เชียงใหม่ / กลุ่มแรงงานข้ามชาติในเชียงใหม่ ไม่พอใจเมียนมาใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมที่เมืองเนปิดอว์ ชูป้ายประท้วงหน้าสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา พร้อมประกาศต้านรัฐประหาร ขณะที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก รุดคุมสถานการณ์ทันที ชี้ไม่ขออนุญาตชุมนุม-ไม่คัดกรองโรค หวั่นโควิด-19 ระบาด ย้ำหากยังฝ่าฝืนเจอ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แน่นอนเมื่อเวลา 12.00-12.05 น. วันที่ 10 ก.พ.64 กลุ่มแรงงานข้ามชาติในเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 50 คน ได้เดินทางไปชุมนุมเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในเมียนมา บริเวณถนนหน้าสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จ.เชียงใหม่ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) มีการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมที่เมืองเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน และ 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นผู้หญิงอายุ 19 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่ ไม่พอใจ และต้องการแสดงออกคัดค้านการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม รวมถึงการรัฐประหารในเมียนมา จึงได้นัดกันออกมาชุมนุม ถือป้ายประท้วงหน้าสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ดังกล่าวอย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ สภ.ช้างเผือก ได้ส่งกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ และประกาศให้ยุติการชุมนุมโดยด่วน เพราะไม่ได้ขออนุญาตชุมนุมตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ไม่มีการคัดกรองโรค ทำให้หวั่นวิตกว่าอาจก่อให้เกิดการระบาดของโควิด-19 ได้ หากไม่ยุติการชุมนุมจะดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทันที ส่งผลให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติตัดสินใจยุติการชุมนุมอย่างรวดเร็ว.