หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 พร้อมมอบวุฒิบัตรให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC รุ่นที่ 9 “จุลนิตย์”เผยมีการปรับเปลี่ยนโลโก้และแก้ไขข้อบังคับให้ทันสมัย พร้อมปรับโครงสร้างการบริหารงานของหอการค้าฯทั้งระบบให้สอดคล้องกับขีดความสามารถของบุคลากรแต่ละด้านเพื่อให้ องค์กรเข้มแข็งทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สร้างหอการค้าฯให้เป็นองค์กรตัวอย่างที่ดี
เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 เวลา 13.00 – 17.00 น. ที่ห้องลานนาบอลรูม 2 และ 3 โรงแรม แชงกรี-ล่า เชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญสมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2565 และพิธีมอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรมนักธุรกิจรุ่นใหม่ : YEC รุ่นที่ 9 โดยมีนายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานกล่าวเปิดประชุมและกล่าวขอบคุณที่ปรึกษา กรรมการและสมาชิกที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานในระยะเวลาที่ผ่านมา จากนั้นเป็นการประชุมพิจารณารายงานกิจกรรมหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่/YEC ประจำปี 2564 การพิจารณารับรองงบดุลประจำปี 64 แต่งตั้งผู้สอบบัญชีหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ปี 2565 แก้ไขข้อบังคับหอการค้าฯและโครงการและกิจกรรมสืบเนื่องของหอการค้าฯประจำปี 2565-2566
นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมฯว่า การประชุมใหญ่สามัญสมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ประจำปี 2565 ครั้งนี้ก็เพื่อให้การบริหารหอการค้าฯเป็นไปโดยต่อเนื่อง ตรงตามวัตถุประสงค์ในอันที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของสมาชิกและเพื่อให้เป็นองค์กรภาคเอกชนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดและของประเทศโดยส่วนรวมต่อไป
ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ในครั้งนี้มีการพิจารณาปรับปรุงเกี่ยวกับโลโก้ของหอการค้าฯซึ่งโลโก้เดิมใช้มายาวนานมากและคณะกรรมการหอการค้าฯ สมัยที่ 23 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่มีความเห็นว่าควรที่จะมีการปรับปรุงเพื่อให้ทันสมัย รวมทั้งปรับปรุงระเบียบข้อบังคับเพื่อให้กระชับมากยิ่งขึ้นด้วย
“ตอนนี้ในส่วนของภาคเศรษฐกิจเองก็ถือว่ามีข่าวดีที่ภาครัฐได้ปลดล๊อคเรื่องโรคโควิด19 ที่จะให้เป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้มากขึ้นเพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมาที่มีการระบาดและควบคุมโรคทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไม่ได้ ประกอบกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีผลกระทบทางด้านราคาพลังงาน ปุ๋ยเคมีและต้นทุนอื่นๆ ตามมาอีกซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคเอกชนต้องปรับตัวมาก”นายจุลนิตย์ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
หอการค้าฯมองว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบเดิมๆ คงยากจึงผลักดันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านเครือข่ายเเละเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน มีการปรับโครงสร้างการบริหารงานของหอการค้าฯทั้งระบบให้สอดคล้องกับขีดความสามารถของบุคลากรแต่ละด้านเพื่อให้ องค์กรเข้มแข็งทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สร้างหอการค้าฯให้เป็นองค์กรตัวอย่างที่ดี ส่งเสริมและการพัฒนาสร้างโอกาสด้านเศรษฐกิจเชียงใหม่ ทั้งโครงสร้างทางกายภาพ โลจิสติกส์การค้าการลงทุน ในระดับจังหวัด ภูมิภาค และระหว่างประเทศ ในการเปิดตลาดสินค้าและบริการในพื้นที่ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ อีกทั้งมุ่งเสริมสมรรถนะธุรกิจและเมือง สู่การเป็น Innovation and Smart City การส่งเสริมผลักดันให้มีการบริการ รูปแบบการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ส่งเสริมให้มีการนำความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มาผนวกเทคโนโลยีเพื่อการสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ๆก่อให้เกิดการจ้างงาน การหมุนเวียนเกี่ยวเนื่องธุรกิจต่างๆ
“เชียงใหม่มีจุดแข็งทางด้านวัฒนธรรม ค่าครองชีพยังต่ำจึงเหมาะกับกลุ่ม Digital Nomad ถ้าสามารถผลักดันให้เป็นนโยบายจังหวัด และลดภาษีของบีโอไอได้จะเป็นสิ่งที่ดี รวมถึงการจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ที่จะมีเทศกาลสงกรานต์แบบนิวนอมอล ต้องบอกว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิดนั้นทางหอการค้าได้ร่วมกับหน่วยงานยราชการค่อนข้างเยอะในการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่ง โดยเน้นการเพิ่มทักษะในด้านต่างๆ ภายใต้การขับเคลื่อนของคนรุ่นใหม่ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งจากนี้ไปก็จะเป็นช่วงที่นำงบประมาณมาขับเคลื่อนต่อ โดยทางอบจ.เชียงใหม่เองก็มีงบประมาณสนับสนุนในกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น”ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ที่ผ่านมาภาคธุรกิจบริการและท่องเที่ยวได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ตอนนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนนั้นยังค่อนข้างยาก เพราะจีนมีนโยบายให้โควิดเป็นศูนย์จึงไม่ส่งเสริมให้คนออกท่องเที่ยวนอกประเทศ การที่ไทยจะหวังนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาคงอีกนาน หอการค้าฯจึงสนับสนุนและผลักดันเรื่องการท่องเที่ยวของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อสูงมากคนสูงอายุปัจจุบันจะเป็นผู้เกษียณเร็วขึ้น มีเงินและมีทัศนคติที่เปลี่ยนจากเดิมและเป็นกลุ่มที่ทำรายได้ให้เชียงใหม่มาก ดังนั้นแนวทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ “เวลเนส ทัวริสซึ่ม” (Wellness Tourism) ซึ่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เองก็มีสถานพักฟื้นสำหรับผู้สูงอายุด้วยจึงเป็นเรื่องที่น่าส่งเสริมมากในเชียงใหม่
นายจุลนิตย์ ยังยอมรับว่า สำหรับเศรษฐกิจปีนี้ยังถือว่ามีปัจจัยลบหลายอย่าง แม้ว่าโควิดฯจะดีขึ้นทั้งสงครามรัสเซียกับยูเครนที่ทำให้ต้นทุนต่างๆสูง และยังมีประเด็นเรื่องปรับค่าแรงขั้นต่ำอีก ซึ่งในแง่ของผู้ใช้แรงงานก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะค่าใช้จ่ายทุกวันนี้สูงขึ้น แต่ในแง่ผู้ประกอบการก็ต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งหอการค้าฯเองก็อยากจะเรียกร้องถึงรัฐบาลว่าหากมีการปรับขึ้นค่าแรงจึงก็ควรที่จะให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เช่น แรงงานที่มีทักษะ มีการพัฒนาหากต้องปรับขึ้นค่าแรงก็เห็นด้วย นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลพิจารณาต้นทุนที่ผู้ประกอบการแบกรับในการรับผิดชอบสังคมในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิดฯทั้งตรวจ ATK พนักงาน จัดหาหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอลล์ให้พนักงาน ซึ่งต้นทุนเหล่านี้ควรจะสามารถนำไปหักลดภาษีได้ด้วย.