เชียงใหม่ (9 มิ.ย.58) / ทสจ.เชียงใหม่ เดินหน้านโยบายบังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา เริ่มปฏิบัติการจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทั้งดอยผ้าห่มปก-ห้วยน้ำดัง-ผาแดง พร้อมตั้งเป้าทวงคืนผืนป่า 339 แปลง 11,768 ไร่
นายปิยะพงษ์ ประพันธ์วัฒนะ ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการดำเนินแผนปฏิบัติการเพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ถูกบุกรุกปลูกยางพาราใน จ.เชียงใหม่ ตามนโยบายของ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ประกาศเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีเป้าหมายในการทวงคืนพื้นที่ป่าทั่วประเทศในปีนี้ 600,000 ไร่ เฉพาะส่วนของภาคเหนือตั้งเป้าหมายไว้ 142,000 ไร่ โดยมีพื้นที่ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติฯและกรมป่าไม้ด้วย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกที่เป็นนายทุนก่อน ส่วนราษฎรที่ยากไร้และเกษตรกร จะพยายามให้มีผลกระทบต่อการใช้ที่ดินทำกินน้อยที่สุด และใช้หลักกฎหมาย กับวิธีการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจควบคู่กันไป
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีข้อมูลพื้นที่ปลูกยางพาราโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบุกรุกในพื้นที่ป่าทั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวน 339 แปลง มีเนื้อที่ 11,768 ไร่ เป็นของนายทุนผู้มีอิทธิพล 4 แปลง เนื้อที่ 155 ไร่ และของราษฎรในพื้นที่ 335 แปลง เนื้อที่ 11,613 ไร่ จึงได้กำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา มาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ภายใต้การนำของนายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 มณฑลทหารบกที่ 33 กองทัพภาคที่ 3 ส่วนแยก 1 ตำรวจตระเวนชายแดน เทศบาลตำบลแม่อาย คณะครูและนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 โดยร่วมกันตัดฟันต้นยางพาราที่ปลูกบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ ในท้องที่บ้านปูแช่ ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จำนวน 8.63 ไร่ และดำเนินการปลูกป่าฟื้นฟูจำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 17 ไร่ ในเขตบ้านปูแช่ ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
นายปิยะพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกโดยนายทุนจำนวน 4 แปลงนั้น อยู่ในเขตของกรมป่าไม้ คือสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ซึ่งได้วางแผนปฏิบัติการไว้แล้ว โดยจะเริ่มดำเนินการประมาณเดือน ก.ค. และหลังจากที่ได้ดำเนินการในส่วนพื้นที่ป่าของดอยผ้าห่มปกไปแล้ว ในวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้ดำเนินการในพื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและอุทยานแห่งชาติผาแดงอย่างต่อเนื่อง.
