อบจ.เชียงใหม่จัดงานวันสิ่งแวดล้อมไทย ประจำปี 2566 บูรณาการร่วมกับ องค์กรภาคีเครือข่ายและภาคเอกชนได้จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ภายใต้แนวคิด“เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด”
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 ที่ลานกิจกรรม ชั้น 3 โซนลิฟต์แก้ว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต นายนาวิน สินธุสอาด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” ประจำปี 2566 ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นโดยปีนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัด เชียงใหม่ได้จัดโครงการวันสิ่งแวดล้อม ประจำปี ๒๕๖๖ เนื่องในวันที่ ๔ ธันวาคม เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย และวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมู่บ้านแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๖ โดยมีแนวคิดการจัดงานของปีนี้ คือ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด”
รองนายกอบจ. เชียงใหม่กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศตามมติของการประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ให้ทุกวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันสิ่งแวดล้อมไทย” องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน่วยงานรับผิดชอบด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมโดยได้บูรณาการร่วมกับ องค์กรภาคีเครือข่ายและภาคเอกชนได้จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ภายใต้โครงการ “วันสิ่งแวดล้อมไทย ประจำปี 2566″
โดยกิจกรรมภายในงานวันสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2566 ประกอบไปด้วย 1. บูธนิทรรศการสร้างองค์ความรู้ตลอดจนนวัตกรรมเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไทยจากหน่วยงานองค์ภาครัฐและภาคเอกชนภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่ เครือข่าย เขียว สวย หอม ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ และหน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มช.
2. กิจกรรมสร้างสรรค์ผลงาน Work Shop DIY “ต้นไม้ในมือเรา” และ “กระเป๋าผ้ารักษ์โลก”
3. กิจกรรม “Music for the Earth” ของกลุ่มเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่
4. กิจกรรมการประกวดทูตสิ่งแวดล้อม “เยาวชนไทย หัวใจสีเขียว”
5. กิจกรรมทางเลือกของกลุ่มเยาวชนนักเรียนนักศึกษา
6. กิจกรรมการประกวดแต่งกาย Cosplay เพื่อสิ่งแวดล้อม นำเสนอแนวคิดอย่างสร้างสรรค์
7. กิจกรรมความสนุกสนาน เล่มเกมส์แจกของรางวัลอีกมากมาย
นายนาวิน กล่าวต่อไปอีกว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สภาพอากาศโลกเพิ่งทำลายสถิติสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ นับตั้งแต่ 170 ปีก่อน สภาพอากาศร้อนจัดสุดขั้วเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และรุนแรงขึ้น เรื่อยๆ และอากาศหนาวเย็นได้จางหายไปมากกว่า 90% ของพื้นผิวโลก ซึ่งจากที่เรา เคยคาดว่าคลื่นความร้อนจะสูงขึ้นในทุกๆ 50 ปี แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นในทุกๆ 10 ปี และหากโลกร้อนเพิ่มขึ้นถึงจุด 1.5 องศา คลื่นความร้อนก็จะสูงขึ้นในทุกๆ 5 ปี ซึ่งปรากฏการณ์แปรปรวนด้านอากาศเริ่มมีให้เห็นแล้วในหลายเดือนที่ผ่านมา คลื่น ความร้อนทำให้จังหวัดเชียงใหม่เราอยู่ในภาวะไฟป่าฝุ่นควันและค่า PM2.5 เกิน มาตราฐานติดกันอยู่หลายเดือน และยาวนานที่สุดตั้งแต่เกิดภาวะฝุ่นควันมา
“เรากำลัง เข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า “สภาพภูมิอากาศสุดขั้ว” แล้ว ซึ่งจะเกิดหตุการณ์ต่างๆมากมาย อันเป็นผลจากภาวะการณ์อากาศแบบสุดขั้วนี้ อาทิเช่น พายุไต้ฝุ่นและเทอร์นาโดที่ ความรุนแรงและมีจำนวนมากขึ้นในทุกๆปี เป็นต้น ผลจากการกระทำของเราในวันนี้ ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ในชั้นบรรยากาศมีมากที่สุดในรอบห้าสิบปี ก๊าซมีเทน และไนตรัสออกไซด์ มีมากสุดในรอบ 8 ปี และอัตราการเพิ่มของก๊าซเรือนกระจกก็ เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ มากกว่าช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา”รองนายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม หากเราร่วมมือ กันทุกภาคส่วนในการสร้างความตระหนักและร่วมกันรณรงค์ให้ทุกๆปี มีความพยายาม ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด และลงได้มากจนถึงระดับที่เรียกว่า Net Zero และคงอยู่อย่างนั้นได้ตลอดไป เป็นไปได้ที่อุณหภูมิโลกอาจจะลดลงเหลือ 1.4 องศา ในช่วงสิ้นศตวรรษนี้
รองนายกอบต.เชียงใหม่ ยังกล่าวด้วยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นหน่วยงานที่ได้ตระหนักถึงการส่งเสริม สนับสนุน ให้ทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ประชาชน และภาคเอกชน ร่วมกันขับเคลื่อนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการปลูกจิตสำนึกของประชาชนเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและ ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนตนเอง มีการสร้างพื้นที่สีเขียวให้เพิ่มขึ้นทุกๆปี เพื่อลด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อน.