สถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ถกปัญหาข้อร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวจีน หลังพบปัญหาเกิดอุบัติเหตุ ความปลอดภัยและข้อติดขัดที่ร้องเรียนผ่านสถานกงสุล เผยช่วงภาคเหนือเกิดภาวะวิกฤตหมอกควันทำให้นักท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนแผนไปที่อื่น เชื่อครึ่งปีหลังจะกระเตื้องขึ้น ขณะที่จนท.ฝ่ายไทยแจงเรื่องการให้บริการและความช่วยเหลือทำเต็มที่
เมื่อเร็วๆ นี้ สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ โดยนายเหริน ยี่เซิน กงสุลใหญ่จีนฯ เป็นประธานประชุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวจีน ตลอดจนร่วมกันสร้างเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่,แม่ฮ่องสอน,งานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่,ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่,สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่,ลำพูน,ตำรวจท่องเที่ยว,ตรวจคนเข้าเมือง,ด่านศุลกากร,สำนักงานขนส่งและตัวแทนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับในการแก้ปัญหาร่วมกัน
จีนห่วงปัญหาอุบัติเหตุและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากตลอดระยะเวลา 3 ปีมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือของไทยอย่างต่อเนื่องและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทางสถานกงสุลใหญ่ฯจึงไประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดทำกลุ่มไลน์เครือข่ายขึ้นมาเพื่อที่จะได้สะดวกในการติดต่อสื่อสาร และประสานงานในเบื้องต้นด้วย
เมื่อปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทย 10.5 ล้านคน โดยมาภาคเหนือ 2 ล้านคน มีนักศึกษาจีนเรียนอยู่ในประเทศไทย 40,000 คน โดยอยู่ในภาคเหนือ 7,000 คน สำหรับชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ สามารถแยกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 5 กลุ่มคือ กลุ่มที่มาท่องเที่ยว ทำธุรกิจและพำนักระยะยาว กลุ่มนักศึกษาหรือครูสอนภาษา กลุ่มเรือสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกรวมทั้งลูกเรือ กลุ่มชาวจีนจากสามเหลี่ยมทองคำที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย และกลุ่มที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการไหลเวียนอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ทำให้ยากต่อการดูแลบริหารจัดการเพราะมีความซับซ้อน
“นักท่องเที่ยวจีนว่า บางคนเป็นการออกนอกประเทศครั้งแรก ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันปัญหาและไม่มีการซื้อประกันภัย เมื่อเกิดปัญหาจึงยากต่อการช่วยเหลือแม้ทางสถานกงสุลจะมีกงสุล 3 คน รับผิดชอบ รวมถึงอาสาสมัครช่วยประสานงานรวมประมาณ 20 คน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ โดยสาเหตุหลักของปัญหามาจากเรื่องภาษา ทั้งนี้ ในรอบครึ่งปีแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตในพื้นที่จำนวน 13 คน ได้รับบาดเจ็บ 106 คน อย่างไรก็ตาม จำนวนนี้ยังถือว่าน้อยหากเทียบกับประเทศอื่นอีกหลายๆประเทศ”
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 มีปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวจีนและทางสถานกงสุลฯได้รับเรื่องร้องเรียนในหลายประเด็น และอยากหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ประเด็นแรก ปัญหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมและการเยียวยาและชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งเหตุการณ์รถตู้บริการนักท่องเที่ยวจากเชียงใหม่-ปาย และรถบัสโดยสารนำเที่ยวประสบอุบัติเหตุบนเส้นทางอ.ดอยสะเก็ดไปเชียงราย มีนักท่องเที่ยวชาวจีนได้รับบาดเจ็บและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งกรณีอุบัติเหตุดังกล่าวนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่การรักษาเยียวยา หากเทียบกับกรณีเรือล่มที่ภูเก็ตซึ่งได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเกิดความเชื่อมั่นมากกว่า
