รองผู้ว่าฯเชียงใหม่เผยภายในสัปดาห์นี้เงินอุดหนุนจากอบจ.เชียงใหม่ 13.67 ล้านถึง 644 หมู่บ้านที่อยู่ติดเขตป่าเพื่อใช้ขับเคลื่อนในการป้องกันฯและทำแนวกันไฟ ส่วนเงินรายได้จากแข่งกอล์ฟและยิงปืนซื้อเครื่องเป่าลมกับอาหารแห้ง ทำประกันอาสาดับไฟป่า ยันสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นฯยังอยู่ไม่รุนแรง นัดคิกออฟฉีดพ่นละอองน้ำพร้อมกัน 7 มี.ค.นี้
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.65 ที่ห้องปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น pm2.5 อบจ.เชียงใหม่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯครั้งที่ 5/2565 และประชุมร่วมกับศูนย์บัญชาการระดับอำเภอทั้ง 25 แห่งผ่านระบบซูม
โดยที่ประชุมได้รับรองรายงานการประชุมและข้อสั่งการในการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งให้ชุดปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ การลาดตระเวนและการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงและรอยต่อที่อาจก่อให้เกิดไฟป่า รวมถึงการเข้าดับไฟในพื้นที่ที่เกิดจุดความร้อนอย่างเร่งด่วน โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเป็นหลัก นอกจากนี้ยังให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบูรณาการแผนการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้อำเภอและอปท.รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือในการป้องกันไฟป่าให้พร้อมปฏิบัติงาน ให้อำเภอจัดทำแผนเผชิญเหตุในห้วงเดือนมีนาคม-สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน
ให้ศูนย์บัญชาการฯระดับอำเภอรายงานผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ให้ศูนย์บัญชาการฯจังหวัดทราบทุกวันก่อน 18.00 น.และให้หน่วยปฏิบัติการดับไฟต่างพื้นที่ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่รายงานตัวกับผู้อำนวยการอำเภอและอปท.ในพื้นที่และให้มีการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าของพื้นที่ ที่เกิดจุดความร้อน(Hot Spot) ในกรณีที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้บริหารการจัดการเชื้อเพลิง
รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันที่ 7 มี.ค.นี้ให้ทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำรถดับเพลิง รถน้ำออกฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ โดยในส่วนของอบจ.เชียงใหม่นายนาวิน สินธุสะอาด อดีตรองผู้ว่าฯเชียงใหม่และรองนายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า อบจ.เชียงใหม่จะให้รถดับเพลิงบรรทุกน้ำไปฉีดพ่น รวมทั้งติดตั้งที่พ่นละอองฝอยใน 6 จุดคือที่สะพานลอยตลาด 3 แยก สะพานลอยหน้านิยมพานิช สะพานลอยหน้าโลตัสหางดง ,สี่แยกเซ็นทรัลเฟสติวัล ,สี่แยกข่วงสิงห์และที่หน้าอบจ.เชียงใหม่
“การที่ให้แต่ละพื้นที่ออกมาฉีดพ่นน้ำนั้น แม้จะไม่ได้ช่วยลดฝุ่นควัน แต่ก็เป็นการสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ และแสดงให้ประชาชนได้เห็นว่าหน่วยงานรัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีความห่วงใยต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน การเลือกจุดก็ขอให้เป็นจุดที่มีประชาชนไปใช้บริการอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ได้ขอให้ทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำเซฟตี้โซนหรือห้องปลอดฝุ่น สำหรับเด็กเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจจะเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงพยาบาลชุมชนด้วย”นายวรวิทย์ กล่าวและให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงสถานการณ์และการดำเนินการของจังหวัดเชียงใหม่ว่า
สถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นฯขณะนี้ จุดความร้อนหรือ Hot Spot เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินมาตรฐาน แต่ก็ได้เน้นย้ำในที่ประชุมแล้วว่าพื้นที่ไหนที่ค่าเฉลี่ย 7 วันสูงเกินอย่างเช่นที่ อ.แม่แจ่ม ให้นโยบายไปแล้วว่าห้ามเผาเด็ดขาด ส่วนการบริหารเชื้อเพลิงยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ก็กำชับแต่ละอำเภอให้ดูและกำกับด้วยว่าเมื่ออนุญาตแล้วต้องให้เจ้าของพื้นที่ควบคุมไม่ให้ปล่อยลุกลามเข้าป่าเหมือนที่อ.แม่ออน
สำหรับการบริหารเชื้อเพลิงที่ได้รับอนุญาตและลงทะเบียนในระบบมีกว่า 1.7 แสนไร่ ซึ่งก็ขอให้แต่ละพื้นที่ดูสภาพอากาศประกอบด้วย และฝากถึงพี่น้องประชาชนที่มีพื้นที่ทำกินใกล้เขตป่าหากจัดการเชื้อเพลิงขอให้อยู่ดูแลจนเสร็จ อย่าให้ไฟลุกลามเข้าป่าและหากพบเจอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย ช่วงนี้ค่าฝุ่นฯที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากฝุ่นควันข้ามแดน และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้ประสานกับทางกองทัพบกไปแล้วให้ช่วยดูพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดทั้งลำปาง ลำพูน เชียงราย และรอยต่อระหว่างอำเภอเองทั้งดอยสะเก็ด สันกำแพงและแม่ออนที่ช่วงนี้มีไฟไหม้บ่อย ขอให้ทุกพื้นที่เมื่อพบเห็นหรือเกิดไฟให้แจ้งผู้นำชุมชนเข้าไปตรวจสอบและช่วยกันดับไฟไม่ใช่เกี่ยงว่าไม่ใช่พื้นที่ของตน
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณในการดำเนินการนั้น มีงบฯที่อบจ.เชียงใหม่สนับสนุน 13.67 ล้านบาทที่จัดลงหมู่บ้าน 466 แห่ง โดยส่งผ่านทางอำเภอซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้เงินจะไปถึงแน่นอน และอบจ.เชียงใหม่ยังอุดหนุนให้แต่ละอำเภอๆ ละ 2 หมื่นบาทในการบริหารจัดการด้วย ส่วนเงินรายได้จากการจัดแข่งกอล์ฟและยิงปืนนั้น นำไปจัดซื้อเครื่องเป่าลมและทำประกันให้กับอาสาสมัครดับไฟป่า เพราะปีที่แล้วทางคปภ.เป็นผู้สนับสนุน แต่ปีนี้คปภ.ไม่มีงบฯจังหวัดจึงได้ใช้เงินส่วนนี้ไปดูแล รวมทั้งจัดซื้ออาหารสำเร็จรูปและเครื่องดื่มให้กับชุดลาดตระเวนด้วย.