ป่าสงวนแห่งชาติเผยปี 68 มีพื้นที่ชิงเผารวม เชื้อเพลิง 20,924.81 ไร่ ตั้งเป้าลดไฟในพื้นที่ป่าชุมชนลงร้อยละ 10 พร้อมขีดเส้นโรงโม่และจุดรับซื้อข้าวโพดต้องรับผิดชอบหากเกิดปัญหาไฟไหม้ลุกลาม เผยปีนี้ประสานซีพีรับซื้อเชื้อเพลิงอัดก้อนทั้งอำเภอเวียงแหงเพื่อลดการเผา
ว่าที่พันตรี นรินทร์ ปิ่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า สำนักจัดการป่าไม้ที่ 1(เชียงใหม่)มีพื้นที่รับผิดชอบ 35 ป่าพื้นที่รวม 7,567,305.95 ไร่แยกเป็นจังหวัดเชียงใหม่ ป่าสงวนแห่งชาติ 25 ป่าเนื้อที่กว่า 12 ล้านไร่และจังหวัดลำพูน 10 ป่าสงวนฯเนื้อที่กว่า 1 ล้านไร่มีหน่วยป้องกันรักษาป่าในสังกัด 35 หน่วย ปีที่ผ่านมาเชียงใหม่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่ 5,917 จุด ลำพูน 935 จุดรวมทั้งหมด 6,852 จุด สาเหตุการเกิดไฟป่าส่วนใหญ่มาจากการเก็บหาของป่า การชิงเผา(บริหารจัดการเชื้อเพลิง)และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร โดยปี 67 มีพื้นที่เสียหายรวมมากกว่า 241,694 ไร่
สำหรับการชิงเผาในปีที่ผ่านมากรมป่าไม้กำหนดเป้าหมายให้ 31,000 ไร่แยกเป็นเชียงใหม่ 24,000 ไร่และลำพูน 7,000 ไร่ ดำเนินการได้จริงกว่า 6.3 ล้านไร่และเปลี่ยนเป็นชิงเก็บ 3,326 ไร่ สำหรับปี 2568 นี้จะมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง 20,924.81 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 15,929.81 ไร่และลำพูน 4,995 ไร่ ทั้งนี้ทางสจป.1 ชม.เตรียมจัดตั้งศูนย์ประสานงานและชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า จัดชุดลาดตระเวนไฟป่า เพิ่มความเขมข้เนในการลาดตระเวนในพื้นที่พร้อมรายงานสถานการณ์ประจำทุกวัน รวมถึงเริ่มทำแนวกันไฟซึ่งจะดำเนินการทั้งสิ้น 2,350 กม.แบ่งเป็นเชียงใหม่ 2,080 กม.และลำพูน 270 กม.
ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่)กล่าวอีกว่า ทางกรมป่าไม้ได้ถ่ายโอนภารกิจการป้องกันและควบคุมไฟป่าให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาตั้งแต่ปี 2546จนถึงปัจจุบัน ให้กับอปท.ในเชียงใหม่ 123 แห่งและลำพูน 37 แห่ง รวม 161 แห่ง และทางสจป.1 ก็ยังเป็นหน่วยงานสนับสนุนภารกิจป้องกันและควบคุมไฟป่าให้อปท.ต่อไปด้วย
ในกรณีอำเภอแม่แจ่ม ซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดสรรที่ดินทำกิน(คทช.)ในเขตป่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดแต่ก็ได้พยายามที่จะปรับเปลี่ยนอาชีพปลูกพืชอื่นทดแทน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 3-4 ปีถึงจะเห็นผล แต่ก็มั่นใจว่าปีนี้จะไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจุดรับซื้อข้าวโพด โม่ข้าวโพดที่มีประกาศแจ้งไปทุกพื้นที่แล้วว่าให้โรงโม่ข้าวโพดมีแหล่งน้ำสำหรับดับไฟกรณีเกิดไฟไหม้ซังข้าวโพด และหากเกิดปัญหาเจ้าของโรงโม่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
“ปีนี้ทางสำนักจัดการป่าไม้ได้ประสานกับทางเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพีให้รับซื้อใบไม้ในแห้งเพื่อไม่ให้มีการเผาทั้งอำเภอ จากเดิมที่นำร่องเพียงพื้นที่ป่าชุมชน อย่างไรก็ตามในพื้นที่ของสำนักจัดการป่าไม้ฯมีป่าชุมชน 585 แห่งซึ่งก็ยังไม่มีภาคเอกชนใดเสนอตัวเข้ามารับซื้อใบไม้เพื่อลดการเผาเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำไปแล้วว่าปี 2568 นี้จะต้องลดการเกิดไฟในพื้นที่ป่าชุมชนให้ได้ไม่เกินร้อยละ 10”ว่าที่พันตรี นรินทร์ กล่าว.