ประเด็นปัญหาต่อมาเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างนักท่องเที่ยวและผู้ให้บริการหรือบริษัทนำเที่ยว บริษัทรถเช่าที่ไม่ทำตามสัญญาหรือโปรแกรม และปัญหาคือนักท่องเที่ยวจีนไม่ได้เก็บเอกสารหรือหลักฐานไว้ เมื่อมีปัญหาความขัดแย้งก็ทำให้ยากที่จะกำกับดูแลได้ว่าใครถูกหรือผิด ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้สถานกงสุลใหญ่ฯได้รับร้องเรียนถึง 60 เรื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 100% นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวผับบาร์ที่ถนนช้างคลานและมีบริการสาวเอ็นเตอร์เทนด้วย แต่นักท่องเที่ยวจีนไม่ทราบ เมื่อเช็คบิลพบว่าค่าใช้จ่ายสูงมากและถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งกรณีนี้ทางสถานกงสุลฯก็ได้รับร้องเรียนมาโดยตลอด
“ประเด็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติผิดกฎหมาย โดยส่วนใหญ่คดีเกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายและตาก ซึ่งบริเวณพื้นที่ชายแดนจะมีองค์กรมืดหรือแก๊งที่รับเงินจากผู้ที่ลักลอบเข้ามาทางชายแดนและไม่มีตราประทับในหนังสือเดินทาง ซึ่งสถานกงสุลฯได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาตินี้ถึง 32 เรื่อง โดยนักท่องเที่ยวจะมาจากจีนเข้ามาทางชายแดนลาว พม่า ในครึ่งปีแรกมีอาชญากรรมข้ามชาติเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก”กงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ กล่าวและว่า
ชี้ขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองล่าช้าหากไม่จ่ายเงินพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีคดีอาญาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจีน การปล้นและขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ติดชายแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวกังวลและสอบถามมาตลอด เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และทางสถานกงสุลฯได้รับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับคดีอาญาในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ถึง 45 เรื่อง
ปัญหาต่อมาคือเรื่องความขัดข้องหรือล่าช้าในการผ่านแดนเข้ามาประเทศไทย ในช่วงที่เดินทางมาจำนวนมาก หรือในช่วงดึกๆ โดยเฉพาะในขั้นตอนผ่านการตรวจของตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และยังมีเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์แนะนำให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงิน เพื่อที่จะได้รวดเร็วขึ้น แต่หากรอขั้นตอนปกติโดยไม่จ่ายเงินก็จะใช้เวลานาน ซึ่งเรื่องนี้นักท่องเที่ยวจีนร้องเรียนมายังสถานกงสุลถึง 23 เรื่อง
กังวลปัญหานศ.ที่เข้ามาเรียนและพำนักระยะยาวมีปัญหาโรคซึมเศร้า
นายเหริน ยี่เซิง กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับปัญหาที่พบใหม่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนในพื้นที่ภาคเหนือและผู้ที่เข้ามาพำนักระยะยาว โดยพบว่าในส่วนของกลุ่มนักศึกษาที่เข้ามาเรียนเนื่องจากไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและบรรยากาศจึงทำให้เกิดปัญหาโรคซึมเศร้า เมื่อมีเรื่องที่กระทบกับจิตใจจึงเกิดกรณีที่นักศึกษาที่ฆ่าตัวตายถึง 2 ราย
อย่างไรก็ตามสถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ ได้เสนอขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมเรื่องการตรวจสอบระบบความปลอดภัยของรถที่ให้บริการ คนขับ ตลอดจนบริษัทรถเช่าเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเสนอว่าเมื่อมีการตั้งด่านตรวจ หากพบว่านักท่องเที่ยวเช่ารถขับเองโดยไม่มีใบขับขี่หรือไม่สวมหมวกนิรมัยก็ให้ยึดรถ ไม่ให้ขับได้อีก เพราะที่ผ่านมาเมื่อตั้งด่านและเสียค่าปรับ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถนำรถไปขับได้อีกจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ และขอให้เพิ่มป้ายแนะนำหรือคำเตือนในจุดที่เป็นจุดเสี่ยงหรืออันตราย
นอกจากนี้ยังเสนอให้เพิ่มช่องทาง One Stop Service เพื่อแก้ไขกรณีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งกระบวนการช่วยเหลือด้านกระบวนการยุติธรรมและล่ามในกรณีที่เกิดความขัดแย้งด้านการเงินและบริการ
กงสุลใหญ่จีนยันนักท่องเที่ยวจีนไม่ลด รับปัญหาหมอกควันและลดค่าหยวนทำให้เปลี่ยนแผน คาดครึ่งปีหลังจะกระเตื้องขึ้น
กงสุลใหญ่จีนฯ กล่าวต่อไปอีกว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่ได้ลดลงมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มๆ ที่เที่ยวเองโดยไม่ผ่านบริษัทนำเที่ยวและกลุ่มที่ขับรถเข้ามาเที่ยวเอง โดยกลุ่มที่ขับรถเข้ามาเที่ยวเองจะมีปัญหาซับซ้อนตรงที่ต้องมีผู้นำเที่ยวและต้องขออนุญาตเป็นกลุ่ม ซึ่งหากไทยมีช่องทาง One Stop Service ก็จะช่วยลดเวลา ขั้นตอนต่างๆ และดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาได้เพิ่มอีก
“มีหลายหน่วยงานระบุว่านักท่องเที่ยวจีนลดลง ซึ่งจริงๆ ช่วงครึ่งปีแรกนี้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาของไทยก็ประกาศว่ามีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย 5.6 ล้านคน แต่จะเห็นได้ว่าในช่วงต้นปีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยโตแบบก้าวกระโดด และในช่วงต้นปีทางพื้นที่ภาคเหนือของไทยก็ประสบปัญหาหมอกควันซึ่งเป็นปัญหาวิกฤตค่อนข้างยาวนานจึงทำให้นักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนแผนไปท่องเที่ยวประเทศอื่น ประกอบกับช่วงดังกล่าวมีปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าเงินหยวนลดลงจึงทำให้นักท่องเที่ยวจีนพิจารณาเรื่องความคุ้มค่าในการมาเที่ยว จึงทำตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนอาจจะดูลดลงไปเล็กน้อย “นายเหริน ยี่เซิง กล่าวและชี้แจงด้วยว่า
อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังมีการพิจารณาในช่วงครึ่งปีหลัง ที่จะมีการขยายเวลาวีซ่าออนของนักท่องเที่ยว ประกอบกับจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นด้วยซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯของไทยก็คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา 11.5 ล้านคน อีกทั้งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาภาคเหนือเกือบ 2 ล้านคน ส่วนปีนี้ตัวเลขอาจจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย”กงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ กล่าวและทิ้งท้ายไว้ว่า
เชื่อว่าหน่วยงานทั้งหลายของไทยจะให้ความสำคัญและจะยกระดับความปลอดภัย พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งทางสถานกงสุลฯพร้อมที่จะรับฟังคำแนะนำและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะได้ประสานความร่วมมือกันต่อไป
ตำรวจแจงตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวพร้อมพัฒนาเรื่องการสื่อสารเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
ทางด้านพล.ต.ต.ปรีชา วิมลไชยจิต ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่และการขับรถผ่านแดนกรณีเดินทางมาท่องเที่ยวเองเป็นกลุ่ม ซึ่งมีการเสนอให้เพิ่มช่องทาง One Stop Service นั้น ทางจีนจะต้องประสานกับทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อประชุมร่วมกัน สำหรับปัญหาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยวนั้น เป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชาซึ่งได้แก้ไขปัญหาโดยใช้แอพพลิเคชั่นแปลภาษา เพื่อทำให้การช่วยเหลือสะดวกมากขึ้น ในกรณีไม่มีล่ามแปลให้ สำหรับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ทางสำนักงานตำรวจภาค 5และหน่วยข่าวกรองจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันตลอด
ขณะที่พ.ต.อ.อดุลย์ ศรีจันทร์ต๊ะ ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายในการให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นต้องรายงานตามลำดับชั้นและรวบรวมสถิติที่เกิดขึ้น โดยสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ได้ตั้งศูนย์ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที แต่ปัญหาหลักที่พบคือข้อมูลที่สถานกงสุลจีนได้รับกับของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ตรงกัน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทางนักท่องเที่ยวให้ข้อมูลกับทางสถานกงสุลมากกว่า ดังนั้นจึงเสนอขอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเดือนต่อเดือน
สำหรับปัญหาเกี่ยวกับการจราจรและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจีนนั้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ติดอันดับเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุดในโลก ซึ่งเรื่องนี้ก็กำลังพยายามแก้ไขและการบังคับใช้กฎหมายก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ดำเนินการเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา ส่วนที่สถานกงสุลฯแนะนำให้ตรวจยึดรถไว้กรณีที่พบนักท่องเที่ยวขับขี่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกฎหมายไม่สามารถกระทำได้ และอาจจะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเมื่อชำระใบสั่งแล้วก็ต้องปล่อย ส่วนเรื่องข้อเสนอที่ให้ควบคุมการให้บริการรถเช่านั้น ได้มีการเสนอขอปรับปรุงระเบียบกฎหมายแล้วแต่ยังไม่ผ่านสนช. อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการรถเช่ามีการรวมกลุ่มและจัดทำมาตรฐานความปลอดภัยและมีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการเฉพาะก็จะแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง
“ในส่วนของคดีอาชญากรรมบริเวณชายแดนนั้น เนื่องจากจะขาดแคลนล่ามแปลภาษาก็จะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร อย่างไรก็ตามปัจจุบันก็แก้ปัญหาโดยการใช้วิดีโอคอนเฟอเร้น พูดคุยผ่านล่าม แต่ที่ยังมีปัญหาคือล่ามภาษาจีนที่รู้กฎหมายยังมีน้อย จึงทำให้มีปัญหาเรื่องการสื่อสารอยู่ แม้ว่าตำรวจภูธรภาค 5 จะส่งเจ้าหน้าที่ไปเรียนภาษาที่จีนหลายรายแต่กลับมาก็ยังใช้งานได้ไม่คล่องเท่าเจ้าของภาษา ซึ่งอนาคตก็จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปเรียนเพิ่มเติมด้วย”ผู้แทนผบช.ภ.5 กล่าว
ตม.สนามบินยอมรับเคยมีจนท.เรียกรับผลประโยชน์แลกความรวดเร็วปัจจุบันได้ย้ายออกนอกหน่วยแล้ว
ส่วนทางด้านพ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ตะมะพุฒ รองผกก.ด่านตม.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเชียงใหม่ 1,070,000 กว่าคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 1
5 แต่มีผู้ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีจำนวน 5 ราย และในครึ่งปีนี้ได้จับกุมผู้หลบหนีลักลอบเข้าเมืองจำนวน 7 รายซึ่งช่องทางการหลบหนีเข้าเมืองยังเป็นการหลบหนีเข้ามาในช่องทางด่านเชียงแสน จ.เชียงรายและด่านแม่สอด จ.ตาก โดยในส่วนของผู้หลบหนีเข้าเมืองทางเชียงแสนนั้นจะนั่งเรือหางยาวมาตามแม่น้ำโขงเมื่อตรวจสอบในระบบพบว่าไม่มีเอกสารข้อมูลคนเข้าเมืองอย่างถูกต้องจึงได้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับกรณีที่นักท่องเที่ยวได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการของเจ้าหน้าที่บริเวณด่านตม.