หมอกควันปกคลุมเชียงใหม่อีกครั้ง ผู้ว่าฯเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือฝุ่นควันที่จะลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดข้างเคียง ย้ำให้ดูแลสุขภาพในช่วงสภาวะหมอกควัน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักเป็นเวลานานๆ กำชับทุกอำเภอดำเนินการตามความเหมาะสมของพื้นที่
วันนี้ (11 เม.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีพายุฤดูร้อนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือดีขึ้น แต่ล่าสุดเช้าวันนี้ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 ณ เวลา 09.00 น. เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ที่สถานีวัดตำบลช้างเผือกอยู่ที่ 89 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงสุดอยู่ที่อำเภอแม่แจ่ม 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 วัดที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อยู่ที่ 152 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร บรรยากาศภายในตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงเช้าถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพจากระยะไกลได้ตามปกติ
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำชับให้ทุกอำเภอดำเนินการตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ทั้งการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทราบสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่และให้คำแนะนำ วิธีปฏิบัติตนในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง พร้อมกับการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมและปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชน ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันโดยไม่เพิ่มปริมาณหมอกควันในอากาศ เช่น ห้ามเผาขยะ เศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือเผาเศษวัสดุทางการเกษตร และสนับสนุนการนำเศษวัสดุทางการเกษตรไปแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ เช่น การทำปุ๋ยหมัก การผลิตพลังงานทดแทน
ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นแอ่งกระทะ ทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถลอยตัวขึ้นไปได้ ขณะเดียวกัน พบกลุ่มควันไฟขนาดใหญ่ได้ลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดข้างเคียงทางด้านทิศตะวันตก รวมทั้งอำเภอทางโซนใต้ของเชียงใหม่เกิดจุดความร้อนสะสม (Hotspot) เพิ่มขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ขอเน้นย้ำให้ประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงสภาวะหมอกควัน โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักและเป็นเวลานานๆ หากมีความจำเป็นควรใส่หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นควันขนาดเล็กมากได้ เช่น หน้ากากชนิด N95 หรือ FFP2 ส่วนหน้ากากอนามัยธรรมดาไม่สามารถป้องกันฝุ่นละเอียดเข้าสู่ร่างกายได้ ตลอดจน ควรปิดประตูหน้าต่างบ้านหรืออาคารให้สนิท ไม่ให้อากาศที่มีควันพิษภายนอกเข้าภายในบ้าน หรือใช้เครื่องฟอกอากาศชนิดมีแผ่นกรอง HEPA ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดห้อง
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกับดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดปัญหาหมอกควันและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเกิดสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันรุนแรงให้รายงานให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ทราบทันที โดยกำชับให้แต่ละอำเภอใช้กลไกประชารัฐในการบูรณาการ การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน และให้ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ซึ่งยังอยู่ในช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด ภายใต้ชื่อ “51 วันไม่เผา เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน” ระหว่าง 1 มีนาคม – 20 เมษายนนี้.