กรมอุตุฯ คาดประกาศเข้าสู่ฤดูฝนปลายเดือนนี้ ขอประเมินปัจจัยหนุน เตือน มิ.ย.-ก.ค.เตือนฝนทิ้งช่วงก่อนลงมือเพาะปลูกวางแผนให้ดี ชี้ปีนี้ฝนน้อยกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 5 ระบุช่วงเดือนกันยาฯอาจเจอพายุ 1-2 ลูก แต่ยังไม่แล้งหนัก ขณะที่ปริมาณน้ำกักเก็บมีเพียงพอ ห่วงปี 2567 เข้าสู่เอลนีโญช่วงปลายปี 66 อาจลากยาวถึงปลายปี 67 ส่อให้เกิดภัยแล้งรุนแรงได้
ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ถึงสถานการณ์ฤดูฝนปี 2566 ว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ภาวะเอลนีโญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับตัวเป็นกลาง โดยคาดว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนในปลายสัปดาห์นี้ (วันที่ 20 พ.ค.) หรือต้นสัปดาห์หน้า (วันที่ 22 พ.ค.) ขอดูปัจจัยที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนอีกครั้งก่อนที่จะประกาศเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งต้องดูทิศทางลมว่าลมเปลี่ยนทิศจากตะวันตกไปทิศตะวันออกหรือไม่ หรือมีการกระจายของฝนตกในทุกพื้นที่หรือไม่ หรือระยะเวลาที่ฝนตกติดต่อกัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ แต่คาดว่าจะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนได้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า
“เมื่อมีการประกาศเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่พอเข้าสู่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมจะเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งช่วงนี้จะทำให้มีฝนน้อยกว่าค่าปกติ ที่น่าเป็นห่วงก็คือ พอประกาศเข้าสู่ฤดูฝนชาวนาก็เตรียมที่จะลงมือทำนา ซึ่งเรื่องกรมอุตุฯ เองได้บูรณาการร่วมกับกรมชลประทาน มีการายงานผ่านกองอำนวยการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรให้วางแผนการเพาะปลูก การกักเก็บน้ำ การระบายน้ำเข้าสู่นาของตนเอง และต้องวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด การสำรองน้ำไว้ใช้ช่วงที่ฝนอาจทิ้งช่วง” อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวและว่า
สำหรับช่วงเดือนสิงหาคม มีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงเดือนกันยายน ตุลาคม จะมีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้น ช่วงนี้มีแนวโน้มที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเข้ามาในประเทศไทย 1- 2 ลูก เป็นการคาดการจากสถิติย้อนหลัง 30 ปี ก็จะเป็นช่วงการเติมน้ำให้กับประเทศ ต่อจากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงปลายฤดูฝนในช่วงกลางเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายปี 2566 ประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะเอลนีโญ ซึ่งยังจะมีกำลังอ่อน และสถานการณ์เอลนีโญจะยาวไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567
อธิบดีกรมอุตุฯ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ภาพรวมของฝนในปี 2566 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจะน้อยกว่าราว ร้อยละ 5 แต่ว่าปีนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นแล้ง และจากการหารือกับทางกรมชลประทานทราบว่าในเขื่อนต่างๆ ยังมีปริมาณน้ำที่กักเก็บเพียงพออยู่ ซึ่งปริมาณน้ำมีมากกว่าเมื่อปี 2559 ในปีนั้นอยู่ในสถานการณ์เอลนีโญกำลังแรง ตรงนี้ก็ต้องมีการวางแผนการใช้น้ำเพราะหากว่าปี 67 เกิดสถานการณ์เอลนีโญกำลังแรงขึ้นและเกิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ปริมาณฝนมีน้อยกว่าค่าปกติมากๆ ก็จะต้องมีการวางแผนการใช้น้ำในปีหน้าว่าจะเอาน้ำจากที่ไหนมาใช้ ส่วนสถานการณ์เอลนีโญจะรุนแรงหรือไม่นั้น ทางกรมฯ จะประเมินอีกครั้งในช่วงปลายปี 2566 ขณะนี้เพียงคาดการณ์ได้ว่า เอลนีโญอาจจะยาวไปถึงกลางปีหรือปลายปีหน้า.
