“ทักษิณ”อ้อนคนเชียงใหม่ ครั้งนี้มาด้วยตัวเองไม่ได้เขียนจดหมายมา ขอให้เทคะแนน 100% เลือก “พิชัย”และส.อบจ.ยกทีม เพื่อทำงานสอดประสานกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้งบประมาณถึงมือพี่น้องประชาชนโดยตรง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนร่วมหมื่นคน โดยนายทักษิณเดินผ่านทางเดินตรงกลางศูนย์ประชุมฯเพื่อทักทายประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยก่อนขึ้นเวทีด้วยการอู้กำเมืองว่าไปอยู่เมืองนอกมา 17 ปี แต่ก็ยังอู้กำเมืองคล่องอยู่
“กลับมาเชียงใหม่ ก็รู้สึกหัวใจพองโต วันนี้ผมมาหาเสียงช่วยนายพิชัย และจะมาเยี่ยมพี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ทั่ว จากบ้านไปหลายปีคิดถึงมาก คิดถึงเชียงใหม่ ช่วงที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี พี่น้องทำมาหากินอย่างสบาย มีเงิน แต่วันนี้เชียงใหม่ ไม่สวยเหมือนเดิม งบประมาณเข้าไม่ถึง ผมกลับมาแล้ว ขอให้เอาความงามกลับคืนเชียงใหม่ เอาสตางค์กลับมาคืนใส่กระเป๋าพี่น้องชาวเชียงใหม่ ทำให้หนี้เบาบางลง เอายาเสพติดให้หายไป เสียดายเวลา แต่ไม่ใช่เสียดายเวลาของตนแต่เสียดายเวลาของพี่น้องคนไทยทุกคน ไปมาหลายพื้นที่แล้วเห็นแล้วเอ็นดู”นายทักษิณ กล่าวและว่า
เลือกตั้งครั้งก่อน ตนเขียนจดหมายน้อยมาฉบับหนึ่ง พี่น้องชาวเชียงใหม่ก็เทคะแนนให้นายพิชัย 4 แสนกว่าคะแนนจึงชนะ วันนี้ตนมาเอง มาตัวเป็นๆ บางคนมาจับตัวแล้วถามว่าอันนี้ตัวจริงมั้ย คู่ แข่งของนายกฯก๊อง(พิชัย)คือพรรคประชาชน ซึ่งเขาโม้ไว้ว่าเขามีสส. 7 คน นั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดไปแค่นั้น เดี๋ยวคนเชียงใหม่ก็คืนส.ส.ให้เพื่อไทย พรรคประชาชนพูดเก่ง คนรุ่นใหม่เขาพูดเก่งทุกคน แต่ทำงานไม่เป็น และยังไม่ได้ทำ วันนี้พรรคเพื่อไทยยังไงก็ได้ทำ เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีทุกคนก็นึกถึงแต่เพื่อไทย ที่ทำให้พี่น้องได้อยู่สุขสบาย วันนี้สื่อมวลชนตั้งฉายาให้รัฐบาลว่าเป็นรัฐบาลพ่อเลี้ยง สงสัยสื่อมวลชนเห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลคนเมือง เลยใช้คำว่าพ่อเลี้ยง อีกหน่อยคนเชียงใหม่จะเป็นพ่อเลี้ยง จริงๆ แล้วตนไม่ใช่พ่อเลี้ยง แต่ลูกอาจจะเลี้ยง เพราะตนมีเงินเดือนแค่ 700 บาท แต่ลูกเป็นนายกรัฐมนตรีมีเงินเดือนเป็น 100,000 บาท
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า มีใครเคยเห็นนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องบ้านเพื่อคนไทยหรือไม่ คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะคนที่เรียนจบมา บางคนก็ไม่มีงานทำ หรือมีงานทำก็ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน จึงอยากทำให้ความฝันของคนไทยเป็นจริง มีเงินแค่ 10,000-20,000 บาท ก็จะสามารถซื้อบ้านได้ ไม่ต้องไปเสียเงินดาวน์ ผ่อนแค่เดือนละประมาณ 4,000 บาท แต่มีบ้านอย่างดีอยู่ อยากให้คนไทยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี อยู่อย่างไม่ลำบาก
“พรรคประชาชนเขาเน้นเรื่องความเท่าเทียม ในสายตาของพรรคประชาชนเป็นความเท่าเทียมทางสถานะซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่ความเท่าเทียมของพรรคเพื่อไทยเป็นความเท่าเทียมทางโอกาส วันนี้ยากดี มีจน เกิดที่ไหนก็ควรมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา เข้าถึงอาชีพ หรือการเงินเหมือนกัน”
นายทักษิณ ยังกล่าวต่ออีกว่า นายพิชัยตอนเป็นนายก อบจ.ใหม่ๆ ก็เมาหมัด แต่ช่วงหลังก็ขยันมากขึ้น ดูได้จากผลงาน ตอนน้ำท่วมที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ดีมาก ฝีมือดีช่วยประชาชนได้ดี และเคยไปขอที่ดินตรงข้ามสถานีรถไฟ มาสร้างสวนสาธารณะ รวมถึงเรื่องถนนเลียบทางรถไฟไปลำพูน ที่ยังเหลืออีก 11 กิโลเมตร สมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้เริ่มทำไปแล้ว แต่ก็ยังทำไม่เสร็จ นายพิชัยก็ไปขอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะมาทำต่อ และจะได้ไปลำพูนโดยที่รถไม่ติด
“ผมเป็นห่วงพี่น้องนะวันนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เพราะเป็นการบริหารการเงินที่ผิดพลาดมา 10 กว่าปีแล้ว จึงทำให้ธนาคารไม่ปล่อยกู้ ต่อไปปรัฐบาลจะเอาเงินมาให้ใหม่เพื่อให้ระบบเดินต่อไป ตนกำลังปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีว่าเงินที่เราหาได้นั้น ไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ พอหาได้ก็ไปซื้อของกิน เงินก็เข้ากรุงเทพฯ หมด ต่อไปตนจึงจะพยายามว่าทำให้เงินเหล่านี้มาอยู่เชียงใหม่มากขึ้นเพื่อที่เศรษฐกิจจะได้เดิน ไม่เช่นนั้นเราจะเป็นเหมือนปลาที่ว่ายน้ำในบ่อ ที่เขาดูดน้ำออกทุกวัน ปลาจะว่ายไม่ค่อยได้ ก็จะตาย ฉะนั้น ต้องเอาน้ำเข้ามาเติมใหม่โดยด่วนจึงจะช่วยพี่น้องได้
นายทักษิณ กล่าวต่อไปอีกว่า ตนไปอุดรก็บอกว่าคนอุดรฯ เคยให้ สส.ตน 10 คนแล้วหายไปไหน 2 คน ขอคืนได้หรือไม่ เขาก็คืนให้ โดยเขาคืนนายก อบจ.ให้ เช่นเดียวกับที่อุบลฯที่ส.ส.หายไป ชาวบ้านก็เลือกนายกอบจ.มาแทน วันนี้ที่เชียงใหม่เป็นภารกิจพิเศษ พี่น้องอย่าลืมตน ตนกลับมาแล้วขอให้ใช้ตน ตนก็รักบ้านเมือง ตอนเป็นนายกฯก็เห็นมาแล้ว อย่างน้อยต้องทำให้เชียงใหม่ดีเท่ากับตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือดีกว่าเพราะฉะนั้นพี่น้องไม่ต้องไปใช้ใคร ให้ใช้ทักษิณกับลูกทักษิณ เขตไหนที่เลือกพรรคก้าวไกลที่ตอนนี้เป็นพรรคประชาชน ครั้งหน้าขอให้เลือกพรรคเพื่อไทย คืนสส.ให้ตน เนื่องจากในสภา หากพรรคไม่ใหญ่ ก็เกิดการต่อรองนั่นนี่ บ้านเมืองก็จะเดินไปยาก ฉะนั้น ถึงเวลาที่พี่น้องประชาชนต้องคิดว่าจะให้ใคร และเทไปเลย บ้านเมืองจึงจะไปได้เร็วเหมือนตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เลือกได้ 300 กว่าเสียง ก็สามารถทำนั่นนี่ได้ไว ก็จะสามารถทำให้ประเทศไทยมีความสุข อย่าไปขี้อิจฉา
เพราะฉะนั้นการเมืองต้องเป็นปึกแผ่น ต้องเข้มแข็ง ขอประชาชนอย่าไปแบ่งคะแนนให้คนอื่น ขอให้เลือกเพื่อไทย 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทำไม่ได้ ให้มันรู้ไป ตอนนี้ตนกำลังคิดพัฒนาคนและสินค้าในแต่ละจังหวัด และต้องมีตัวแทนทำ บางจังหวัดผู้ว่าฯ ก็เต็มใจทำ แต่บางจังหวัดผู้ว่าฯ เหลืออีก 1 ปีจะเกษียณ ก็รู้สึกว่าตนเองขี้เกียจทำ เพราะฉะนั้นจึงต้องมาเอานายกอบจ.ของเรา สินค้าขายใน TikTok ขายดิบขายดี แต่สินค้าบ้านเราไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ การพัฒนาคนก็เหมือนกัน จะเอาคนมาฝึกเพื่อให้เงินเดือนดีขึ้น และเชื่อว่าหลายคนที่นั่งอยู่ตรงนี้อาจจะมีหัวศิลปะ หัวคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่มีโอกาส ต้องไปทำนาทำไร่ ซึ่งทำได้แต่ก็รู้สึกเสียดาย ซึ่งคนมีหัวต้องได้รับการพัฒนา ที่เราเรียกว่าซอฟต์พาวเวอร์ ตนจะใช้ อบจ.และจังหวัดเป็นแกนกลาง และต้องทำให้คนแข็งแรง และเอาของที่ผลิตในพื้นที่ขายได้ผ่านโซเชียลของเขา 
“เพราะฉะนั้นนายกฯก๊องต้องกลับมาอีกรอบ แล้วผมจะใช้งานให้เต็มที่ ผมมีตำแหน่งอยู่ 3 ตำแหน่ง คือ ส.ท.ร. หรืออดีตเคยเป็นนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งที่สองเป็นผู้เฒ่า ตำแหน่งที่สามเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้ครอบงำ เพราะลูกสาวคนเล็กบอกว่าพ่อต้องฟัง อยากขอพี่น้องชาวเชียงใหม่ ว่าไม่ต้องใช้ใครไกล เห็นหน้ามากี่ครั้งก็จำกันได้ ขอให้ใช้ทักษิณและลูกทักษิณก็พอ บางคนบอกคนเชียงใหม่ชอบพระเอกหนังเกาหลี แต่ผมว่าสู้พ่อนางเอกหนังจีนไม่ได้ คนอุดรฯ คนอุบลฯ ผมไป เขาก็ให้คะแนนกลับมาเต็มที่ คนเชียงใหม่อย่าให้น้อยหน้าเขานะ เอาหนักๆ สัก 6 แสนเสียงก็พอ หากนายพิชัยชนะ ทุกพื้นที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ เพื่อที่ครั้งหน้าเราจะเอาสส.คืนมาเป็น 10 เขต ฉะนั้น พี่น้องชาวเชียงใหม่ขอคืนด้วย” นายทักษิณ กล่าว
