ผู้ว่าททท.แจงรัฐบาลต้องการความร่วมมือจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว ส่งเสริมกระตุ้นท่องเที่ยวภายใต้ความรับผิดชอบ มั่นใจปีนี้จะทำให้รายได้กลับมาถึง 50% จากปี 62 เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในประเทศให้ททท.45 สำนักงาน Live ขายแพคเกจชู “ประสบการณ์เหนือราคา”กระตุ้นเที่ยวไทยได้ทั้งปี
เมื่อค่ำวันที่ 26 มกราคม 2565 ที่ลานพาวิลเลี่ยน โรงแรมดวงตะวัน เชียงใหม่ นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย จัดงานประชุมร่วมกับประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และกว่า 10 นายกสมาคม ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น แนวทางการพัฒนาและสนับสนุน ธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และภูมิภาคภาคเหนือ ภายใต้วิกฤตการแพร่ระบาดโควิด รวมถึงการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การฟื้นตัวหลังจากวิกฤตผ่านพ้น ทั้งในสายวิชาชีพ และสายธุรกิจการท่องเที่ยว โดย นายกสมาคม ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุมเสนอแผน นโยบาย ความคิดเห็น ในกรอบการพัฒนา การขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน และรวมถึงการร่วมมือ ในส่วนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค ในปี 2565-2566
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและกล่าวกับผู้ร่วมงานว่า ความร่วมมือของผู้ประกอบการคือสิ่งสำคัญที่จะผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ ขณะนี้สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยกำลังดีขึ้นตามลำดับ สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนได้คือ ความร่วมมือของผู้ประกอบการ เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ซึ่งมั่นใจว่าเราจะกลับมาดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในทุกภูมิภาค2 ปีที่เจอสถานการณ์โควิดฯทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวจาก 3.3 ล้านล้านบาทลดเหลือเพียง 8 แสนล้านบาท ดังนั้นขอให้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงและช่วยกัน รัฐบาลต้องการความร่วมมือและไม่อยากให้ผู้ประกอบการเจอปัญหา เพราะฉะนั้นขอให้เป็นการท่องเที่ยวที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบ ในฐานะผู้ว่าททท.ผมเชื่อมั่นในผู้ประกอบการและความแข็งแกร่งของทุกคน
ผู้ว่าการททท.ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวของภาคเหนือว่ามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก เพราะสภาพอากาศมีพื้นที่เปิดโล่ง นักท่องเที่ยวไทยชอบ เชื่อมั่นว่าภาคเหนือยังเป็นที่นิยมอยู่ตลอดไป อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาให้นโยบายไว้ว่า การท่องเที่ยวไทยปี 2565 ตั้งเป้าหมายไว้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นการสร้างรายได้ และการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของตลาดในประเทศ เป้าหมายอยู่ที่ 160 ล้านคน/ครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ระหว่าง 5-15 ล้านคน และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ อัตราเข้าพัก 50% ทั่วประเทศ และต้องใช้จ่าย 4,100 บาทต่อคน คือ ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ 50% ของรายได้ในปี 2562 หรือ 1.5 ล้านล้านบาท และ 80% ในปี 2566 หรือ 2.4 ล้านล้านบาท มั่นใจว่าฟื้นตัวได้แน่
สำหรับโครงการเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Test&Go ที่หยุดไประยะหนึ่งนั้น นักท่องเที่ยวอาจลดลงเหลือ 2,000-3,000 คนต่อวัน แต่กำลังจะเปิดใหม่อีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ การท่องเที่ยวของไทยก็น่าจะกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพราะสื่อต่างประเทศก็ชื่นชมว่าประเทศไทยทำได้ดีเรื่องการเปิดประเทศ แม้จากนี้ไปก็จะเป็นปลายของไฮซีซั่น และช่วงซัมเมอร์ของต่างประเทศ แต่ในแง่ของตลาดจีนคงต้องใช้เวลา แต่เราจะพยายามให้กลับมาให้เร็ว รวมทั้งการเปิดเส้นทางระหว่างประเทศทางบกได้
นายยุทธศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศนั้น จะให้ททท. 45 สำนักงานทั่วประเทศจะเริ่มทำการ Live ขายแพคเกจ นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแต่ละจุดให้ประชาชนได้รับรู้ โดยจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้าหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในช่วงเวลา 19.45 น. เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวไทย เพื่อดึงดูดใจให้เกิดการเดินทางมากขึ้นในทุกวันไม่เฉพาะเพียงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น จะเป็นการนำเสนอให้รูปแบบและวิธีการขายใหม่ จากผู้ประกอบการตัวจริงมาขายสินค้าเอง เจ้าของแหล่งท่องเที่ยวมาเอง เรียกว่า จากประสบการณ์เหนือราคา ตนก็อาจจะมา Live เองเลยในครั้งแรก ดึงเมตาเวิร์สมาใช้ให้เป็นประโยชน์ Live ขายทุเรียน แต่ต้องยั่งยืนและควบคู่ไปกับสมดุลทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม ดูแลสังคมในพื้นที่ท่องเที่ยวไปด้วย.