คณะทำงานตรวจสอบการก่อสร้างบ้านพักตุลาการ ทำบันทึกข้อสรุปร่วมเสนอนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาใช้พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมฯประกาศพื้นที่คุ้มครองยุติบ้านพักตุลาการ ระงับทุกกิจกรรมและส่งต่อพื้นที่ให้อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ขณะที่เครือข่ายฯยังยืนยันให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามแนวเขตป่าดั้งเดิมออก
ที่ห้องประชุมสำนักชลประทานเชียงใหม่ คณะทำงานร่วมภาครัฐและภาคประชาชน ประกอบไปด้วยตัวแทนเครือข่ายทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ และตัวแทนจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมเพื่อสรุปแนวเขตที่จะขอคืนพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักตุลาการจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณเชิงดอยสุเทพ ตามคำสั่งของแม่ทัพภาคที่ 3 โดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศมาพิจารณา เนื่องจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่อนุญาตให้เข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อนำส่งให้กับแม่ทัพภาคที่ 3 ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้
ภายหลังการประชุมของคณะทำงานซึ่งเป็นครั้งที่ 3 หลังจากแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นตัวกลางในการเสวนาเพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ที่ประชุมได้มีบันทึกการประชุมคณะทำงานตรวจสอบ กรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการและบ้านพัก สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาสั่งการ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มอบหมายคณะทำงานที่ประกอบด้วย ผู้แทนภาครัฐ จำนวน 6 หน่วยงาน ภาคประชาชน จำนวน 6 คน ประชุมและร่วมกันพิจารณาและมีความเห็นร่วมกัน
นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ , ชมรมร่มบินเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของความเห็นส่วนภาคประชาชน ยังมีความเห็นให้รื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างเหนือแนวประสีแดงขึ้นไป ตามแนวเขตป่าดั้งเดิม ประกอบด้วยอาคารชุด จำนวน 9 หลัง และอาคารบ้านพักอาศัย จำนวน 45 หลัง และให้มีคณะทำงานพิจารณารื้อถอน วิธีการและการปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย ตลอดจนข้อบังคับต่างๆ
ขณะที่นายปัณรส บัวคลี่ ตัวแทนภาคีคนฮักเชียงใหม่ กล่าวสรุปความเห็นร่วมของที่ประชุมว่า พื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อระบบนิเวศวิทยาสิ่งแวดล้อมดอยสุเทพ มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมเดิมโดยเฉพาะการเปิดหน้าดินเพื่อการปลูกสร้าง มีความจำเป็นต้องฟื้นฟูสภาพพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมโดยรวมมากยิ่งขึ้น เป็นมาตรการเร่งด่วน เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เห็นควรนำ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ มาบังคับใช้
นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลจัดสรรพื้นที่แห่งใหม่และงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างในราชการสำนักงานศาลยุติธรรมทดแทน ในพื้นที่ส่วนที่สำนักงานศาลยุติธรรมไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วให้ส่งคืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์เพื่อพิจารณาอนุญาตให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้เพื่อประกาศเป็นเขตอุทยาน หรือพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
ข้อเสนออีกประการหนึ่งคือให้มีการประกาศเป็นทางการต่อสาธารณะ ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเพื่อเป็นสัญญาประชาคมว่า จะไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ราชพัสดุที่เป็นป่ารอยต่อ ตามแนวป้องกันระหว่างพื้นราบกับเขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย โดยจะประกาศเขตอุทยานแห่งชาติคลุมลงมาให้เป็นป่าผืนเดียวกันในที่สุด
ทั้งนี้นายยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่และนาย ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งในที่ประชุมว่าได้รายงานให้ผวจ.เชียงใหม่ทราบ และจะนำบันทึกการประชุมร่วมนี้เสนอต่อผวจ.เชียงใหม่และผบ.มทบ.33 เพื่อเสนอไปยังพล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผู้บัญชาการทหารบกภายในวันที่ 29 เม.ย.นี้ตามกรอบที่กำหนด ซึ่งผวจ.เชียงใหม่ได้แจ้งผ่านป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ว่าจะเชิญตัวแทนไปชี้แจงรายละเอียดอีกครั้งโดยจะทำการนัดหมายในเร็วๆ นี้
ขณะที่นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ จากมูลนิธิสืบสานล้านนา กล่าวว่า ในช่วงนี้ทางเครือข่ายฯก็ยังมีกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ โดยนอกจากศิลปินล้านนาที่ได้ร่วมกันแต่งเพลงขึ้นมาแล้ว ยังจะมีการประกวดการเขียน ในหัวข้อ “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ชิงทุนการศึกษา และเกียรติบัตรด้วย.