หมอกควันปกคลุมแอ่งเชียงใหม่-ลำพูน รองแม่ทัพภาคที่ 3 วอนทุกฝ่ายร่วมมือและบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ชี้ปล่อยให้เผาหลังบ้านลามเข้าป่า ห่วงสุขภาพเด็ก คนชรา ขณะที่เชียงใหม่แชมป์จุด Hot spot สูงที่สุดในภาคเหนือและประเทศ ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศมีผลต่อสุขภาพทุกสถานี
พลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า Action Plan แผนการปฏิบัติการดับไฟป่าวันนี้ จะมุ่งเน้นในพื้นที่เชียงใหม่ ในส่วนของจังหวัดลำพูนตนมั่นใจว่า ผวจ.ลำพูนและ กกล.รส.จว.ลำพูนลุยควบคุมได้แน่นอน ดังนั้นจะขอลุยกันทั้งการทิ้งน้ำและกำลังพลภาคพื้นดินในจังหวัดเชียงใหม่ โดยพื้นที่เติม สป.3(อ.)เครื่อง mi17 สนามบอลวิทยาลัยการอาชีพ อ.จอมทอง พื้นที่ติดตั้ง BAMBI ทิ้งนัำของ mi17 สนามบอลเทศบาล ต.ท่าข้าม อ.ฮอด
สำหรับพื้นที่ตักน้ำ ให้รอ จนท.ชุดบิน(ไปพร้อม ฮ.) เข้าสำรวจรายละเอียด ประสานขอรถสนับสนุน จากในพื้นที่แล้ว ซึ่งเช้าวันนี้ได้ประสานนักบิน ฮ.กระทรวงทรัพย์ฯ เข้ามาประสานการปฏิบัติด้วยแล้ว สำหรับการโปรยน้ำทางอากาศของ ทอ.ปฏิบัติตามแผนเดิมที่มีการร้องขอแต่ ทั้งนี้จังหวัดลำปางก็อย่าได้นิ่งนอนใจ ขอเน้นรบกวนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ควรจัดประชุมกับผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำปาง เพื่อควบคุมการเผาป่าอย่างเด็ดขาด เช่นกัน
รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า จากการบินสำรวจทางอากาศเหนือพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากรูปจะเห็นได้ว่าถ้าเราไม่สามารถควบคุมการเผาใน 2 จังหวัดคือ ลำพูนและ เชียงใหม่ได้ ควันพิษก็จะปกคลุมทั้ง 2 จังหวัดร่วมกันเนื่องจากกระแสลมฝ่ายใต้ และรายงานการเกิดจุดความร้อน 3 อันดับสูงสุด ประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 มากที่สุดคือ จังหวัดลำปาง 450 จุด รองลงมาคือ เชียงใหม่396 จุด และ น่าน โดยมี 257 จุด
“ผมขึ้นอากาศยานตรวจสอบ รอบๆ แอ่งเชียงใหม่ แอ่งลำพูน มีแต่ควันลอยตัวปกคลุมตลอด ถ้าเป็นอย่างนี้อีกหน่อยผมว่าคนเชียงใหม่ คนลำพูนคงจะเป็นหอบหืด โรคปอดกันโดยทั่วหน้า ถ้าเราไม่บังคับใช้กฎหมายจัดการกับพวกลักลอบเผาป่าอย่างจริงจัง สิ่งที่ไม่ควรยอมและยอมไม่ได้คือเผาหลังบ้านตนเอง เมื่อวานบินตรวจพบมากมาย วันนี้ให้เชิญผบ.หน่วยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ จอมทองแม่แจ่ม ฮอด มาหารือแนวทางในการควบคุมไฟป่าในเขตรับผิดชอบที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า”พล.ต.บัญชา กล่าว.
ทั้งนี้จากข้อมูลดาวเทียมระบบ VIIRS ซึ่งได้แจ้งให้ทราบเมื่อเวลา 07.30 น. (ทางเว็ปไซด์ Gistda สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ http://fire.gistda.or.th/download.html) จังหวัดลำปาง จำนวน 274 จุด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 226 จุด จังหวัดน่าน จำนวน 145 จุด จังหวัดแพร่ 143 จุด จังหวัดตาก 138 จุด จังหวัดพะเยา 88 จุด จังหวัดลำพูน 86 จุดจังหวัดแม่ฮ่องสอน 68 จุดและจังหวัดเชียงราย 3 จุด รวมทั้งสิ้น 1,171 จุด
ในขณะเดียวทางนายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทาง GISTDA ได้ส่งรายงานการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน จากข้อมูลดาวเทียม ประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 โดยพบจุดความร้อนทั้งประเทศจำนวน 317 จุด ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 113 จุด โดยพบมากที่สุดที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนละ 40 จุด และพบจุดความร้อน 9 จังหวัดภาคเหนือจำนวน 151 จุด โดยพบมากสุดที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 40 จุด โดยจุดความร้อนสะสม 9 จังหวัดภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 1ม.ค.- 22 ก.พ.62 จำนวน 1,696 จุด.