ราคาลำไยดิ่งหลังผลผลิตออกได้แค่ 7-8% ล้งจีนยังไม่เปิดรับซื้อเพื่อนำไปอบแห้ง หลังออเดอร์ส่งออกยังไม่มี ด้านจังหวัดเชียงใหม่เรียกผู้ประกอบการส่งออกหารือ หวังรักษาระดับราคาลำไยให้มีเสถียรภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ผลผลิตลำไยในจังหวัดเชียงใหม่เริ่มออกสู่ตลาดได้ประมาณ 7-8% จากการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตในปีนี้ทั้งสิ้น 251,219 ตัน โดยแยกเป็นลำไยในฤดูกาลผลิต 134,106 ตันและนอกฤดูอีก 120,113 ตัน โดยสถานการณ์ราคาในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลปีนี้ ลำไยสดมัดช่อเกรด เอเอกิโลกรัมละ 38-40 บาท/กก. เกรดเอ 35-38 บาท/กก. เกรดบี 30-35 บาท/กก.และเกรดซี 25-30 บาทต่อกก.
นายประมวล เครือมณี หน.กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า แนวทางการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผลผลิตลำไยปี 2560 ซึ่งทางสนง.เกษตรจังหวัดร่วมกับคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตทางการเกษตรระดับจังหวัด(คพจ.) บริษัทประชารัฐ รักสามัคคีเชียงใหม่ จำกัด กลุ่มผู้ผลิตลำไยแปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตและแปรรูปลำไยได้ร่วมกันวางแผนบริหารจัดการลำไยเพื่อแก้ไขปัญหาลำไยล้นตลาดและราคาผลผลิตลำไยตกต่ำ โดยมีเป้าหมายบริหารจัดการลำไยในฤดูทั้งหมด 134,106 ตัน โดยใช้กลไกในการขับเคลื่อน 2 ส่วนคือกลไกตลาดปกติและกลไกกระตุ้นการบริโภคลำไยสด ซึ่งมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้นี้ทางพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการกระจายลำไยสดจังหวัดเชียงใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกลำไย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรักษาระดับราคาลำไยให้มีเสถียรภาพ และเกิดการแข่งขันด้านราคาที่สมบูรณ์เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตลำไยตกต่ำในพื้นที่ให้แก่เกษตรกรและสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต
โดยที่ประชุมได้.เห็นชอบให้มีการดำเนินการกระจายลำไยสด(เกรด AA+A) ออกนอกแหล่งผลิตทั้งภายในและภายนอกประเทศโดยเร็ว สำหรับภายในประเทศจะกระจายไปยังจังหวัดภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง. โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เป็นผู้ประสานการสั่งซื้อ
นอกจากนี้ไดเมอบหมายกลุ่มกำกับฯ จัดทำเอกสารประกาศจังหวัด/ใบสมัคร/ขั้นตอนการดำเนินการ เพื่อรับสมัครผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการกระจายผลผลิตลำไย จังหวัดเชียงใหม่ ในเบื้องต้นขอผู้ประกอบการที่สนใจยื่นใบสมัครภายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 นี้สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันผลผลิตลำไยจังหวัดเชียงใหม่เริ่มเก็บเกี่ยวประมาณ 7-8 % และช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลด้านคุณภาพและสถานการณ์ โดยเฉพาะผลผลิตลำไยซึ่งพบว่ามีสีผิวคล้ำ และสัดส่วนการส่งออกจีนได้น้อยลง เป้าหมายหลักจึงต้องส่งประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งผู้ส่งออกได้ทยอยซื้อลำไยเก็บเข้าห้องเย็นจนเต็ม แต่ไม่สามารถส่งออกได้. จึงชะลอและเริ่มสั่งหยุดการรับซื้อ
อีกทั้งผู้ประกอบการจีนที่เป็นโรงอบแห้ง ยังไม่เปิดราคารับซื้อ เนื่องจากมีการตระเวนตรวจสอบสถานการณ์การส่งออกสดทุกวัน เมื่อเห็นว่าไม่สามารถส่งออกได้ ราคาลำไยจึงดิ่งลงรายวัน. ผู้ประกอบการโรงอบจีน รายใหญ่ๆ จึงไม่ยอมเปิดราคารับซื้อ แต่ก็มีการรับซื้อบ้างประปราย และล่าสุดทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จะเชิญบริษัทรับซื้อลำไยรายใหญ่ของจีน 2 บริษัทมาหารือร่วมกับผู้ประกอบการส่งออกลำไยในวันที่ 18 ก.ค.นี้หากข้อเจรจาเป็นไปด้วยดีก็จะมีการลงนาม MOU โดยจะเชิญกงสุลใหญ่จีน ผวจ.เชียงใหม่และส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานด้วย.