ท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น ปัจจุบันตรวจคนเข้าเมืองได้ผู้กำกับการคนใหม่และได้ให้นโยบายชัดเจนห้ามเรียกรับผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีเจ้าหน้าที่บางรายที่มีพฤติกรรม ได้เสนอย้ายออกนอกหน่วยและย้ายไปทำงานที่อื่นแล้ว ทั้งนี้ได้ให้ความสำคัญเรื่องการให้บริการกับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่และติดตั้งอุปกรณ์แนะนำประชาสัมพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวจัดเตรียมเอกสารและตรวจสอบความพร้อมก่อนที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตม.เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขณะนี้ปัญหาเรื่องความล่าช้าในการตรวจคนเข้าเมืองไม่มีแล้ว
รองผกก.ตม.5 เสนอซื้อประกันเพิ่มความคุ้มครองในประเทศไทยด้วยในกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก่อนยื่นขอต่ออายุวีซ่า
ขณะที่พ.ต.ท.ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รอง ผกก.ตม.5 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า ในกรณีปัญหาของกลุ่มที่มาพำนักระยะยาวหรือกลุ่มนักศึกษาชาวจีนที่เข้ามาเรียนในพื้นที่ภาคเหนือนั้น ในการยื่นเอกสารขออยู่ในพื้นที่ต่อ ไม่มีเอกสารเกี่ยวกับการประเมินสุขภาพจิต ดังนั้นกรณีที่นักศึกษาหรือผู้พำนักระยะยาวมีปัญหาโรคซึมเศร้าจึงไม่ทราบได้ ในส่วนนี้ทางสถานกงสุลจีนจะต้องนำเสนอต่อเป็นปัญหาระดับประเทศ เพื่อจะได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
“ในส่วนของข้อเสนอทางหนึ่งคือต้องให้ผู้ที่จะเข้ามาพำนักระยะยาวหรือมาเรียนหนังสือ หรือมาท่องเที่ยวมีการซื้อประกันเพิ่มความคุ้มครองในประเทศไทยด้วยในกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และในการยื่นขอวีซ่าต้องกำหนดให้นักท่องเที่ยวหรือนักศึกษาแสดงแผนประกันสุขภาพหรือประกันอุบัติเหตุร่วมกับการยื่นขอต่ออายุวีซ่าด้วย แต่ทั้งนี้อาจจะมีการงดเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นการจูงใจให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของประเทศไทยมีการงดเก็บค่าธรรมเนียมแล้ว”รอง ผกก.ตม.5 กล่าวและว่า
สำหรับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ทางตม.ก็มีแนวทางปฏิบัติบังคับใช้ ซึ่งหากสถานกงสุลมีกรณีเร่งด่วนก็สามารถประสานได้ทุกเวลา ซึ่งสำนักงานตม.มีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่สามารถตรวจสอบการเข้า-ออก อัตลักษณ์ ลายนิ้วมือ รูปใบหน้าและหนังสือเดินทาง ถ้าหากมีการแจ้งหนังสือเดินทางสูญหายก็สามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานตม.ทุกจังหวัด ก็จะสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าบุคคลที่อ้างเข้ามาถูกต้องหรือลักลอบเข้าเมืองมา ก่อนที่สถานกงสุลจะพิจารณาออกหนังสือชั่วคราวให้
นอกจากนี้ในอีกระบบของตม.กำหนดให้ผู้ที่มาพำนักอาศัยในประเทศ กรอกข้อมูลในระบบซึ่งเป็นประโยชน์ในการติดตามตัว อย่างกรณีการไหลเวียนของนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วซึ่งให้แจ้งภายใน 24 ชั่วโมง แต่ที่เป็นปัญหาคือกลุ่มคนที่มาพักอาศัยกับญาติหรือในลักษณะเช่าส่วนบุคคลจะไม่มีข้อมูล แต่หากเป็นเช่าโรงแรมก็จะไม่มีปัญหานการตรวจสอบ
ขนส่งเผยกำลังผลักดัน Q Bus เพื่อสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในการใช้บริการ ยอมรับเชียงใหม่ไม่มีงบอุดหนุนจากรัฐบาลทำให้การบริการรถโดยสารสาธารณะไม่ครอบคลุม
นางสุภมาส ลีลารักษ์สกุล หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการนำรถส่วนบุคคลเข้า-ออกระหว่างประเทศนั้น เป็นนโยบายของกรมการขนส่งทางบกซึ่งปัจจุบันกำลังปรับปรุงกฎระเบียบ อย่างไรก็ตามหากสถานกงสุลจีนต้องการให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลก็สามารถยื่นเสนอสิ่งที่ต้องการไปที่กรมการขนส่งทางบกได้เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการปรับปรุงกฎระเบียบอยู่
ในส่วนของรถบัสเช่าเหมา กรมการขนส่งทางบกมีกฎหมายบังคับควบคุมความเร็วอยู่ โดยรถบัสเช่าเหมาหรือรถตู้บริการจะต้องติด GPS ทุกคันและมีศูนย์ควบคุมความเร็วที่สำนักงานขนส่งทุกจังหวัด ซึ่งมีการควบคุมตามกฎหมาย สำหรับเรื่องมาตรฐานการให้บริการ ในขณะนี้กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถบัสนำเที่ยว ซึ่งเป็นรถที่มีมาตรฐานซึ่งเรียกว่า Q Bus โดยกรมฯได้ผลักดันและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการสมัครใจเข้าร่วมโครงการ หากถที่ผ่านการตรวจรับรองจะได้รับเครื่องหมาย Q Bus ซึ่งบริษัทนำเที่ยวสามารถนำไปประชาสัมพันธ์และเชิญชวนนักท่องเที่ยวใช้บริการเป็นการแสดงถึงรถที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้วย
สำหรับการให้บริการรถสาธารณะ ซึ่งมีข้อเสนอให้เพิ่มการให้บริการรถสาธารณะให้มากขึ้นนั้น หากเปรียบเทียบระหว่างกรุงเทพฯ ซึ่งมีขสมก.ที่ได้รับงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลกลาง จึงทำให้มีรถโดยสารสาธารณะครอบคลุมทุกเส้นทาง แต่สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีงบฯกลางจากรัฐบาลมาอุดหนุนจึงทำให้รถโดยสารประจำทางไม่ครอบคลุมพื้นที่และประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวก แม้ในช่วง 2 ปีมานี้เอกชนได้นำรถ RTC มาให้บริการแต่ยังไม่ครอบคลุมและในอนาคตอาจจะมีการขยายเส้นทางเพิ่มขึ้นหากได้รับการตอบรับจากผู้โดยสาร
สาธารณสุขเผยนักท่องเที่ยวจีนค้างค่ารักษาพยาบาลช่วง 3 ปีเกือบ 30 ล้านบาท
นายอิศรา นานาวิชิต ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุขนั้น เป็นเรื่องของการรักษาพยาบาลของนักท่องเที่ยวที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลแล้ว บางทีก็เก็บค่ารักษาพยาบาลได้ แต่บางทีก็เก็บไม่ได้ จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ตั้งแต่ปี 2558 มีค่ารักษาพยาบาลที่ค้างจ่ายถึง 19 ล้านบาทเศษ โดยได้รับการชำระแล้วเพียง 6 ล้านบาท ซึ่งปัญหาเกิดจากในช่วงเข้ารับการรักษาพยาบาลนั้น เมื่อนักท่องเที่ยวออกจากโรงพยาบาลและกลับประเทศไปแล้วไม่สามารถที่จะติดต่อได้ และในปี 2559 กับปี 2560 มีค่ารักษาพยาบาลเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนค้างชำระปีละ 11 ล้านบาท ซึ่งกรณีนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขขอฝากทางสถานกงสุลจีนประจำเชียงใหม่ติดตามทวงถามให้ด้วย
ผช.นพ.สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ในกรณีของนักธุรกิจที่เข้ามาพำนักระยะยาว จะมีกฎหมายตามพ.ร.บ.สถานพยาบาลควบคุมอยู่ ถ้าหากเข้ามาเพื่อรักษาก็ต้องมายื่นขออนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ก่อน นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับด่านอาหารและยาที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รายงานมาว่าพบว่านักท่องเที่ยวได้นำยาหรือเครื่องสำอางติดตัวเข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งตามพ.ร.บ.เครื่องสำอางค์ของไทยจะมีการควบคุมและขออนุญาตก่อน ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวนำเข้ามาจะต้องยื่นขออนุญาตด้วย
ท่องเที่ยวและกีฬายืนยันการเยียวยาหรือชดใช้ค่าเสียหายจากเงินกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้ได้กับผู้เข้ามาพำนักระยะยาวหรือนักศึกษาที่เข้ามาเรียนได้
นางปาริษา ปานพรหม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามีแผนในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเรื่องเงินกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยว โดยจะมีหลักเกณฑ์ช่วยเหลืออยู่กรณีเสียชีวิต แต่สำหรับกรณีที่นักศึกษาหรือผู้มาพำนักระยะยาวหากเกิดอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตจะไม่เข้าอยู่ในเกณฑ์ช่วยเหลือ ทั้งนี้กรณีที่รถบัสนำเที่ยวประสบอุบัติเหตุนั้น ทางกระทรวงฯได้เข้าไปประสานช่วยเหลือ โดยเฉพาะการคืนเงินส่วนที่เหลือคืนให้กลับนักท่องเที่ยวซึ่งก็ได้รับหนังสือขอบคุณจากนักท่องเที่ยวด้วย
