“เพื่อไทย”เชียงใหม่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 10 คนใน 11 เขตและลำพูนอีก 2 เขตเลือกตั้ง ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งส.ส. ดีเดย์ 7 สิงหาคม “ อุ๊งอิ๊งค์และเต้น “ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อขนทัพสมาชิกเปิดตัว “ครอบครัวเพื่อไทยเชียงใหม่” มั่นใจรักษาฐานเสียงไว้เหนียวแน่น
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ก.ค.65 ที่สำนักงานประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขาเชียงใหม่ ถ.ลอยเคราะห์ อ.เมืองเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยนำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 5 อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและส.ส.เชียงใหม่เขต 6 และนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่เขต 3 ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.จังหวัดเชียงใหม่และลำพูนในส่วนของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งส.ส.ที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไป
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือตอนบนไปแล้วจำนวน 31 ที่นั่ง โดยได้ทำการคัดเลือกกลั่นกรองแล้ว 30 ที่นั่งซึ่งยังมีบางส่วนที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา โดยการเลือกตั้งส.ส.ในครั้งต่อพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครลงให้ครบทั้ง 400 เขตไม่มีว่างเว้น สำหรับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเป็นภาคแรกที่จุดประกายในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ซึ่งวันนี้เป็นการเปิดตัวของจังหวัดเชียงใหม่โดยมีผู้ที่จะลงสมัครครบตามที่กกต.กำหนดแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเชียงใหม่จะมีส.ส.ได้ 11 ที่นั่ง และพรรคเพื่อไทยได้กำหนดตัวผู้ที่จะลงสมัครของเชียงใหม่แล้ว 10 ที่นั่ง อีก 1 ที่นั่งกำลังกลั่นกรองเนื่องจากมีผู้สมัครหลายคน และของจังหวัดลำพูนอีก 2 ที่นั่งคือนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูนเขต 1 และนายรังสรรค์ มณีรัตน์ ลำพูนเขต 2
“พรรคเพื่อไทยพิจารณาหลายขั้นตอน ดูทั้งการปฏิบัติตัวของผู้สมัครด้วย ซึ่งเราก็มั่นใจว่าจะไดรับการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่เพื่อสู่เป้าหมายที่ประกาศไว้ คือแลนด์สไลด์ ชนะถล่มทลาย ทุกสิ่งที่เพื่อไทยประกาศไว้จะต้องเกิดขึ้นจริง และเพื่อไทยเองไม่มีปัญหาไม่ว่าจะคำนวณสูตร 500 หรือ 100 หาร เพื่อไทยยอมรับได้แต่ก็จะต้องพิจารณาอีกครั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญ”นายสมพงษ์ กล่าว
ด้านนายวิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่เขต 4 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่มีทั้งหน้าเก่าและคนรุ่นใหม่ โดย เขต 1 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 2 นายณัฏฐ์ รัฐไผท เขต 3 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ เขต 4 นายวิทยา ทรงคำ เขต 5 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เขต 6 นายบรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ เลขานุการส่วนตัวนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เขต 7 นายนิธิกร วุฒินันไชย เขต 8 นายสุรพล เกียรติไชยากร เขต 9 น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ เขต 10 นายโกวิทย์ พิริยะอนันต์ อดีตส.อบจ.เชียงใหม่เขตอ.เมือง ซึ่งจะลงในเขตเลือกตั้งอ.เมืองและสารภี ส่วนเขต 11 ยังรอการพิจารณา
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ซึ่งกระบวนการคัดสรรผู้สมัครที่มีคนประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งมากกว่า 1 คนใน 1 เขตเลือกตั้งนั้นได้ผ่านการกลั่นกรองพอควร
“พรรคเพื่อไทยได้จัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยในหลายพื้นที่มาแล้ว และเบื้องต้นประมาณต้นเดือนสิงหาคมกำหนดไว้คร่าวๆ วันที่ 7 สิงหาคมนี้จะมีจัดครอบครัวเพื่อไทยที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งน.ส.แพทองธาร ชินวัตรหรืออุ๊งอิ๊งค์ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย บุตรสาวคนสุดท้อง ของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยพร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อและสมาชิกพรรคเพื่อไทยทั้งหมดจะมารวมตัวกันที่เชียงใหม่”รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวและว่า
พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจเต็ม 100 โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเพราะเราอยู่กันแบบครอบครัวและได้รับความเอ็นดูจากพี่น้องประชาชน และมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้จะได้รับการเลือกตั้งแบบยกจังหวัดอีกครั้ง ซึ่งวันนี้กระแสตอบรับและการแข่งขันจะรุนแรงของฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายสืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่เพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองหลักที่ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ทำพรรคให้ทันสมัยมากขึ้น มีการปรับโครงสร้างรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยผู้สมัครส.ส.ของพรรคจะเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น แต่คนเก่าก็ยังเป็นส่วนสำคัญเพื่อให้เกิดดุลยภาค จึงมีทั้งว่าที่ผู้สมัครหน้าเก่าและหน้าใหม่ โดยหน้าใหม่ก็จะเป็นทายาทที่ทำงานการเมืองกับรุ่นพ่อมาตลอด ส่วนเรื่องบัตรเลือกตั้งแม้พรรคเพื่อไทยจะต่อสู้ให้มีการเลือกตั้งแบบบัตรเดียว เบอร์เดียวแต่ก็พ่ายเสียงของรัฐสภาที่ส.ว.ซึ่งสนับสนุนให้เลือกแบบ 2 ใบ แม้จะทำให้ประชาชนสับสนแต่สำหรับเพื่อไทยไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด
ในการตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะเป็นการแข่งขันกับพันธมิตรของพรรคเพื่อไทยอย่างพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ชี้แจงว่า พรรคก้าวไกลก็ยังเป็นพันธมิตรกันอยู่และเป็นพรรคแรกที่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่การแข่งขันในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยย่อมเป็นไปตามนั้น ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือก สว่นการปรับเขตเลือกตั้งใหม่ซึ่งกกต.ก็ยังไม่ประกาศชัดเจนเกี่ยวกับแนวเขตแต่ก็มั่นใจว่าเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง เพราะผู้สมัครทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด.