ประชุมวอร์รูมไฟป่าฯเชียงใหม่ครั้งแรก ผู้ว่าฯกำชับทำงานแบบไร้รอยต่อ ขณะที่อธิบดีปภ.ส่งKA32 มาประจำที่เชียงใหม่ตั้งแต่ก.พ. ด้านกระทรวงทรัพย์เปิดศูนย์บินลาดตระเวนไฟป่าแล้ว เช่นเดียวกับทหารพร้อมนำฮ.ร่วม อุตุฯเหนือเตือนปลายมี.ค.ทั้งอากาศและทิศทางลมคาดฝุ่นพุ่ง ทสจ.เชียงใหม่ชี้พื้นที่จำเป็นเผาเชื้อเพลิงให้ยื่นจองและขออนุญาตผ่านอำเภอและแจ้งล่วงหน้า 10 วัน
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.66 ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นpm2.5 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่พร้อมด้วยนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผวจ.เชียงใหม่เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก(pm2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่ นายนาวิน สินธุสะอาด รองนายกอบจ.เชียงใหม่,นายอรุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่,นายกริชสยาม คงสตรี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดและหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าร่วมประชุมด้วย
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการศูนย์บัญชาการฯ หลังจากที่เคยมีการประชุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปีและขอเน้นย้ำในเรื่องของพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดและอำเภอ ซึ่งสำคัญมาก ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานแบบไร้รอยต่อ และเชื่อมั่นว่าการทำงานปีที่ผ่านมาทุกฝ่ายทำเต็มที่แล้ว แต่หากมีปัญหาใดที่ยังเป็นอุปสรรคขอให้นำมาพูดคุยกัน เสนอมาเพื่อจะได้แก้ไขปัญหา และขอให้อปท.ไปดูแลเรื่องการเผาในที่โล่ง เนื่องจากมีหมู่บ้าน ชุมชนเยอะ อย่าให้เกิดอุปสรรคทั้งในเขตป่าและเขตเมือง โดยพื้นที่ใดมีแนวโน้มรุนแรงให้ชี้เป้ามายังศูนย์ฯทันที
นายนิรัตน์ กล่าวอีกว่า ให้ปภ.ไปหารือกับท้องถิ่นจังหวัดออกมาตรการการเผาในเขตชุมชน เพื่อลดการเผา ทำอย่างไรให้สามารถระบายกิ่งไม้ ใบหญ้าโดยไม่ต้องเผา นอกเหนือจากประกาศที่ออกมาต้องมีทางออกและลดเชื้อเพลิงด้วยและให้นำมารายงานในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้เมื่อวาน(10 ม.ค.)ทางกระทรวงทรัพย์ได้เปิดศูนย์การบินที่ต.ร่ำเปิงแล้ว และมีเฮลิคอปเตอร์มาประจำการเพื่อดับไฟป่าในฤดูกาลนี้ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ของปภ.ก็จะมาช่วงก.พ.ส่วนของทหารทราบว่ามีการประสานเฮลิคอปเตอร์ฝนหลวง กรมการบินเกษตร กับ MI 17 ไว้เช่นเดียวกัน
ด้านนายอรุณ ปินตา หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด(ปภ.)เชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ กล่าวว่า สำหรับการประชุมของคณะกรรมการศูนย์ฯนี้ จะบ่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากมีแนวโน้มสถานการณ์จะรุนแรงก็จะมีการประชุมทุกวัน แต่ทั้งนี้จะมีการมอนิเตอร์สถานการณ์ประจำวันของศูนย์ฯที่จัดจนท.ไว้แล้ว
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งจัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก จังหวัดเชียงใหม่เมื่อ 21 พ.ย.65 สำหรับการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ทางศุูนย์บัญชาการฯจะมอบหมายให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้ดำเนินการ
ทางด้าน ผู้แทนศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศในเดือนมี.ค.ว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปยังมีความกดอากาศสูงมวลอากาศเย็นปกคลุมภาคเหนือของไทย จึงทำให้อากาศเย็นและหนาว และหนาวจัดบนยอดดอยและมีหมอกบางพื้นที่ สำหรับเดือนมี.ค.อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น ส่วนปริมาณฝนสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย โดยช่วงก.พ.จะเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดู คาดฤดูร้อนเริ่มกลางเดือนก.พ. โดยสภาพอากาศทั่วไปความกดอากาศสูงจะเริ่มแผ่ว และอาจจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกและมีฝนฟ้า คะนองเกิดขึ้นได้
สำหรับช่วงเดือนมี.ค.ซึ่งเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว จะร้อนอบอ้าว อากาศแห้ง อาจจะมีอากาศร้อนจัดและลมใต้พัดเข้ามาและลมค่อนข้างอ่อน แต่ความกดอากาศสูงจะแผ่เข้ามาอยู่และอาจเกิดพายุฤดูร้อนและฝุ่นเกิดขึ้น โดยเกิดช่วงค่ำๆ แต่ความรุนแรงค่อนข้างเยอะและอาจเกิดความเสียหายค่อนข้างเยอะ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ในช่วงเดือนก.พ.และมี.ค.ค่าฝนมีแนวโน้มน้อยกว่าค่าปกติ แต่อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 29 ,31 และปรากฏการณ์เอลนิโญ่จะเริ่มปรากฏการณ์ขึ้น ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่ยังมีปรากฏการณ์ลานีญ่า จึงทำให้มีโอกาสค่าฝุ่นจะเพิ่มขึ้น โดยอากาศจะแห้งกว่าปีที่แล้วข้อควรระวังเดือนม.ค.และก.พ.คือคลื่นลมตะวันตก มี.ค.จะมีพายุฤดูร้อนและเกิดปัญหาฝุ่นควันขึ้นได้
ขณะที่นายกริชสยาม คงสตรี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่า จุดความร้อนของจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงว่า จากสถิติย้อนหลังจะเห็นว่าอภ.แม่แจ่มมีจุดความร้อนสูงสุด ดูจากม.ค.ปี65 เกิด 65 จุด ปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้ว 1 จุด และตั้งแต่มกราคมเป็นต้นมาพบว่าอำเภอแม่แจ่ม เวียงแหงเกิดจุดความร้อนมากสุด พื้นที่เกิดป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ ส่วนพื้นที่เกษตรและอื่นๆ ยังน้อยอยู่ ที่ผ่านมาจังหวัดได้ออกประกาศจังหวัดทั้งแต่ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ มาตรการป้องกันการจุดไฟเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตรและกำหนดเขตควบคุมไฟป่าฯ ซึ่งปีนี้เชียงใหม่ไม่มีประกาศห้ามเผาเด็ดขาดแต่ในบางพื้นที่ยังมีความจำเป็นต้องเผา แต่ขณะที่มีประกาศห้ามเผาพื้นที่ป่าฯยังสามารถบริหารจัดการเชื้อเพลิงได้อยู่ แต่ต้องจองผ่านระบบไฟดี เพื่อป้องกันความสับสน
สำหรับเป้าหมายต้องลดจุดความร้อนลง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือ 9833 จุด สำหรับปีนี้ผวจ.เชียงใหม่ได้กำหนดพื้นที่บริหารจัดการพิเศษซึ่งพื้นที่นี้มักเกิดไฟไหม้ซ้ำซากคือ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาวซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างไทยกับเมียนมา พื้นที่รอยต่ออ.แม่ออนกับสันกำแพง บริเวณเหนือเขื่อนแม่กวง อ.ดอยสะเก็ดแถวบ้านป่าสักงาม พื้นที่ต่อมาคือต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม พื้นที่อ.สะเมิง พื้นที่อ.สันทราย พื้นที่ต.บ้านปง อ.หางดงและสุดท้ายคืออ.ฮอด รอยต่ออ.ดอยเต่า
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า อาจต้องเพิ่มเติมพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวงและอุทยานศรีลานนาด้วย เนื่องจากมักเกิดไฟไหม้ซ้ำซาก ซึ่งผวจ.เชียงใหม่ได้ทำบันทึกข้อตกลงกับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน1 แล้วเพื่อบูรณาการร่วมกันครั้งแรกในเรื่องไฟป่าโดยให้จัดการไฟป่าพื้นที่รอยต่อที่เป็นจุดเกรงใจ เป็นการบริหารแบบไร้รอยต่อซึ่งพื้นที่อำเภอป่ารอยต่อประกอบด้วยอ.เวียงแหงจังหวัดเชียงใหม่กับอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่กับอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อ.สะเมิงกับอ.ปาย อ.เชียงดาวกับอ.ปาย อ.กัลยาฯกับอ.ปาย และอ.เมือง แม่ฮ่องสอน อ.แม่แจ่ม กับอ.ขุนยวม ,อ.แม่ลาน้อย อ.แม่สะเรียบและอ.ฮอดกับอ.สบเมย อ.อมก๋อยกับอ.สบเมย อ.สันกำแพงกับอ.บ้านธิ จ.ลำพูน อ.แม่ออนกับอ.บ้านธิ อ.อมก๋อยกับอ.สามเงา อ.ท่าสองยาง จังหวัดตาก อ.ดอยเต่ากับอ.ลี้ จ.ลำพูน อ.ฮอดกับอ.ลี้ อ.แม่ออนกับอ.เมืองปาน จ.ลำปาง อ.แม่ออรนกะบอ.แม่ทา จ.ลำพูน ด.ดอยสะเก็ด กับอ.เมืองปาน อ.ลี้ กับอ.เสริมงาม อ.ลี้กับอ.เถิน อ.ลี้ จ.ลำพูนกับอ.แม่พริก จ.ลำปาง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.น่านกับอ.เสริมงาม จ.ลำปางและอ.แม่ทา จ.ลำพูนกับอ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
