29 พฤศจิกายน 2567, จังหวัดเชียงใหม่ – “พาณิชย์” จัดธงฟ้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชน จังหวัดเชียงใหม่ ยกทัพสินค้าราคาประหยัดกว่า 1,000 รายการ เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนในพื้นที่ และช่วยกระจายผลผลิตของเกษตรกร โดยมี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานมหกรรมธงฟ้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมนำคณะเดินทางเข้าเยี่ยมชมและพบปะผู้ประกอบการที่มาร่วมออกร้าน ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลต์ และสินค้าผลไม้ที่เชื่อมโยงจากกลุ่มเกษตรกร ในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ ไข่ไก่เบอร์ M แผงละ 95 บาท น้ำตาลทรายขาว กิโลกรัมละ 24 บาท น้ำมันพืชปาล์มขวดละ 46 บาท ข้าวหอมมะลิ 100% (5 กก.) ถุงละ 150 บาท กุ้งเผา กล่องละ 199 บาท ส้มเขียวหวาน กิโลกรัมละ 30 บาท ส้มสายน้ำผึ้ง กิโลกรัมละ 60 บาท และมีสินค้าโปรโมชั่น ปลากะพงทอดน้ำปลา ชุดละ 99 บาท และเบอร์เกอร์โคขุน ชิ้นละ 99 บาท
“กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้นำนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดค่าครองชีพในการจับจ่ายใช้สอยให้ประชาชน จัดงานมหกรรมธงฟ้าฟื้นฟูเศรษฐกิจจ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา บริเวณลานหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ห้างค้าปลีก/ค้าส่งขนาดใหญ่ เกษตรกร ผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อย (SMEs) วิสาหกิจชุมชน ห้างท้องถิ่น รวมทั้งผู้ประกอบการจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพมาจำหน่ายรวม 10 หมวด กว่า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 70% อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส น้ำยาซักผ้า ของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ช่าง สินค้าชุมชน เป็นต้น ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง มาเลือกซื้อสินค้าราคาประหยัด มีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพครบถ้วน ทั้งของกินของใช้ และผลไม้ตามฤดูกาล เชื่อว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้ตามเป้าหมาย” นายพิชัยกล่าว
การจัดงานมหกรรมธงฟ้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าคุณภาพดีในราคาประหยัด และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าทางการเกษตร อย่างเช่น ‘ส้ม’ ที่ช่วงนี้เป็นฤดูที่ผลไม้ออกผลผลิตจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าผลไม้ตกต่ำและสินค้าล้นตลาด อีกทั้งเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาบริโภคผลไม้ทางภาคเหนือและผลไม้ตามฤดูกาล นอกจากนี้เป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการและเกษตรกรจะได้พัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้า รวมทั้งส่งเสริมสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่นของภาคเหนือให้เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