บ่ายคล้อย อากาศร้อนอบอ้าว ก่อนฝนจะเทกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้ถนนในตัวเมืองเชียงใหม่หลายสายมีรถติดหนึบขึ้นมาทันที เราตัดสินใจขับรถเลียบแม่น้ำปิง ทางฝั่งถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน ก่อนเลี้ยวเข้าไปจอดในลานของบ้านไม้โบราณ อายุเก่าแก่มากกว่า 150 ปี เยื้องกับตลาดอนุสาร อันเป็นที่ตั้งของ The Chocolate Factory
มองจากด้านนอก เป็นเรือนไม้ ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ปลูกขวางตะวัน หลังคาสองหลังเชื่อมต่อกันโดยมีรางรินอยู่ตรงกลาง แบบเรือนสองจ๋อง ซึ่งปลูกตามความเชื่อของชาวล้านนา คือหันตัวเรือน กับสองหน้าจั่ว ในแนวเหนือ-ใต้ ขนานกับการไหลของแม่น้ำปิง จึงสัมพันธ์กับทิศทางลม แถมมองเห็นทัศนียภาพทั้งด้านหน้า และหลังบ้าน ได้อย่างสวยงาม
ด้านข้างเป็น Shop ขายขนม ทั้งเค้ก ขนมขบเคี้ยว รวมไปถึงสกินแคร์ จำพวกสบู่ โลชั่น ครีมบำรุงผิว ที่ทำจากช็อกโกแลต
กรี๊ด!!…เสียงดังลั่นในใจ เจอรองเท้าแก้วนางซิน สงสัยจะรีบเลยถอดทิ้งไว้ เจ้าชายอยู่ไหน รีบเก็บไปตามหาเจ้าของด่วน มีหลายสีให้เลือกด้วยสิ ทำจากช็อกโกแลตอีกแล้ว ช่างสร้างสรรค์จริงๆ
ถัดมา เป็นตู้ช็อกโกแลตบองบอง พระเอกประจำ Shop ที่มีกว่า 40 ชนิด ทั้งที่ทำมาจากดาร์กช็อกโกแลต ไวท์ช็อกโกแลต ช็อกโกแลตนม เช่น ซอฟท์เวเนซูเอล่า มิ้ลค์, อัลมอนด์ ไบท์ ดาร์ค, อัลมอลด์ ไบท์ ไวท์, กาแล็กซี่, มองดีออง มิ้ลค์, ดาร์ค มิ้นท์, เฮเซลนัท พราลีน, เสาวรส, ราสเบอรี่ มิ้ลค์, ไลม์, คาปูชิโน่, โคโคนัท บลองซ์, ราสเบอรี่ ดาร์ค แต่ละชิ้นชวนน้ำลายสอทั้งนั้น โดยมุมด้านในสุดของร้าน กั้นเป็นห้องกระจกใส มองเห็นเชฟกำลังผลิตแบบสดๆ ร้อนๆ เรียกได้ว่าการันตีความใหม่สดทุกวัน
ลูกค้าสามารถเลือกสั่งของใน Shop ก่อนขึ้นไปนั่งรับประทานอาหารบนตัวบ้าน อันเป็นส่วนของ Restaurant ได้ หรือจะสั่งกลับบ้าน เป็นของฝากของที่ระลึก ก็มีหีบห่อบรรจุอย่างสวยหรู ราคาไม่แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นตั้งแต่ 30 บาทขึ้นไป แต่วันนี้เราเลือกสั่งช็อกโกแลตบองบอง และมิกซ์ฟรุต ชอร์ตเค้ก ให้ขึ้นไปเสิร์ฟด้านบน
Wow!!…นั่งสบาย บรรยากาศภายในร้านดูอบอุ่น นุ่มนวล ด้วยแสงไฟ และดนตรีแจ๊ส ที่เปิดคลอเบาๆ ทราบว่าบางช่วงมีดนตรีสดด้วย แบ่งเป็น 2 โซน คือด้านในร้าน ที่มีสิ่งดึงดูดใจเป็นพิเศษ เพราะไม่เพียงแค่เป็นที่นั่งรับประทานอาหาร ยังกันส่วนหนึ่งเป็น Chocolate Workshop ให้ผู้สนใจเกี่ยวกับช็อกโกแลต จองเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาที่ร้านกำหนด เพื่อสัมผัสประสบการณ์ตรงในการทำช็อกโกแลตอีกด้วย
อีกโซนหนึ่ง คือเทอเรส ซึ่งยื่นออกไปจากตัวบ้าน มองเห็นความเขียวขจีของสนามหญ้าที่ปูเต็มพื้นไปจรดตลิ่งแม่น้ำปิง ไม่ไกลกันนักมองเห็นขัวเหล็กได้อย่างชัดเจน
สำหรับอาหารมีให้เลือกทั้งแบบยุโรป ไทย อาทิ และที่พลาดไม่ได้ คือเมนูพิเศษเฉพาะสาขาเชียงใหม่ เป็นข้าวซอยไก่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว กับอาหารสไตล์ฟิวชั่น สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว สปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง เราใช้เวลาเลือกอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนสั่งสเต็กปลากะพงขาว พิซซ่าซาลามี่ และสปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง ตามด้วยเครื่องดื่มคลายร้อน อย่างช็อกโกแลตปั่น (Chocolate Frappe) กับแอปเปิ้ลโซดา