สำหรับการบริหารเชื้อเพลิงขอให้ส่งข้อมูลให้กับศูนย์บัญชาการฯก่อนล่วงหน้า 10 วัน ขอให้สำนักจัดการไฟป่าและประชาชนรับทราบและถือปฏิบัติด้วย โดยปีนี้จะมีการทดลองเรื่องการถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยนำร่อง 10 พื้นที่ในเรื่องการบริหารเชื้อเพลิงระดับตำบล และให้แต่ละพื้นที่จัดชุดลาดตระเวนด้วย ส่วนการเผาพื้นที่จำเป็นยังสามารถทำได้โดยต้องขออนุญาตและจองการเผาผ่านระบบไฟดีที่ให้แต่ละอำเภอบริหารจัดการและอนุญาต
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีฝนตกหนักจึงทำให้สถานการณ์ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามอบจ.เชียงใหม่มีเครื่องมือ อุปกรณ์ที่จะสนับสนุนศูนย์บัญชาการไฟป่าฯ และอบจ.เชียงใหม่สนับสนุนงบฯให้กับหมู่บ้านที่อยู่ติดเขตป่าหมู่บ้านละ 2 หมื่นบาทจำนวน 610 หมู่บ้านซึ่งก็ขอให้ทางอำเภอช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ทราบว่าทางอธิบดีปภ.จะสร้างศูนย์เฮลิคอปเตอร์ถาวรที่อ.สันทราย เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ อย่างไรก็ตาม อบจ.เชียงใหม่ได้เตรียมพื้นที่จอดฮ.ชั่วคราวของปภ.ที่จะมาปฏิบัติภารกิจในช่วงไฟป่าฯไว้แล้วโดยเฮลิคอปเตอร์ของปภ.จะมาช่วงกลางเดือนก.พ.นี้
ทางด้าน ผู้แทนสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 กล่่าวว่า ทางหน่วยงานมีภารกิจแจ้งเตือนเรื่องคุณภาพอากาศซึ่งเชียงใหม่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบด้านและมีการแจ้งเตือนประชาชนได้ 7 วันล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงหมอกควันข้ามแดนด้วย และการแจ้งเตือนจะใช้เครื่องตรวจวัดมาตรฐาน แต่ที่ผ่านมาการตื่นตระหนกเพราะการแย่งชิงพื้นที่การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน โดยอาศัยเครื่องวัดขนาดเล็กแทน
อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มีการถกเถียงในประเด็นปัญหาเรื่องค่าฝุ่นฯที่เกินมาตรฐาน โดยเฉพาะหากเครื่องของกรมควบคุมมลพิษออฟไลน์หรือมีปัญหา แต่ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นเพราะจะทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลง อย่างไรก็ตามได้มีการกำชับให้ท้องถิ่นเตรียมพื้้นที่ห้องปลอดฝุ่นสำหรับผู้อ่อนไหวไว้ด้วย
ทั้งนี้ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง กล่าวว่า ได้เตรียมแผนจัดทำฝนหลวงไว้แล้วหากเกิดสถานการณ์รุนแรง และทางกองทัพภาคที่ 3 ได้ประสานขอฮ.ฝนหลวงไว้ช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าไว้แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องยอมรับว่าความชื้นลดลงมาก และยังมีพื้นที่รอการเก็บเกี่ยวด้วยจึงยังไม่สามารถบินขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวงได้
นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่). สำนักจัดการป่าไม้ กล่าวว่า ปีนี้กรมป่าไม้ ได้สนับสนุนงบประมาณให้กับเครือข่าย 55 แห่งๆ ละ 30,000 บาท โดยมีเป้าหมายชิงเก็บลดเผาจำนวน10,110 ตัน อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ อ.เชียงดาวที่ผ่านมาพบเห็นการเผาในพื้นที่เกษตรเพียงจุดเดียว แต่ปรากฏว่าฝุ่นควันเพิ่มสูงจนทำให้สภาพอากาศขมุกขมัวปกคลุมดอยหลวงเชียงดาว ตรวจจุดความร้อนในพื้นที่แล้วไม่มีการเผาในจุดอื่นอีกมีเพียงแห่งเดียว แต่กลับทำให้ฝุ่นคลุ้งไปทั้งอำเภอ จึงขอเสนอที่ประชุมพิจารณาในเรื่องการเผาพื้นที่เกษตรด้วย โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้วิธีฝังกลบหรือทำปุ๋ยหมักแทนการเผาที่ทำให้เกิดปัญหากับคุณภาพอากาศ
นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผวจ.เชียงใหม่ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมต่อจากผวจ.เชียงใหม่ ได้กำชับทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้ามาช่วยดูแลและกำกับแก้ไขปัญหานี้ เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก.