มาแล้วเที่ยวบินปฐมฤกษ์โอซาก้า-เชียงใหม่ ไทยเวียตเจ็ทปลื้มกระแสตอบรับดี เผยยอดจองหลังเปิดเส้นทางบินกว่า 80% ชี้หนาแน่นมากช่วงปลายมี.ค.ที่เป็นช่วงซากุระบาน
เมื่อเวลา 13.15 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท พร้อมด้วยนายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยเวียตเจ็ท นายฮิกุจิ เคอิจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นายธนิต ชุมแสง ประธานกองทุน We Love Chiangmai และ น.ส.สุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวกว่า 150 คน ที่เดินทางมากับสายการบินไทยเวียตเจ็ทเที่ยวบินปฐมฤกษ์ โอซาก้า – เชียงใหม่ เที่ยวบินที่ VZ823 จากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น สู่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
นายฮิกุจิ เคอิจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังสถานการณ์โควิดฯและมีการเปิดประเทศทำให้ผู้คนอยากเดินทางกันมากขึ้น โดยเฉพาะในเที่ยวบินแรกนี้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างเชียงใหม่และโอซาก้า ของญี่ปุ่น ดีขึ้นในอนาคต
ด้านนายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า สำหรับเส้นทางบินโอซาก้า-เชียงใหม่ถือว่าประสบความสำเร็จ แม้เที่ยวบินแรกมีผู้โดยสารกว่า 100 กว่าคน แต่ก็เห็นว่าชาวญี่ปุ่นมีความสุขมากกับการต้อนรับ อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจะมีความแตกต่างจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ไม่ใช่มีร้านอาหารญี่ปุ่นเต็มเมือง ส่วนใหญ่ชาวญี่ปุ่นจะชอบวัฒนธรรม งานศิลปะ งานฝีมือ ไม่ชอบความวุ่นวาย เน้นความเป็นส่วนตัว และชอบตีกอล์ฟมาก ซึ่งเที่ยวบินนี้มีนักกอล์ฟมากพอควร
“สำหรับยอดจองหลังเปิดตัวเส้นทางบินเชียงใหม่-โอซาก้า,โอซาก้า-เชียงใหม่ มียอดจองกว่า 80% และในวันที่ 2 เมษายน จะเพิ่มเป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และปลายปีจะเพิ่มเป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะปลายเดือนมีนาคมที่ตรงกับช่วงเทศกาลดอกซากุระบาน และเป็นเวลา 15 ปี แล้วที่เราไม่มีสายการบินตรงจากเชียงใหม่ไปญี่ปุ่นเลย ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ในวันนี้ และมั่นใจเลยว่าการเดินทางไปกลับเชียงใหม่-โอซาก้า จะดีขึ้นเรื่อยๆ”ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวและว่า
เที่ยวบินนี้มีทั้งบริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนญี่ปุ่นอีก 6 คนที่มาด้วย ก็จะได้เรียนรู้การทำอาหาร และศิลปหัตถกรรม เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อไป และเท่าที่ได้สนทนากับกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ พบว่าเชียงใหม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับโอซาก้าได้ นอกจากจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจการค้าการลงทุนได้ โดยเฉพาะสินค้าทางด้านการเกษตร หรือลู่ทางในการขนส่งสินค้าผ่านการบินตรงไปโอซาก้า เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้สูงขึ้น นอกเหนือจากการเชื่อมโยงทางด้านศิลปวัฒนธรรม.