“ปวิณ”เรียกนายอำเภอและผู้นำ “เชียงดาว อมก๋อย แม่วาง”ปรับยุทธวิธีจี้รายหมู่บ้านลาดตระเวนห้ามเผาเด็ดขาด

“ปวิณ”เรียกนายอำเภอและผู้นำ “เชียงดาว อมก๋อย แม่วาง”ปรับยุทธวิธีจี้รายหมู่บ้านลาดตระเวนห้ามเผาเด็ดขาด

“ปวิณ”เรียกนายอำเภอและผู้นำ “เชียงดาว อมก๋อย แม่วาง”หารือด่วนหลังพบจุดความร้อนหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดมลพิษหมอกควัน กำชับทุกหมู่บ้านจัดชุดลาดตระเวนคุมเข้มการเข้าป่าและห้ามเผา ย้ำชัดราชการห่วงใยสุขภาพของประชาชน

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงเหตุผลที่มีคำสั่งด่วนที่สุดถึงนายอำเภออมก๋อย เชียงดาวและล่าสุดคือแม่วางแจ้งให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือ เนื่องจากดาวเทียม MODIS ตรวจพบจุดความร้อนหรือ Hot spot ได้ในวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่ตำบลนาเกียน ตำบลยางเปียง อำเภออมก๋อยและตำบลปิงโค้ง อ.เชียงดาว และล่าสุดมีหนังสือด่วนที่สุดในเช้าวันที่ 28 มี.ค.2561 ถึงนายอำเภอแม่วาง

“การเกิดจุดความร้อนหรือ Hot spot  ใน 3 อำเภอในหลายพื้นที่นั้น ส่งผลให้เกิดมลพิษจากหมอกควัน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่คำนึงถึงเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เชิญเจ้าของพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอมาพูดคุย สอบถามกันเพราะอยากรู้ว่าหลังจากที่มีประกาศปิดป่าในระหว่างวันที่ 25-31 มีนาคม 2561 กลับมีจุดความร้อนเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งๆ ที่ประกาศห้ามเผาเด็ดขาดในช่วง 51 วันห้ามเผาของจังหวัดเชียงใหม่เริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค.-20 เม.ย.61ซึ่งมีประกาศถึง 2 ฉบับซ้อนจึงอยากรู้ว่าปัญหามันเกิดจากอะไร”ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและชี้แจงอีกว่า

ตอนนี้ที่อยากฟังคือทั้ง 3 พื้นที่ใช้มาตรการอะไร ต้องปรับตรงไหนและอยากให้จังหวัดช่วยด้านใด เช่น การลาดตระเวนนั้นต้องทำตั้งแต่ยังไม่เกิดควันไฟหรือได้รับแจ้งว่ามีจุดความร้อน ต้องจัดชุดลาดตระเวนและป้องปราม หรือต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการทำงานในพื้นที่ควบคุมเรื่องการเข้าป่าเพื่อหาของป่า ทั้งนี้เราก็มีตัวอย่างจากหลายพื้นที่ที่มีประกาศห้ามเข้าป่า ซึ่งจริงๆ เป็นการปิดป่าแบบมีเงื่อนไขที่ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่เอามาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า ในบางจุดก็ไม่อยากจะให้พูดถึงเรื่องความขัดแย้งในพื้นที่ เพราะเวลาเกิดปัญหาไฟไหม้ป่าแล้ว มันส่งผลกระทบทั้งจังหวัด มันไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง แต่การประชุมครั้งนี้ต้องให้ได้ข้อปฏิบัติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะจริงๆ แล้วในภาพรวมปีนี้จุดความร้อนเราลดลงมากกว่าปีก่อน ซึ่งอยากจะย้ำว่าราชการห่วงใยเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชนมาก

มีรายงานว่าหลังจากที่ผู้ว่าฯเรียกประชุมทั้ง 3 อำเภอและได้สั่งการให้จัดชุดลาดตระเวนทุกหมู่บ้าน รวมทั้งสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน และขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด โดยให้กำลังใจและขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ เสียสละในการดูแลผืนป่าและสุขภาพของพี่น้องประชาชนร่วมกัน.

You may also like

ทอท.เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ประชาชนในรัศมี 5 กม. จากสนามบินเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 เกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)โครงการพัฒนาสนามบินเชียงใหม่

จำนวนผู้