สมาคมพืชสวนฯจับมือสมาคมกาแฟและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 เพื่อสร้างความร่วมมือในอาเซียนให้เป็นแหล่งผลิตกาแฟสำคัญของโลก ขณะที่เชียงใหม่เดินหน้ายุทธศาสตร์ เมืองกาแฟแห่งต่อเนื่อง จับมือกระทรวงเกษตรฯ ภาคเอกชนต้นน้ำ-ปลายน้ำ และผู้ผลิตโชว์ศักยภาพ
วันที่ 14 ก.พ.62 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ นายณรงค์ อ่อนสะอาด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 (1th ASEAN Coffee Industry Development Conference) โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุม ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อน “ยุทธศาสตร์กาแฟปี 2560 – 2564” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้บรรลุเป้าหมายของการ “เป็นผู้นำการผลิตและการค้ากาแฟคุณภาพในภูมิภาคอาเซียนก้าวไกลสู่ตลาดโลกภายใต้ภาพลักษณ์กาแฟไทย” ภายในปี 2564
นายณรงค์ อ่อนสะอาด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าววา ยุทธศาสตร์กาแฟปี 2560-2564 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึงประกอบด้วยพันธกิจ 5 ประการ คือ 1.เพิ่มปริมาณผลผลิตกาแฟในประเทศ 2.เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม 3.สร้าง/พัฒนาเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ 4.ยกระดับคุณภาพมาตรฐานสู่สากลและภาพลักษณ์กาแฟไทย และ 5. สร้างให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้ากาแฟในอาเซียน
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศในภูมิภาคอื่น ที่สนใจทั้งด้านนโยบาย และด้านวิชาการ เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปกาแฟ เผยแพร่นวัตกรรม และองค์ความรู้ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตกาแฟในแต่ละประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการพัฒนาโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกาแฟในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียนด้วย ภายใต้ความร่วมมือ 12 หน่วยงานภาครัฐ สมาคม และ เอกชน ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพ สมาพันธ์กาแฟอาเซียน สมาคมบาริสต้าไทย สมาคมกาแฟไทย สมาคมชาวสวนกาแฟไทย สมาคมกาแฟและชาไทย มูลนิธิชาวสวนกาแฟ และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด พร้อมพันธมิตรจากหน่วยงานภาคเอกชนในจัดการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 ครั้งนี้ขึ้น
ด้าน ดร.อนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย และ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 กล่าวถึงความสำคัญของกาแฟและสภาพปัญหาในเรื่องอุปสงค์และอุปทานที่ทำให้การผลิตกาแฟของโลกอยู่ในสภาวะความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งผลิตกาแฟที่สำคัญของโลก และความร่วมมือระหว่างสมาคมพืชสวนกับบริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด รวมทั้งขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนับสนุนและเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียนเป็นครั้งแรกนี้
ภายใต้แนวคิดความยั่งยืนทางธุรกิจของอุตสาหกรรมกาแฟ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กาแฟ ปี 2560-2564 และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐสมาชิกอาเซียน เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการแปรรูปกาแฟ และที่สำคัญเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจกาแฟของประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำบนเวทีวิชาการระดับอาเซียน ตลอดจนมีหน่วยงานเจ้าภาพร่วมอีกหลายหน่วยงาน และภาคเอกชนให้การสนับสนุนออกบูท อาทิ เจียไต๋ ปุ๋ยไวกิ้ง ไฮโดรไทย โซตัส ที่สนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกกาแฟในแหล่งปลูกกาแฟของประเทศ คือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง และเกษตรกรผู้ชนะการประกวดเมล็ดแฟ และผู้ปลูกกาแฟ รวม 100 คน ให้มีโอกาสมาร่วมประชุมครั้งนี้ รวมทั้งดอยช้าง สตาร์บัคส์ กาแฟวาวี และแบรนด์กาแฟต่างๆ ตลอดจน ไทยเบฟ ซี.พี.รีเทลลิงค์ ก็ร่วมออกบูธและสนับสนุนในส่วนต่างๆของงานในครั้งนี้
การประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 -17 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ กิจกรรมภายในงาน มีทั้งการประชุมสัมมนาโดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ การประชุมวิชาการเพื่อนำเสนอผลงาน และวิทยากรซึ่งเป็นนักธุรกิจจากนานาชาติที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมกาแฟระดับโลก พร้อมกับมีผู้เข้าร่วมประชุมจากทั้งในและต่างประเทศรวมกว่า 500 ท่าน โดยมีนายแพทริค ซิมิยู วาโมโต เอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทย และ นายโจควิม อมารัล เอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ประจำประเทศไทย ให้เกียรติมาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการและการแสดงสินค้าที่มีพาวิลเลี่ยนจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศอื่นๆ ตลอดจนการแข่งขันศิลปะบนถ้วยกาแฟ และ ผู้มีทักษะในการชงกาแฟด้วยมือโดยใช้กระดาษกรองระดับนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุดสำหรับการจัดงาน