“ประวิตร”ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและภัยแล้ง พร้อมส่งมอบแผนโครงการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับราษฎรที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเร่งด่วนของรัฐบาล เผยเชียงใหม่ไม่น่าห่วง กำชับชลประทานบริหารจัดการน้ำให้ผ่านช่วงฤดูแล้ง ยันน้ำอุปโภค บริโภคต้องเพียงพอ
เมื่อเช้าวันที่ 25 ม.ค.63 ที่วัดสีมาราม ตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการส่งมอบแผนงานโครงการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากแหล่งน้ำเดิมมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำกำลังพลพร้อมเครื่องจักรกลขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล ที่สามารถเติมน้ำเข้าระบบประปาหมู่บ้าน แจกจ่ายให้กับประชาชนได้
สำหรับบ่อบาดาลที่ได้ส่งมอบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบโครงสร้างกองอำนวยการน้ำแห่งชาติเพื่อรับมือพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ อุปโภคบริโภค โดยมีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ จำนวน 43 จังหวัด 4,132 หมู่บ้าน โดยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้รับมอบหมายให้ทำการขุดเจาะบ่อบาดาลจำนวน 60 แห่ง จึงได้ปรับแผนการงานประจำปี มาขุดบ่อดังกล่าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างเร่งด่วนก่อน
จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมา รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ โดยชลประทานจังหวัดเชียงใหม่ ที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำ 142 ล้าน ลบ.ม.หรือ 53% เขื่อนแม่กวงอุดมธารา 73 ล้าน ลบ.ม.หรือ 27% อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 12 แห่งมีปริมาณน้ำรวม 33% อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 117 แห่ง ปริมาณน้ำรวม 51% ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมว่าขอให้บริหารจัดการน้ำต้นทุนที่มีอยู่ให้ผ่านพ้นช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะช่วงที่ฝนจะทิ้งช่วงด้วย โดยขอให้สามารถใช้ได้ถึงเดือนกรกฎาคม สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือน้ำอุปโภค บริโภคของประชาชนต้องเพียงพอ
พลเอกประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยี่ยมชมการขุดลอกสันดอนในแม่น้ำปิงบริเวณด้านหลังประตูระบายน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภค บริโภค การผลิตน้ำประปา และการเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำให้กับฝายต่างๆ รองรับพื้นที่กว่า 23,000 ไร่ นอกจากนั้นยังสามารถช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตเมือง ช่วงฤดูน้ำหลากว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อรับทราบการบริหารจัดการน้ำของสำนักชลประทานจังหวัดเชียงใหม่ เพราะรัฐบาลเองเป็นห่วงพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องน้ำอุปโภค บริโภค ซึ่งชลประทานเองก็มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เชื่อมั่นว่าจะสามารถบริหารจัดการน้ำอุปโภค บริโภค ให้เพียงพอในช่วงฤดูแล้งนี้ได้ แต่ขอให้ประชาชนใช้น้ำด้วยความระมัดระวังและประหยัด.