ม่วนชื่น ตื่นตาตื่นใจกับ“วังเวียง” เมืองแห่งธรรมชาติของ สปป.ลาว (1)

ม่วนชื่น ตื่นตาตื่นใจกับ“วังเวียง” เมืองแห่งธรรมชาติของ สปป.ลาว (1)

- in Exclusive, ท่องเที่ยว

ว่า 4 ชั่วโมง บนรถโดยสารขนาดใหญ่ ที่ออกจากนครเวียงจันทน์ (Veintiane) เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตั้งแต่เวลา 10.50 น. มุ่งหน้าไปยังวังเวียง (Vang Vieng) เมืองท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่ได้รับฉายา”กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว” อยู่ห่างจากนครหลวงเพียง 154 กิโลเมตร หากด้วยถนนที่ค่อนข้างแคบ เส้นทางคดโค้ง สลับด้วยลูกรังเป็นบางช่วง จึงทำเวลาไม่ได้ สังเกตนักท่องเที่ยวบนรถบัส มีคนไทยไม่ถึง 20% ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก และหนุ่มสาวเกาหลี ที่แบกเป้มุ่งหาความท้าทายจากธรรมชาติ  เสียงพูดคุยที่ดังจอแจในช่วงแรกแผ่วลงเรื่อยๆ จนเงียบสงัด แอร์เย็นฉ่ำในรถท่ามกลางอากาศภายนอกที่ร้อนระอุ ทำให้หนังตาของผู้โดยสารค่อยๆ ปิดลง ส่วนใหญ่ตั้งใจงีบเอาแรงไว้ตะลุยเที่ยวยามเย็น กระทั่งในที่สุดก็ถึงจุดหมาย เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มนักท่องเที่ยวกรูลงจากรถอย่างรวดเร็ว บางกลุ่มรีบแบกเป้เข้าที่พัก ซึ่งแม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีที่พักจำนวนมาก แต่ถ้าไม่จับจองไว้ล่วงหน้า ก็ค่อนข้างหายาก เนื่องจากเป็นช่วงหลังตรุษจีน โรงแรมหลายแห่งถูกทัวร์จีนเข้ามาเหมาห้องไว้แล้ว  นักท่องเที่ยวหลายคนตัดสินใจแวะรับประทานอาหารกลางวันก่อนในช่วงบ่ายคล้อย  ด้วยไม่ได้พกเสบียงติดตัว จึงต้องหิ้วท้องไว้รอจนถึงปลายทาง เพราะรถหยุดจอดกลางทางให้เข้าห้องน้ำไม่ถึง 10 นาที เพียงครั้งเดียว บางกลุ่มก็หยุดดูโปรแกรมท่องเที่ยว ที่มีบริษัททัวร์เปิดเรียงรายทุกถนน ไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ร้าน รูปแบบมีตั้งแต่เที่ยววันเดียว จนถึงหลายวัน หลังจากเข้าที่พัก รอจนแดดร่มลมตก กลุ่มนักท่องเที่ยวก็ออกมาเดินขวักไขว่บนท้องถนน หนุ่มผมทองช่วยอุดหนุนแม่ค้าแซนวิช และเบอร์เกอร์ ที่ตั้งแถวขายเรียงรายข้างทาง มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ  เดินลึกเข้าไปตามถนนแคบๆ จนไปถึงสะพานข้าม“แม่น้ำซอง”  หลายคนสมัครใจนั่งในแพเล็กๆ ของร้านค้า ที่แยกเป็นสัดส่วน และลอยตัวอยู่เหนือน้ำ นั่งรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ลาบ ส้มตำ หรือแม้แต่อาหารตามสั่ง แกล้มเบียร์ลาว รสชาตินุ่มละมุน หรือน้ำผลไม้เย็นเฉียบ มองกลุ่มนักท่องเที่ยวพายเรือคายัค หรือนั่งเรือเร็วผ่านกลางแม่น้ำอย่างสนุกสนาน  บางกลุ่มเช่าจักรยานจูงผ่านสะพานไม้แคบๆ แวะดื่มด่ำกับทิวทัศน์ยามเย็นของแม่น้ำซอง ขณะที่บอลลูนยักษ์ 2 ลูก พานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสูง ลอยเอื่อยอยู่บนฟากฟ้า ชื่นชมกับทัศนียภาพของเมืองในยามเย็น ระหว่างที่ลอยมาใกล้สะพานข้ามแม่น้ำซอง ผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างโบกมือ พร้อมส่งเสียงทักทายอื้ออึง บ้างก็ถือโอกาสเซลฟี่ โดยมีบอลลูนลูกใหญ่เป็นฉากหลัง คล้อยหลังบอลลูนเพียงครู่เดียว ทั้งเรือเร็ว และเรือคายัค ที่ยังวนเวียนอยู่รอบๆ แพนักท่องเที่ยว ท่ามกลางแสงโพล้เพล้ยามเย็น ก็ทำให้บรรยากาศใต้สะพานลำน้ำซอง กลายเป็นสวรรค์บนดินที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อม เสียงโหวกเหวกของเด็กๆ ที่กระโดดน้ำลอยคอ บ่งบอกถึงความหนาวเย็นที่มาเยือน พวกเขารีบขึ้นมาจากน้ำ แล้วปรี่เข้าไปใกล้เตาปิ้งย่างของแม่ค้า เพื่อหาความอบอุ่นจากถ่านไฟ ใกล้สนธยา นักท่องเที่ยวที่ออกไปเที่ยวถ้ำ หรือแหล่งธรรมชาติอื่น รีบปั่นจักรยานกลับก่อนที่ตะวันจะลาลับเหลี่ยมเขา ร้านอาหารใกล้แม่น้ำซอง มีนักท่องเที่ยวตะวันตกเข้ามาใช้บริการอย่างคึกคัก มนต์เสน่ห์ของรัตติกาลดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสัมผัสไม่ขาดสาย แต่ที่น่าฉงน คือหนุ่มสาวเกาหลี ที่เดินทางร่วมบัสคันเดียวกัน กับทัวร์จีน หายไปไหนหมด และความประหลาดใจนี้เองที่ดึงฉันออกมาจากริมฝั่งแม่น้ำซอง  กลับเข้ามาเดินท่อมๆ บนถนนในวังเวียงอีกครั้ง

ติดตามอ่าน ม่วนชื่น ตื่นตาตื่นใจกับ“วังเวียง” เมืองแห่งธรรมชาติของ สปป.ลาว (2) เร็วๆ นี้

 

You may also like

ทอท.เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ประชาชนในรัศมี 5 กม. จากสนามบินเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 เกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)โครงการพัฒนาสนามบินเชียงใหม่

จำนวนผู้