สำหรับข้อเสนอให้มีการเพิ่มช่องทาง One Stop Service ซึ่งกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้ทำงานร่วมกับสถานกงสลสหรัฐอเมริกาและอังกฤษที่จะทำคู่มือให้กับนักท่องเที่ยว โดยจะมีการประชุมร่วมกันอีกรอบหนึ่งซึ่งครั้งต่อไปจะเชิญทางสถานกงสุลจีนเข้าร่วมด้วย และหากการดำเนินงานสำเร็จทางกระทรวงฯจะขายไปส่วนอื่นๆ ด้วย เพราะทางรัฐบาลและกระทรวงฯเองก็มีนโยบายให้เน้นหนักในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก และถ้าจะทำให้นโยบายนำไปสู่การปฏิบัติได้ ก็ขอให้ทางสถานกงสุลนำปัญหาที่พบเสนอต่อรัฐบาลและกระทรวงท่องเที่ยวด้วย หากนำเสนอผ่านระดับจังหวัดเกรงว่าจะล่าช้าละการลำดับความสำคัญอาจจะน้อยลง
ศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่แจงปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยกับนักท่องเที่ยวจีนทั้งไม่สำแดงสิ่งของก่อนยื่นขอคืนภาษี นำบุหรี่-เหล้าเข้ามาเกินกำหนดและนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าเกินกม.กำหนด
ทางด้านนายเริงศักดิ์ อินทรบ้าน หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของพิธีการศุลกากรไทยและจีนแทบไม่แตกต่างกัน แต่ปัญหาที่พบที่ขาเข้าต่างประเทศที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนยังไม่เข้าใจข้อกฎหมายของศุลกากรไทย ประเด็นหลักคือเรื่องการขอคืนภาษีหรือ VAT REFUN ขณะนี้ศุลกากรได้ทำป้ายประชาสัมพันธ์ชี้แจงเป็นภาษาจีนเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจด้วย โดยเฉพาะการที่จะขอคืนภาษีจะต้องนำสิ่งของมาสำแดงด้วย แต่ปัญหาที่พบคือนักท่องเที่ยวมายื่นขอคืนภาษีแต่ได้นำสิ่งของโหลดขึ้นเครื่องไปแล้ว จึงทำให้ไม่สามารถคืนให้ได้
อีกปัญหาที่พบคือการนำบุหรี่และเหล้าเข้าประเทศ ซึ่งไทยกำหนดให้นำบุหรี่และสุราต่างประเทศเข้ามา 1 คอตตอนกับไม่เกิน 1 ลิตร แต่ที่พบคือนักท่องเที่ยวจะนำเข้ามาเกิน นอกจากนี้ตามกฎหมายศุลกากรไทยให้นักท่องเที่ยวนำเข้าสินค้าได้มูลค่าไม่เกิน 2 หมื่นบาท แต่ก็พบว่าบางรายมีการนำสินค้าเข้ามาสูงถึง 1 แสนบาท ทั้งนี้ในส่วนที่ตรวจพบและเกินทางเจ้าหน้าที่จึงต้องให้ชำระภาษีอากรที่เกิน ทำให้เกิดปัญหาบางครั้งนักท่องเที่ยวก็ไม่เข้าใจ และทางศุลกากรขอความร่วมมือทางสถานกงสุลฯประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวจีนได้ทราบ เพื่อจะได้ช่วยลดขั้นตอนค่าเสียเวลาและค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้วย
ปัญหาประเด็นต่อมาคือการนำเข้าสินค้าทางไปรษณีย์ ซึ่งอาจจะเป็นการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ แต่เมื่อำเข้ามาทางคลังสินค้าจะต้องมีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทถึงจะได้รับการยกเว้นภาษีอากร แต่ถ้าหากมีมูลค่าเกิน 1,500 บาทแต่ไม่เกิน 4 หมื่นบาทจะต้องชำระภาษีอากรตามประเภทของสินค้า แต่ถ้าหากมีมูลค่าเกิน 4 หมื่นบาทจะต้องมีใบอนุญาตขนส่งสินค้าประกอบด้วย ทั้งนี้ทางศุลกากรตรวจพบว่านักท่องเที่ยวจีนได้นำเข้าอาหารและยา เครื่องปรุงอาหารและสมุนไพร ที่ไม่มีใบอนุญาต ทั้งนี้จะต้องผ่านการตรวจขององค์การอาหารและยาหรืออย.ก่อน และเมื่อผ่านขั้นตอนตรวจสอบของอย.แล้วถึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการชำระภาษี ซึ่งอาหารและยาฐานภาษีจะสูงประมาณร้อยละ 30 จึงฝากสถานกงสุลฯประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวจีนได้ทราบว่าหากนำเข้ามาจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย และถ้าหากไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกยึดสินค้านั้นไว้ .