โค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้ง “พรชัย”อ้อนขอโอกาส เผยคนเชียงใหม่เคยเลือก ส.ส.แบบพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรคแล้วได้ตัวแทนที่ไม่อยู่พื้นที่ ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ชี้เชียงใหม่มีปัญหาที่ต้องได้คนทำงานด้วยใจมาขับเคลื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง นายพรชัย จิตรนวเสถียร ผูัสมัคร ส.ส. เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ยังใช้วิธีการลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยย่อย ภายในลานวัดศรีบัวเงิน ต.ท่าศาลา อ.เมือง เชียงใหม่ เพื่อชี้แจงนโนยบายของพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีประชาชนในเขตตำบลท่าศาลาและจากแขวงกาวิละ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่มาร่วมรับฟังด้วย
นายพรชัย กล่าวว่า ในขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่กำลังประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ และการจราจร ปัญหาของการเติบโตและการรุกคืบของกลุ่มทุนการค้าที่เข้ามารุกฆาตอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องให้ประชาชนได้รับข้อมูล ข่าวสารที่ถูกต้องก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนต้องมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกส.ส.ที่จะให้เป็นตัวแทนเข้าไปในสภาผู้แทนราษฎร ที่แต่เดิมประชาชนอาจจะเลือกตามที่มีการรณรงค์หรือชื่นชอบจากพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค แต่ก็ได้บทเรียนแล้วว่าคนที่พรรคเลือกเมื่อเข้าไปแล้วไม่ได้นำปัญหาของประชาชนในพื้นที่ไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
“การเปิดเวทีปราศรัยพบปะพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ ผมจะขอโอกาสจากพี่น้องประชาชน ผมมาบอกเล่าผลงาน ประสบการณ์ที่เคยทำงานทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ และการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน อย่างปัญหาหมอกควันที่เราเผชิญอยู่ขณะนี้ เมื่อ 10 ปีก่อนสมัยผมเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ปัญหาหมอกควันขยายและเติบโตควบคู่กับการผลิตอาหารสัตว์ มีการขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เข้าไปในพื้นที่ป่า ซึ่งทำให้เกิดปัญหาทั้งป่าไม้ถูกรุกล้ำ มีการทำการเกษตรที่ผิดพลาด และโรงงานหลายแห่งในเขตเมืองเชียงใหม่เป็นโรงงานเก่าที่ไม่ได้รับการแก้ไขทำให้ปล่อยมลพิษออกมา นอกจากนี้ยังมีปัญหามลพิษจากการจราจร ซึ่งเชียงใหม่มียอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สูงสุด รวมทั้งรถยนต์ด้วย ซึ่งการแก้ไขปัญหาจะแก้ไขด้านเดียวหรือเรื่องเดียวไม่ได้ และแก้ไขเฉพาะพื้นที่ก็ไม่ได้ เนื่องจากเป็นปัญหาใหญ่ระดับภาคและประเทศ”นายพรชัย กล่าวและชี้แจงอีกว่า
นักการเมืองมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จ แต่ต้องทำด้วยหัวใจ ไม่ใช่แค่หาเสียงตอนเลือกตั้ง ปัญหานี้ต้องมีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง แม้กระทั่งเรื่องการศึกษาก็สำคัญต้องมีการกระตุ้นและให้ความรู้แก่เด็กๆ เพื่อที่จะได้นำไปถ่ายทอดยังพ่อแม่ผู้ปกครอง สมัยผมเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีได้ลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยและให้ความรู้ไปด้วยว่ามลพิษหมอกควันไฟป่าเกิดอย่างไร ป้องกันอย่างไรแล้วให้เด็กไปถ่ายทอดต่อ ส่วนเรื่องการฉีดพ่นน้ำนั้นก็ทำกันไปเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ แต่สิ่งสำคัญคือให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเอง
“ตอนนี้สังเกตดูใน 100 คนมีคนสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นเพียง 2 คน แต่ในอดีตจะพบเห็นครึ่งหรือเกินครึ่ง กระบวนการแบบนี้ต้องทำในเรื่องสร้างการรับรู้ของประชาชนถึงอันตรายจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ส่วนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเขตป่าและมีการเผาตอซังก็ต้องมีวิธีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง ไม่ใช่ปล่อยให้เผาแบบนี้ที่สำคัญควรจะหาพืชชนิดอื่นไปปลูกชดเชย ส่วนพื้นที่ชายขอบเขตป่าและต่างแดน ก็ต้องสกัดกั้นเพราะถ้าปล่อยให้ไปปลูกในเขตชายแดนเพื่อนบ้านแล้วขนวัตถุดิบเข้ามาขายในประเทศ แต่เผาตอซังสร้างมลพิษเราต้องมีวิธีจัดการ ทั้งหมดทั้งมวลจะต้องมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ”นายพรชัย กล่าวและว่า
ในช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งแล้ว ตนอยากให้ประชาชนได้คิด พิจารณาในการเลือก จึงได้ใช้วิธีลงพื้นที่ไปให้ครบทุกตำบลในเขตเลือกตั้ง ซึ่งตำบลท่าศาลาเป็นตำบลสุดท้าย ก่อนจะเปิดเวทีปราศรัยก็จะไปพบผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อรับทราบปัญหาของพื้นที่ และจะได้นำเสนอนโยบายที่ตรงกับสภาพพื้นที่แต่ละแห่ง นอกจากปัญหาหมอกควันแล้ว เชียงใหม่จะต้องเป็นเมืองแห่งอัตลักษณ์ล้านนา โดยจะเร่งผลักดันเชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก ยกระดับสินค้าพื้นบ้านสู่ตลาดออนไลน์ และผลักดันเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งความยั่งยืน ปลุกจิตสำนึกรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่น จัดตั้งสภาพลเมืองและสร้างปอดในเมือง แหล่งนันทการและส่งเสริมสุขภาพ ให้ประชาชนมีสุขภาพและนำนโยบายของพรรค คือ ‘แก้จน สร้างคน สร้างชาติ’ มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่อย่างจริงจัง” .