เชียงใหม่จัดเวทีถอดบทเรียนไฟป่า หมอกควันและฝุ่นฯpm2.5 ปี 66 “ผู้ว่าฯเซมเบ้”ยอมรับเจออุปสรรคมากแต่สามารถรับมือและแก้ไขได้ แม้ถูกด่าก็อดทน เผยสามารถทำลายกำแพงหน่วยงานทำงานร่วมกันได้ เป็นที่เดียวที่ระดมเสือไฟจากทั่วประเทศมาช่วย จบภารกิจยังเฮฮาเลี้ยงหมูกระทะชื่นมื่น สามารถประสานเอา เฮลิคอปเตอร์มาช่วยดับไฟได้มากที่สุด แม้กระทั่ง ฮ.ฝนหลวงทั้งหมดเอามาช่วยเชียงใหม่ให้พื้นที่อื่นอิจฉา
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.66 ที่โรงแรมคุ้มภูคำ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานเปิดและกล่าวบรรยายในเวทีถอดบทเรียนไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้น โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคมและวิชาการเข้าร่วมจำนวนมาก
นายนิรัตน์ กล่าวว่า ภัยไฟป่า ฝุ่นควันที่ผ่านมามีข้ออุปสรรคมากมายและสามารถรับมือและแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้นได้ แม้จะไม่ 100% และถูกด่าก็อดทน เพราะเป็นผู้ว่าฯก็พร้อมรับคำด่าได้ และเป็นอะไรที่เราไม่ได้จัดการกับคนกลุ่มหนึ่ง พื้นที่หนึ่งแต่จัดการคน 2 ล้านคนและไม่สามารถสื่อสารได้หมด แค่เฉพาะกลุ่ม เพราะคนเผาไม่แสดงตน จับมือใครเผาก็ไม่ได้และวิธีการควบคุมจนถึงวันนี้ก็ยังตกลงกันไม่ได้ บางกลุ่มให้ใช้ประกาศห้ามเผาเด็ดขาด บางกลุ่มไม่ให้ห้าม ก็ขนาดห้าม 75 วันก็ยังมาบอกให้ยกเลิกห้ามเผา จนทำให้ตนไม่รู้จะทำยังงัย
“พอหมดประกาศห้ามเผา แต่ผมเป็นคนรับฟัง ก็ยังมีคนไม่ชอบและมาบอกว่าไม่เผาได้มั้ย ซึ่งผมรับฟังทุกความคิด แต่ก็ไม่มีใครได้ทั้งหมด และอีกด้านก็ไม่มีใครเสียทุกอย่าง ต้องหาจุดลงตัวเพื่อประโยชน์ของสาธารณะของเชียงใหม่ ถ้าทำได้ก็จะได้องค์ความรู้ข้อเสนอแนะที่สามารถเดินไปได้ “ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและว่า
เชื้อเพลิงถูกเก็บมาไว้ถึง 3 ปี ซึ่งการถอดบทเรียนคงไม่มีแค่วันนี้ ยังมีอีกหลายเวทีก็ต้องช่วยกัน เพราะเชียงใหม่ใหญ่มาก ต้องดูองค์ประกอบและสิ่งรอบด้าน ถ้าเปิดใจกว้างจะเห็นได้ว่าเชียงใหม่ไประดมคนมาจากไหนทั้งเสือไฟ เหยี่ยวไฟซึ่งมาจากหลายจังหวัดในประเทศไทย ไม่มีกำแพง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยทหาร ป่าไม้ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งทำให้ทำงานร่วมกันได้ หมดภารกิจก็มีภาพน่ารักที่ผมไปเลี้ยงหมูกระทะเสือไฟ 400 คน
ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสามารถทำลายข้อจำกัดได้หมด เฮลิคอปเตอร์ในประเทศไทยมี 13 ลำ บางช่วงเฮลิคอปเตอร์มาอยู่ที่เชียงใหม่ถึง 6 ลำ เชียงรายยังอิจฉา เครื่องบินทำฝนหลวงอยู่ที่เชียงใหม่ถึง 10 ลำ หมดประเทศ อยากได้อะไรผมหามาให้ เป็นการไล่แก้แม้จะระงับต้นเหตุไม่ได้ เพราะเป็นวิถีแต่ก็มีการกำหนดการเผา อาจารย์มช.เล่าให้ฟังว่าไปทำหมู่บ้านลดการเผาที่เชียงดาวก็ทำได้จริงและขอขยายพื้นที่ ส่วนม.แม่โจ้ก็มีโครงการที่จะทำอีกอำเภอเช่นกัน เช่นเดียวกับที่เอกชนรับซื้อวัสดุใบไม้ กิ่งไม้เพื่อลดการเผาซึ่งตนส่งเสริมเต็มที่
“เมื่อถอดบทเรียนกันแล้ว อะไรที่ว่าดีแล้วก็ทำต่อก็ทำไป ผมเปิดรับจริงๆ เพื่อขับเคลื่อนพื้นที่รอยต่อที่สภาลมหายใจเชียงใหม่บอกไม่ให้มีรอยต่อ เราก็ทำเป็นครั้งแรกที่ทำงานแบบไร้รอยต่อจังหวัด นอกจากนี้อำเภอ อุทยานและป่าไม้ก็ไปขยายต่อ ซึ่งทุกพื้นที่จุดความร้อนลดลงจริงๆ ถ้าจะให้ขยายผลเป็น 8 จังหวัดผมก็จะหน้าด้าน หน้าทนไปเชิญมาทั้ง 8 จังหวัดมาทำร่วมกัน และภาคส่วนอื่นทำได้มั้ย ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม มหาวิทยาลัยมีมากกว่าที่มีมั้ยเพื่อกระจายความรู้ไปสู่ทีมปฏิบัติที่สู้น้ำ สู้ไฟ มีอะไรขอให้พูดกัน ผมพูดตั้งแต่วันแรกแล้วว่าใครรู้อะไรให้บอกและทำงานร่วมกัน หากออกห้องประชุมแล้วห้ามด่าเพื่อทำงานร่วมกันได้ ผมพูดในฐานะหัวหน้าทีมและเห็นใจคนทำงาน และไม่เคยปกป้องคนทำผิดที่ก่อปัญหาและให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา เหมือนที่เชียงดาวคนชอบพูดว่าเขาเผาไร่หัวหน้าเขต จริงหรือเปล่า ถ้าจริงต้องพิจารณาหัวหน้าแต่ถ้าไม่จริงละ ผมจึงลงพื้นที่เชียงดาวไปพูดตรงๆ อย่าทำร้ายเชียงใหม่ด้วยการเผาไล่คน เหมือนที่ออบหลวงที่เผาแกล้งหัวหน้าอุทยานฯ อย่าคิดตื้นๆ แม้ผมไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาตรงๆ แต่ผมสามารถไปคุยให้ได้ อย่าหาข้ออ้างเผาป่า พื้นที่ก็ต้องทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ด้วยและให้เลิกวิธีคิดแบบนี้ซึ่งจะสามารถลดการเผาได้ด้วย”นายนิรัตน์ กล่าวและยังบอกอีกว่า
ขอให้ทุกคนเอาตัวเองออกจากหน่วยงานของตนเอง แต่ขอให้มองภาพรวมของเชียงใหม่ ว่าจะทำอย่างไรช่วยเชียงใหม่ได้ เหมือนสภาลมหายใจเชียงใหม่ทำ ถ้าทุกหน่วยเชียงใหม่ 200 กว่าแห่งทำได้ก็จะมีตัวอย่างและความกล้าไปคุยกับ 8 จังหวัดหรือ 17 จังหวัดภาคเหนือได้ว่าขอให้มองภาพรวม แต่วันนี้ขอให้ทำเชียงใหม่ให้ดีขึ้นให้ได้ก่อน และหากติดขัดอะไรตนอาสาจะเป็นคนแก้ให้ ประสานให้ ยกมือไหว้ให้ได้ ยอมลดอีโก้ของตัวเพื่อส่วนรวม อยากให้ทุกคนขับเคลื่อนด้วยกันอย่าขับเคลื่อนด้วยความคิดของตนเพียงคนเดียว ทุกองค์ความรู้มีคุณค่า เป็นประโยชน์แต่ต้องลงมือปฏิบัติได้ด้วย ขอให้ปรับคนละนิด ละหน่อย เชียงใหม่จะลดการเผาได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ที่สามารถมองเห็นเป็นรูปธรรมภายในห้วงชีวิต ที่จะทำให้เราหายใจได้สะดวกและไม่มีฤดูหมอกควันอยู่ในความทรงจำของลูกหลานอีกต่อไป.