5ผู้ต้องหาฝืนคำสั่ง คสช.งานประชุมไทยศึกษา ร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ พร้อมให้สอบพยานเพิ่มอีก 5 ปาก

เชียงใหม่-5 ผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ร้องขอความเป็นธรรมอัยการ หลังพนักงานสอบสวนส่งสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้อง พร้อมเตรียมนักวิชาการอีก 5 คนให้ปากคำเพิ่มเติม ยืนยันความบริสุทธิ์

ความคืบหน้าคดีที่ ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , นายชัยพงษ์ สำเนียง นักวิจัยคณะสังคมศาสตร์ มช. , นายธีรมล บัวงาม นักศึกษาปริญญาโท , นายนลธวัช มะชัย นักศึกษาปริญญาตรี และ นางภัควดี วีระภาสพงษ์ นักเขียน ผู้ต้องหาในคดี ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 เรื่องการชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ในการประชุมวิชาการไทยศึกษานานาชาติครั้งที่ 13 ระหว่าง 15-18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ล่าสุดวันนี้ ( 11 กันยายน ) ดร.ชยันต์ และผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมด้วยนายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ เพื่อยื่นขอความเป็นธรรมและขอให้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 5 คน ตามที่ได้ยื่นเสนอต่อพนักสอบสวน สถานีตำรวจภูธรช้างเผือกไปเมื่อวันที่ 1 กันยายน แต่เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนมายังอัยการ พร้อมมีความเห็นพิจารณาสั่งฟ้อง ตามมติของที่ประชุมตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม

โดย ดร.ชยันต์ พร้อมผู้ต้องหาอีก 5 คนได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ นายมนตรี นามขาน อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงเชียงใหม่ เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว พร้อมระบุว่า เบื้องต้นอัยการจะพิจารณาว่ายังมีประเด็นที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่นอกเหนือจากที่พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการไปแล้ว หากเห็นว่ามีประเด็นเพิ่มเติมก็จะสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มอีกครั้ง ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม อำนาจการสั่งคดีจะเป็นอำนาจของอธิบดีอัยการภาค 5 ส่วนการขอผลัดฟ้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.พิจารณาคดีในศาลแขวงได้ทั้งหมด 5 ผลัดๆละ 6 วัน รวม 30 วัน แม้การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จการผลัดฟ้องจะต้องขออนุญาตจากอธิบดีอัยการภาค 5 เพื่ออนุญาตเป็นกรณีไป
ทั้งนี้หากไม่สั่งฟ้องจะเสนอไปยังผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ให้ความเห็นชอบ แต่ถ้าผู้ว่าไม่เห็นแย้งก็จะต้องส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาดอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นอันยุติ

ด้านนายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า วันนี้ได้ยืนเรื่องขอความเป็นธรรมให้สอบปากคำพยานเพิ่มเติม โดยขั้นตอนตามกฎหมายเหลือเวลาอีกเพียง 2 ผลัดๆละ 6 วัน ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนยังมั่นใจในความบริสุทธิ์ และนักวิชาการที่จะมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีก 5 ปาก ล้วนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะอธิบายถ้อยคำต่างๆในแถลงการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไม่ได้ยั่วยุ หรือเป็นการชุมนุมทางการเมืองแต่อย่างใด

ส่วน ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความเห็นกรณีที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องว่า ตำรวจก็ดำเนินการตามหน้าที่ แต่เราก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีว่ามีน้ำหนักมากพอที่จะคัดค้านข้อกล่าวหาของฝ่ายที่แจ้งข้อกล่าวหา โดยจะขอเดินหน้าต่อสู้จนถึงที่สุดตามกระบวนการ ไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไร.