โควิดพ่นพิษสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือหด สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน)คาดครึ่งปีหลังแนวโน้มสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ชี้สหรัฐฯเป็นตลาดมาแรง พร้อมทำแคมเปญร่วมอะโกด้าและทีเส็ปชูมาเชียงใหม่ทีเดียวทั้งเที่ยวและประชุม ขณะที่นายกสมาคมโรงแรมไทยเผยไตรมาส 3 ปีหน้าจีนเริ่มเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ที่โรงแรมมิเลีย เชียงใหม่ นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมสามัญครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 ของสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน) โดยมีนายภูณัช ธนาเหล่าพานิช นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือเป็นผู้กล่าวรายงานว่าเดิมสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน)มีสมาชิกกว่า 300 ราย แต่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบันเหลือสมาชิกเพียง 64 รายเท่านั้น
นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนได้มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา รวมทั้งเร่งฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา โดยปัจจุบันสถานการณ์โควิดฯมีแนวโน้มดีขึ้นมาก ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่เองถือเป็นจังหวัดหนึ่งมีการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงมากเฉลี่ยวันละ 2 รายรวมทั้งอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง และรัฐบาลได้มีนโยบายผ่อนปรนให้เปิดสถานบริการและประเทศจะเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบด้วยก็คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับฟื้นคืนมาโดยเร็ว
ทางด้านนางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย ได้กล่าวบรรยายพิเศษถึงนโยบายของสมาคมโรงแรมไทยว่า สถานการณ์โดยรวมในภาคเหนือปี 2020 มีโรงแรมถึง 5,181 แห่ง จำนวนห้องพัก 215,155 ห้องที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในปี 2022 พบว่าตัวเลขลดลงเหลือเพียง 3,617 แห่ง 144,539 ห้องซึ่งลดลงถึงร้อยละ 32 ขณะที่ตัวเลขโรงแรมที่จดทะเบียนกับกรมการปกครองถูกต้องทั่วประเทศเมื่อปี 2020 มีจำนวน 15,282 แห่งมีห้องพัก 783,855 ห้อง ปี 2022 ลดลงเหลือ 15,072 แห่ง และห้องพักลดลงเหลือ 613,147 ห้อง
สำหรับภาคเหนือมีโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้ 84 โรงแรม จากจำนวนสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทยที่มี 1,034 โรงแรม โดย 30-40% เป็นโรงแรมเชน ทั้งนี้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 6 แสนคน และตลอดช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้น่าจะอยู่ที่ 6-7 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเชียงใหม่ยังน้อยมากเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมามีอัตราเข้าพักร้อยละ 26 .3 อย่างไรก็ตามโรงแรมที่เปิดให้บริการมีการจ้างงานแล้วร้อยละ 68 แต่ทั้งนี้ก็ยังพบว่าประสบปัญหาแรงงานขาดทักษะและจำนวนลูกค้าไม่มากพอครอบคลุมค่าใช้จ่าย
“อย่างไรก็ตามจากการประชุมที่ภูเก็ตที่ผ่านมาได้รับทราบข้อมูลจากนักวิชาการว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาท่องเที่ยวนอกประเทศอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2023 ซึ่งปลายปีจะมีการเลือกตั้งและคาดว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะอนุญาตให้คนจีนออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศได้ในช่วงตรุษจีน ประกอบกับจีนได้ผลิตวัคซีนที่ต้านโควิดสายพันธุ์โอมิครอนได้และคาดจะนำวัคซีนนี้เปิดตัวช่วงพ.ย.ซึ่งก็จะทำให้ลดอัตราการติดเชื้อได้ ซึ่งก็ถือเป็นข่าวที่ดีสำหรับประเทศไทยด้วย”นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าว
ขณะที่น.ส.นันทนิตย์ เสสะเวช รองนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน) กล่าวถึงเป้าหมายของสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน)ว่าจะทำการตลาดร่วมกับทีเส็ปโดยมุ่งเน้นดึงนักท่องเที่ยวมาในรูปแบบเที่ยวเชียงใหม่ได้ครบทั้งเที่ยวและทั้งประชุม นอกจากนี้ยังจะทำแคมเปญร่วมกับอะโกด้าเพื่อเพิ่มยอดขายห้องพักให้มากขึ้นรวมทั้งร่วมกับสายการบินที่มีเที่ยวบินๆ ตรงมาเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังจะดึง Local Agent มาบิสซิเนทแมชชิ่งด้วย อีกทั้งก็ยังจะมีการรีสกิลและอัพสกิลให้กับพนักงานโรงแรมให้มีเซอร์วิสมายด์
รองนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน) กล่าวอีกว่า แม้ว่าเชียงใหม่จะสูญนักท่องเที่ยวจีนที่เคยมาเป็นอันดับ 1 แต่อย่างไรก็ตามในตลาดอื่นๆ ก็มีความสำคัญอย่างเช่น สแกนดิเนเวีย ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเชียงใหม่จะเน้นขายเรื่อง Wellness และเราจะโปรโมทให้นักท่องเที่ยวมองเชียงใหม่ผ่านประวัติศาสตร์ ทั้งในด้านอาหาร เน้นในเรื่องของดนตรี อินดิ มิวเซียม ซึ่งแม้ขณะนี้ยอดจองห้องพักจะอยู่ที่20% แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะขณะนี้ตลาดที่มาแรงคือสหรัฐฯซึ่งตอนนี้เริ่มมียืนยันการจองในเรื่องไมซ์กรุ๊ปตั้งแต่ต้นปีหน้า ซึ่งต้องยอมรับว่าเชียงใหม่ยังมีปัญหาเรื่องเที่ยวบินตรงที่ยังมีน้อยตอนนี้มีเพียงมาเลเซียและสิงค์โปรและมิ.ย.นี้จะมีบินตรงจากเกาหลี และหากมีเที่ยวบินตรงเข้ามามากขึ้นโอกาสที่การท่องเที่ยวจะขยับดีขึ้นก็มีมากตามด้วย.