“ศุภชัย”เปิดจวนผู้ว่าฯ จิบกาแฟพบสื่อฯยามเช้า ยันเดินหน้าขับเคลี่อนการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ มุ่งสู่เป้าหมาย “ทำให้เชียงใหม่มีการพัฒนา ประชาชนมีความสุข” ยอมรับภาพรวมเป็นเมืองที่มีศักยภาพมากแต่พอจะขับเคลื่อนก็มักติดปัญหา แจงไม่กังวลการนัดชุมนุมใหญ่ต้านบ้านพักตุลาการเชื่อหลังคณะกรรมการชุดใหญ่ประชุม 16 ส.ค.จะชัดเจนขึ้น
วันที่ 14 ส.ค.61 ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม”สภากาแฟผู้ว่าฯพบสื่อมวลชน”ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผวจ.เชียงใหม่ได้พบปะกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการหลังจากเข้ารับตำแหน่งผวจ.เชียงใหม่ โดยมี พล.ต.สาธิต ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33,พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผวจ.เชียงใหม่ ,นายประจวบ กันธิยะ รองผวจ.เชียงใหม่,นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกอบจ.เชียงใหม่และนายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าวด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ของจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ เพื่อจะได้ประสานการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีประสิทธิภาพมาก และในขณะเดียวกันจังหวัดเชียงใหม่ก็มีปัญหาในบางเรื่องค่อนข้างเยอะที่ต้องแก้ปัญหา จึงมีความกังวลว่าเวลาจะพัฒนาไปข้างหน้าจะติดกับปัญหาเดิมอยู่ด้วย แต่ในเรื่องการพัฒนาเชียงใหม่ก็จะต้องเดินหน้ากันต่อไป ตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัดที่กำหนดแนวทางที่วางไว้อยู่แล้ว โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การปรับตัวจะต้องให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและดีขึ้นกว่าเดิม เชียงใหม่เองมีบุคลากรที่สำคัญต้องมาช่วยกันขับเคลื่อน เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์เชิงรุกที่จะต้องสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา ไม่ใช่ยึดติดแต่ของเดิม เพราะเชียงใหม่มีสถาบันการศึกษาที่มีความสามารถสูงก็น่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีกมาก
“ในการทำงานของผมนั้น จะไม่ทิ้งชนบททั้ง 2,066 หมู่บ้าน จะมีการขับเคลื่อนโดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยมีรูปแบบ จัดระบบ มีกระบวนและขั้นตอน ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ เกิดการพึ่งพาตนเอง สร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาในเขตเมืองให้เดินไปด้วยกัน เกิดการหมุนเวียนมีรายได้ใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจเกิดความเข้มแข็ง ในทุกระดับ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าไม่มีอะไรสำเร็จได้ 100 เปอร์เซ็นต์แต่ที่จะประสบความสำเร็จมากก็คือการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อทำให้การทำงานสำเร็จมากขึ้น”นายศุภชัย กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ส่วนเรื่องที่จะสานต่องานจาก นายปวิณ ชำนิประศาสน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นั้น ในเรื่องที่ ผวจ.คนเดิมได้วางแนวทางไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดก็จะเดินหน้าต่อไป เพราะถือว่าได้วางแผนร่วมกับประชาชนได้ส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งจะไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนที่วางไว้ แต่จะช่วยเสริมและเพิ่มเติมส่วนที่ขาดหายไปให้สมบูรณ์ขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ความมุ่งหวังของผวจ.เชียงใหม่ก็เป็นแนวทางเดียวกันคือ ทำให้เชียงใหม่มีการพัฒนาแล้วทำให้ประชาชนมีความสุข ส่วนราชการทำงานได้ดีสมบทบาทและหน้าที่ของตนเอง
นายศุภชัย ยังได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนกรณีปัญหาบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ ซึ่งกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยได้นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ว่า ไม่รู้สึกกังวลโดยวันที่ 16 ส.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ที่ตนเป็นประธานและจะได้ทำความเข้าใจกันได้ ไม่มีการวางตุ๊กตาในเรื่องนี้ไว้ ต้องรอและฟังในที่ประชุมก่อนว่าคิดเห็นกันอย่างไร แต่ถ้าหากยังยืดเยื้อก็จะใช้กลไกที่มีอยู่ ในตอนนี้คงจะเสนอความคิดเห็นมากๆ ไม่ได้เกรงว่าจะมีการแปลความหมายผิดไป
ในด้านการท่องเที่ยวนั้น ต้องถือว่าเชียงใหม่การท่องเที่ยวก็ปลอดภัย แม้ว่าจะมีนักลงทุนเข้ามามากแต่ก็ต้องอยู่ในกฎ ระเบียบที่มีอยู่ อย่างกรณีที่จะมีการลงทุนสร้างโรงแรมในที่ดินของวัดนั้น ทางสำนักพุทธศาสนาเป็นผู้ดูแล แต่ก็มีกฎหมายระบุอยู่ว่าการสร้างโรงแรมในรัศมี 100 เมตรจากวัดและโรงเรียนทำไม่ได้อยู่แล้ว และการที่เชียงใหม่จะก้าวสู่การเป็นมรดกโลกนั้น ส่วนตัวผมมองว่าประชาชนชาวเชียงใหม่จะต้องมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นในการดูแลด้วย
ผวจ.เชียงใหม่ ยังบอกด้วยว่า สำหรับเรื่องปัญหาระบบขนส่งมวลชนของเมืองเชียงใหม่นั้น ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและการจราจร (สนข.) จะเข้าพบภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อหารือการเดินหน้าสร้างระบบขนส่งมวลชนรถไฟรางเบา เพื่อสร้างการรับรู้ต่อประชาชน รวมไปถึงรถเมล์ที่วิ่งในเมืองที่เอกชนลงทุนก็จะต้องทำให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะในเรื่องจุดจอดที่ชัดเจน การสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ ให้เกิดความน่าใช้ น่าลองและให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง.