุขสาครจัดหาและผลิตภายใต้เงื่อนไข ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมทั้งยังส่งเสริม การกระจายรายได้สู่ชุมชน ลดต้นทุนให้กับโรงแรม ร่วมกันผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยืนและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนภาคการท่องเที่ยว และหจก.สุขสาครเป็นผู้สนับสนุนส่งเสริมให้สมาคมโรงแรมเชียงรายในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในจังหวัดจนถึงระดับประเทศอีกด้วย
ทางด้านนายเกียรติรัตน์ ทองผาย ที่ปรึกษาอาวุโส ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. กล่าวว่า ปัจจุบัน BCG Model กับการยกระดับธุรกิจเพื่ออนาคตเข้ามามีบทบาทในภาคธุรกิจมากขึ้นเพราะเทรนด์หรือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยร้อยละ 75 ต้องการคุณภาพและยอมจ่ายมากขึ้น ซึ่งเทรนด์นี้มีที่มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั่นเอง
รัฐบาลไทยเองก็ให้ความสำคัญและตั้งนโยบายเป้าหมาย ตัวชี้วัดในปี 2570 ในการเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมูลค่าGDP ของเศรษฐกิจ BCG เพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านบาท ในสัดส่วนผลิตภัณฑฺและบริการซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และการเพิ่มขึ้นของรายได้เศรษฐกิจฐานรากไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และสร้างความยั่งยืนของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติลง 1 ใน 4 จากปัจจุบัน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจำร้อยละ 20-25 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2548และทรัพยากรธรรมชาติได้รับการฟื้นฟูเช่นเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ 3.2 ล้านไร่
สำหรับกลกลการทำงานของโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นการบูรณษการการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้าง Value Creation จากฐานความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับเทรนด์ดังกล่าว ทั้งการเข้าสู่สังคมสูงวัย การเข้าสู่สังคมเสมืองจริง การให้บริการด้านสุขภาพและอาหารที่ทำจากพืช ซึ่งนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปจะให้ความสำคัญอย่างมาก และลดการบริโภคเนื้อสัตว์เพราะเห็นว่าการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นการปลดปล่อยและเพิ่มคาร์บอนในอากาศ
ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. กล่าวด้วยว่า สวทช.ได้สนับสนุนนวัตกรรมการแพทย์เพื่อคนไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงพัฒนาวีลแชร์ยืนได้ นอกจากนี้ยังมีผงถ่านชาร์โคลดูดซับสารพิษ ซึ่งเป็นผงล้างผัก ลดสารเคมีและเชื้อในผัก ผลไม้ ยกระดับอาหารปลอดภัยในจ.กระบี่ซึ่งมีโรงแรมในไร่เลย์ 18 โรงและโรงแรมในอ่าวนางเกาะลันตาอีก 22 โรง และยังเป็นพันธมิตรกับสมาคมร้านอาหาร 40 ร้าน สำหรับ Green Industry ก็มีผู้ประกอบการ Greenek Ozone solution ซึ่งเป็นการซักผ้าสำหรับโรงแรมและสถานประกอบการโดยไม่ใช้สารเคมี และยังมีเครื่องแปรรูปเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ย ซึ่งเป็นงานวิจัยด้านไบโอเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการชายฝั่งทะเลภาคใต้ได้นำมาใช้ในธุรกิจบริการท่องเที่ยว และสามารถยกระดับราคาที่พักได้มากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวจะเลือกใช้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและพร้อมที่จะจ่ายด้วย.