ตอนนี้ตนเป็นคนแก่อายุ 75 ปีแล้ว อีกหกเดือนก็จะอายุ 76 ปี แก่มากแล้ว จะให้มาฟังคนแก่ปราศรัย ก็ไม่คึกคักเหมือนสมัยหนุ่มๆ จะไปท้าตีท้าต่อยเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้ เมื่อก่อนเขาแรงมา เราแรงกลับ ตอนนี้ตนใจเย็นมาก ขอพี่น้องอย่าไปฟังเสียงเขา พวกขาประจำตน เจอทีไรก็หาเรื่องมาสร้างนิยายน้ำเน่าตลอด ต่อไปนี้ตนจึงบอกว่าใครที่เล่นงานตน ตนจะเล่นงานกลับ ไม่ละไว้ บางคนบอกว่าช่างมันเถอะ อย่าไปให้ราคา อย่าไปเล่นงานมันคืน
“ผมจะขออาสาสมัครทนายความ หากใครเก่งก็ขอให้มาช่วยฟ้อง แต่ก็รู้สึกว่ามันน่ารำคาญ บางคนเราก็รู้พื้นเพกันอยู่ มันมาเห่าอยู่นั่น เพราะบางคนไม่ได้ทำอะไรเลย บางคนผมเคยให้เงิน และพ่อเคยสอนผมว่าวันนี้เราเลี้ยงข้าวมันมื้อเดียว มันอิ่ม มันก็ขอบคุณเรา แต่มื้อหน้า มันหิว มันหาคนเลี้ยงข้าวใหม่ ถ้าเราไม่เลี้ยงมัน มันก็กัดเรา แล้วเราต้องเลี้ยงมันทุกวันเลยหรือ ลูกเราโตแล้วยังหากินเองได้ แต่บางคนแก่จนจะลงโลงแล้วยังไม่รู้จักหากินเอง เห็นแล้วรำคาญมาก” นายทักษิณ กล่าวและว่า
บางคนคิดว่าหาเรื่องวุ่นวายมา เพื่อให้ทหารออกมา แต่ตอนนี้หมดยุคแล้ว ทหารรู้ดีว่าบ้านเมืองเสียหาย ให้ไปตามกลไกรัฐบาล ตามกลไกอำนาจ ใครทำผิดกฎหมายก็ว่าไปตามนั้น เราไม่ได้หาเรื่องใคร หากใครหาเรื่องเรา ก็ไม่รู้ว่าจะปล่อยไว้ทำไม ต่างประเทศเขาไม่เข้าใจ เขาไปมองว่าเมื่อมีคนร้องแล้วรัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพ แล้วเขาก็ไม่กล้ามาลงทุน ทำให้ประเทศเราหยุดชะงัก แต่วันนี้องค์กรอิสระเขายึดหลักบ้านเมืองแล้ว เขาไม่ยึดหลักแบบเก่า
“เที่ยวนี้ผมมาขอเอง ขอให้เลือกนายกก๊อง และส.อบจ.ไปทำงานกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพื่อให้งบประมาณถึงมือพี่น้องประชาชนโดยตรง ผมมาขอเอง อ้อนวอนขอหลายครั้งแล้ว ให้ได้หรือไม่ หากหมดฤดูกาล อบจ.แล้ว ผมจะมาเชียงใหม่บ่อยๆ วันที่ 26 ธ.ค.นี้ ผมจะได้ไปเจอกับเพื่อน ที่ตั้งให้ผมเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน เพื่อจะได้นั่งคุยกันว่าจะวางยุทธศาสตร์อาเซียนอย่างไร เพราะอาเซียนประกอบไปด้วย 10 ประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศต่างคนต่างอยู่ แต่จริงๆ รวมพลังกันอยู่แล้ว และต้องมีแผนยุทธศาสตร์ จึงขอให้ผมไปช่วย คิดว่าเป็นประโยชน์กับประเทศไทย เพราะไทยเป็นเศรษฐกิจใหญ่ลำดับสองของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนกลับมาแล้ว แต่ก็ยังเห็นพี่น้องประชาชนลำบากอยู่ ฉะนั้น ต้องใช้ตนหนักๆ และต้องเลือกตัวแทนของตน ตอนนี้ยังไม่ได้เลือก สส. ขอนายกอบจ.ก่อน และให้ไปขอเพื่อนด้วยบอกว่าทักษิณมาขอเอง เพราะขี้เกียจเอาปี๊บคลุมหัว ฉะนั้นคนเชียงใหม่ต้องสู้ให้เต็มที่ นายทักษิณมาขอเอง.
