วันแรกสมัครชิงนายก อบจ.เชียงใหม่คึกคัก อดีตนายกฯ “พิชัย” ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซนต์ หวังต่อยอดผลงาน ส่วน “พันธุ์อาจ”ไม่หวั่น หวังปฏิรูปอบจ.

วันแรกสมัครชิงนายก อบจ.เชียงใหม่คึกคัก อดีตนายกฯ “พิชัย” ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซนต์ หวังต่อยอดผลงาน ส่วน “พันธุ์อาจ”ไม่หวั่น หวังปฏิรูปอบจ.

วันแรกสมัครชิงนายก อบจ.เชียงใหม่คึกคัก “สว.ก๊อง” แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย จับสลากได้เบอร์ 2 ขณะที่ “พันธุ์อาจ” จากพรรคประชาชนจับได้เบอร์ 1 กองเชียร์ 2 ฝ่ายแห่ให้กำลังใจแน่นอดีตนายกฯ “พิชัย” ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซนต์ หวังต่อยอดผลงานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวเชียงใหม่ ชูสโลแกน กล้าคิด ทำเป็น เห็นผลงาน ส่วน “พันธุ์อาจ”ไม่หวั่น หวังปฏิรูปอบจ. ชูนโยบาย 4 อยู่คืออยู่ได้ ด้านเศรษฐกิจอยู่ดี ด้านคุณภาพชีวิตอยู่เย็น คือการมี อบจ.ให้สุขประชาชน และอยู่ยั่งยื่น ที่มุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 และอุทกภัยทางด้านอดีตผู้สมัคร ส.ส.รวมไทยสร้างชาติโผล่ยื่นสมัครด้วย

วันนี้ (23ธ.ค.67) ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนที่จะถึงเวลาเปิดรับสมัคร 08.30 น. จากการที่บรรดาผู้สนับสนุนผู้สมัครแต่ละรายต่างพากันมารอให้กำลังใจอย่างเนืองแน่น

โดยเบื้องต้นมีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.เชียงใหม่) 2 รายสำคัญที่เดินทางมาถึงก่อนเวลาเปิดรับสมัคร คือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย และนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน) ที่ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ทำให้เมื่อถึงเวลาเปิดรับสมัครต้องใช้วิธีจับสลากเพื่อให้ได้หมายเลขผู้สมัครที่จะนำไปใช้ในการหาเสียง โดยปรากฏว่านายพันธุ์อาจ ได้หมายเลข 1 และนายพิชัย ได้หมายเลข 2

ขณะที่ในช่วงเวลา 08.49 น.พลตรีพนม ศรีเผือด อดีตหัวหน้าฝ่ายงานข่าว กอ.รมน จังหวัดเชียงใหม่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เดินทางมาลงชื่อเพื่อยื่นเอกสารสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นรายที่ 3

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้สมัครตำแหน่งนายกอบจ.เชียงใหม่ 3 คน แต่ตนก็มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาได้สร้างผลงานและทำงานอย่างเต็มที่ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ให้พี่น้องประชาชนนำไปประกอบพิจารณาว่าควรจะมาเป็นนายกอบจ.เชียงใหม่สมัยที่ 2 ต่อหรือไม่

“การเลือกตั้งไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการนำเสนอผลงานว่าที่ผ่านมาทำงาน มีผลงานอย่างไร ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผมด้วย จะมาขึ้นเวทีพบปะพี่น้องชาวเชียงใหม่ในทุกอำเภอ เชียงใหม่เป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกฯทักษิณก็สร้างผลงานไว้มากมายจึงทำให้ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์”นายพิชัย กล่าวและว่า

เลือกตั้งครั้งก่อนได้คะแนน 402,179 คะแนน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยผลงานที่ทำมาตลอด 4 ปีที่ชาวเชียงใหม่เห็นเป็นที่ประจักษ์จึงทำให้มั่นใจว่าครั้งนี้ตั้งเป้า 6 แสนคะแนนขึ้นไป อยากให้เป็นประวัติศาสตร์การเลือกตั้งท้องถิ่นของเชียงใหม่  ตลอด  4 ปีลงพื้นที่ทุกอำเภอ มีผลงานที่ชัดเจนเช่นการจัดสร้างสวนสาธารณะบนที่ดินการรถไฟ  และจะมีการพัฒนาต่อไป รวมถึงพัฒนาพื้นที่กว่า 300 ไร่บริเวณด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้พัฒนาให้เป็นสวนอบจ.เชียงใหม่เป็นสถานที่พักผ่อน ออกกำลังกายและนันทนาการ มีการจัดงาน Charming Chiang Mai ซึ่งขณะนี้ก็ยังจัดอยู่มีคนมาเที่ยวชมสวนดอกไม้กว่า 3 ล้านคน ในด้านสาธารณสุขก็จะดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลอบจ.เชียงใหม่ขนาด 200เตียงซึ่งมีสถานที่ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมที่จะเข้ามาสานงานต่อในเรื่องนี้

นายพิชัย กล่าวด้วยว่า การจับสลากหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้เนื่องจากบางเขตมีผู้สมัครอิสระด้วย จึงทำให้หมายเลขผู้สมัครนายกฯกับส.อบจ.เขตไม่ได้เบอร์เดียวกันก็ไม่ใช่เป็นปัญหาเพราะส.อบจ.แต่ละเขตลงพื้นที่และประชาสัมพันธ์ต่อประชาชน ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาทุกคนก็ลงพื้นที่และทำงานตลอดจึงมั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้งยกทีม

ในวันนี้(23 ธ.ค.67)ช่วงเย็นอดีตนายกฯทักษิณจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามฯ  700 ปี มีพี่น้องประชาชนจากทุกพื้นที่มาร่วมรับฟัง ส่วนวันที่ 24 ธ.ค.จะมี 3 เวทีคือที่อ.สันป่าตองจะมีประชาชนสายใต้มาร่วมรับฟัง ภาคบ่ายที่ม.แม่โจ้ จะมีประชาชนจากสันทราย แม่ริม แม่แตงและรอบๆ มาร่วมรับฟัง ส่วนตอนเย็นเวทีที่สันกำแพงก็จะมีพี่น้องประชาชนจากดอยสะเก็ด สันกำแพง แม่ออนมารับฟังนโยบายจากตนและอดีตนายกฯทักษิณ

“การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ผมมั่นใจในตัวเองและทีมงานที่มีผลงานเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าคะแนนไว้ประมาณ 6 แสนคะแนนอยากให้เป็นประวัติศาสตร์การเลือกตั้งท้องถิ่นของอบจ.เชียงใหม่  ส่วนสาเหตุที่ลาออกก่อนครบวาระ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งนั้น 9 ล้านบาทนั้น อย่างไรก็ใช้ไม่ถึงแน่นอน เพราะหากเป็นการเลือกตั้งครบวาระค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 33 ล้านบาท แต่การใช้จ่ายต้องมีที่มา ที่ไปของการใช้เงิน ซึ่งการเลือกตั้งไม่ได้ใช้เงินเยอะถึงขนาดนั้น เพราะการเลือกตั้งครั้งก่อนผมใช้เงินแค่ 4-5 ล้านบาทเอง”นายพิชัย กล่าว

ด้านนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พรรคประชาชน เบอร์ 1 กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาชนก็มีนโยบายที่มุ่งเน้นอยู่ 3 ท. คือ ทุกคน ทั่วถึง เท่าเทียม โดยของจังหวัดเชียงใหม่ ก็มีการเน้นในเรื่องของ การปฏิรูป อบจ. เพื่อทำให้เกิดโอกาสสำหรับทุกคน และสำหรับคนเชียงใหม่ 1.7 ล้านคน โดยนโยบายหลักจำง่ายๆ คือ 4 อยู่ คือ อยู่ได้ ด้านเศรษฐกิจอยู่ดี ด้านคุณภาพชีวิตอยู่เย็น คือการมี อบจ.ให้สุขประชาชน และอยู่ยั่งยื่น ที่มุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 และอุทกภัย

ทั้งนี้ในส่วนของการแข่งขัน ตนไม่ได้มีความหนักใจอะไร ซึ่งคนมองว่า บ้านใหญ่ก็มีวิวัฒนาการของบ้านใหญ่ ในขณะเดียวกันการทำงานในระดับราชการซึ่งตนก็มีประสบการฝนการทำงานระดับราชการที่ตนก็เคยทำงานเป็นหัวหน้าราชการมาแล้วเกือบ 10 ปี ดังนั้นประสบการณ์ในการทำงานส่วนกลาง ก็สามารถดึงนำมาใช้กับการปฏิรูปองค์กร ทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้ง อบต. เทศบาล รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชน , NGO และหน่วยงานสถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่พร้อมทำงานได้เลย เข้าใจระบบงบประมาณ รวมถึงระบบการตรวจสอบ

ในส่วนของความกังวลเรื่องการหาเสียง ก็ไม่ได้มีความกังวลเป็นอย่างใด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างก็มีคนสำคัญในการเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่น่าติดตาม โดยตนมองว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่การเมืองที่มีอุดมการณ์สูงจึงมีแนวทางการทำงาน และการเมืองที่โปร่งใส มากกว่าจึงไม่น่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น โดยตนมั่นใจว่าการมี สส.ทั้ง 7 เขต และส่วนที่ยังไม่ประสบชัยชนะ 3 เขตก็ยังคงทำงานอย่างหนัก เช่นกันที่ยังคงดูแลประชาชน และยังคงมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตั้งแต่มีการเข้าสู่สภา ดังนั้นจึงมองว่าการทำงานในระดับท้องถิ่นก็เป็นมิติใหม่ที่มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างแท้จริง

 

You may also like

เริ่มแล้วกับงาน“AMAZING CHIANG MAI COUNTDOWN 2025”เข้าชมฟรีททท.คาดเงินสะพัด3.5 พันล้านบาท เผยยอดจองที่พักพุ่งกว่า 91%

จำนวนผู้