เมนูแรก สเต็กปลากะพงขาว ที่ใช้ปลากะพงขาวย่าง แล้วราดด้วยน้ำซอส เคียงข้างด้วยมันบด มะเขือเทศอบ ผักโขมอบชีส ใช้ใบโรสแมรี่ ผักชี กับดอกอัญชัน แต่งหน้าให้ดูเก๋ไก๋ ได้รสชาตินุ่มลิ้น หวานหอมจากเนื้อปลา แต่ถ้าใครชอบเปรี้ยวก็บีบมะนาวลงไปได้
พิซซ่าซาลามี่ เมนูเลื่องชื่อของอิตาลี รสชาติกลมกล่อมมาก แป้งพิซซ่าบางกรอบ 8 ชิ้น ใน 1 ถาด โปะหน้าด้วยซาลามี่ และชีส หอมอร่อยเวอร์ เป็นอีก 1 เมนูที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาร้านนี้
ขณะที่สปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง ให้ความรู้สึกเหนียวนุ่มจากเส้นสปาเก็ตตี้ เมื่อราดด้วยน้ำพริกอ่องที่ใช้พริกน้ำเงี้ยวเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทั้งยังตักซี่โครงหมูจากน้ำเงี้ยวมาวางด้วย และทานแกล้มกับแคบหมู ต้นหอมผักชี จึงเป็นฝรั่งที่มีกลิ่นไอล้านนาอย่างชัดเจนและลงตัว แถมยังไม่เลี่ยน สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องปรุงซอสเพิ่ม
ส่วนเครื่องดื่ม ช็อกโกแลตเฟรบเป้ เมนูชูใจยามอากาศร้อน เข้มข้นได้รสชาติช็อกโกแลตสมชื่อ ขมปนหวาน แต่ไม่หวานจัด ตกแต่งด้วยวิปครีมนุ่มๆ รับรองได้ลิ้มลองแล้วติดใจทุกราย เช่นเดียวกับแอปเปิ้ลโซดา ได้รสหวานซ่าน้อยๆ จากไซรัปและโซดา มาพร้อมกลิ่นหอมแอปเปิ้ลชื่นใจ
จบคอร์สของคาว ตบท้ายด้วยช็อคโกแลตกับขนม ที่สั่งไว้จาก Shop ด้านล่าง และช็อกโกแลตโดม ที่ต้องใช้ความสามารถในการราดน้ำซอสช็อกโกแลตร้อนๆ ลงบนโดมให้ละลาย จนแตกทะลุ ราดไปลุ้นไปด้วยความอยากรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน ปรากฏว่าความร้อนของน้ำซอส ทะลวงโดมจนแผ่นช็อกโกแลตแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ ไปเจอมูสช็อกโกแล็ต อร่อย อิ่มเอมสุดๆ
ถัดมา เป็นมิกซ์ฟรุต ชอร์ตเค้ก เนื้อเค้กจะหยาบเล็กน้อย เมื่อโปะด้วยครีม และแยม แล้วกินกับผลไม้ อย่างสตรอเบอรี่ กีวี่ ก็ได้รสชาติเปรี้ยว หวาน หอมชื่นใจ ไม่ผิดหวังจริงๆ
ได้เวลาละเลียดกับช็อกโกแลตบองบอง พระเอกของร้านสักที เราสั่งมา 6 ชิ้น ชิ้นแรก ไลม์ – Lime ได้รสเปรี้ยวของมะนาวเล็กน้อย ผสานกับความหวานหอมของไวท์ช็อกโกแลต ชิ้นที่ 2 กรองมานิเย่ – Grand Manier ยังเป็นช็อกโกแลตขาว ไส้เหล้าหวานรสส้ม ชิ้นที่ 3 ช็อกโกแลตรสพริก – Chocolate Chilli ช็อกโกแลตดำ รสเข้มข้น หอมหวาน สัมผัสได้ถึงรสพริกอ่อนๆ ชิ้นที่ 4 อัลมอนด์ ไบท์ ไวท์ – Almond Bite ( White) เป็นอัลมอนด์ เคลือบช็อกโกแลตขาว หวานมันกลมกล่อม ชิ้นที่ 5 แมคคาเดเมียกาแฟ – Macadamia Coffee ได้รสชาติเข้มข้นของช็อกโกแลต และยังหวานมันเล็กๆ กับแมคคาเดเมีย ควบคู่กับกลิ่นกาแฟหอมละมุน มาถึงชิ้นสุดท้าย ซอฟท์ไวท์ – Soft White ช็อกโกแลตขาวสด เนื้อเนียนนุ่ม ได้กลิ่นหอมของนมนิดๆ
เรียกได้ว่ามาที่เดียวสุดคุ้ม ได้ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน ช็อกโกแลต แถมยังมีไวน์รสเลิศ จากทุกมุมโลกไว้บริการด้วย เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมากับครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนฝูง โดยเปิดตั้งแต่ 10.00-22.00 น. ของทุกวัน.
