กระทรวงทรัพย์ฯเสริมกำลังอีก 2 พันตั้งชุดเฉพาะกิจผนึกกำลังป่าไม้-อุทยาน-ปกครอง-ทหารและตำรวจ ทำงานอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด มุ่งเป้าพื้นที่เกิดไฟป่ามาก หวังลากคอผู้กระทำผิดมาลงโทษให้เข็ดหลาบ ปลัดก.ทรัพย์ฯยอมรับ”ลุงตู่”สั่งให้ยุติไฟป่าและดูแลประชาชนอย่างเร่งด่วน
วันที่ 31 มี.ค.62 ที่ห้องประชุม 2 อาคาร SME ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายวิจารณ์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยพลเอกศิวะ ภระมรทัต ผู้บัญชาการกองกำลังจิตอาสา, นายธีรภัทร์ ประยูรสิทธิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี, นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ, นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธ์พืช ร่วมประชุมหารือแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ
ภายหลังการประชุม นายวิจารณ์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงทรัพย์มาประชุมและวิเคราะห์ปัญหาไฟป่าหมอกควันภาคเหนือ ซึ่งพบว่าดัชนีคุณภาพอากาศโดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 เกินค่ามาตรฐานมาหลายวัน และมาร่วมกันวางมาตรการในระยะต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยครั้งนี้มาพร้อมกับอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯเพื่อที่จะช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยทางกระทรวงฯพร้อมท่ะสนับสนุนการปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่
จากการประชุมหารือร่วมกันได้ข้อสรุปว่าจะมีการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นที่อาคาร SME ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้บัญชาการศูนย์สั่งการ Single Command และมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงทรัพย์ฯอีก 2,000 นายที่อยู่นอกพื้นที่จะเข้ามาเสริมกำลังเพื่อปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มเติมจากจนท.ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ขณะนี้และจะมีกำลังจากของกระทรวงมหาดไทยที่ผวจ.เชียงใหม่เป็นผู้ประสานสั่งการ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร นอกจากนี้จะเพิ่มเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงฯจากเดิมมีอยู่ 2 ลำที่ปปฏิบัติการในพื้นที่ภาคเหนือเข้ามาเพิ่มอีก เช่นเดียวกับที่ทางกองทัพบกและกองอากาศจะนำอากาศยานมาเพื่อดับไฟในพื้นที่ภูเขาสูงชันด้วย
“ทางกระทรวงฯได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมอุทยานฯมาประจำที่ศูนย์สั่งการเฉพาะกิจนี้ด้วย ซึ่งนับจากวันนี้ไปจะมีการเพิ่มมาตรการและความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงแผนระยะยาวว่าในอนาคตพื้นที่ป่าที่มีประชาชนเข้าไปอาศัยและทำกินจะต้องไม่มีการเผาเด็ดขาดด้วย รวมถึงเรื่องการปรับเปลี่ยนอาชีพ ซึ่งปีนี้ที่สถานการณ์รุนแรงเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนิโญ่ที่มีความร้อนและแล้งยาวนาน ปีนี้ไม่มีฝนตกมาเหมือนปีก่อนๆ ประกอบกับมีการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพื้นที่เชียงใหม่และลำพูนเป็นแอ่งกะทะจึงทำให้ปัญหาหมอกควันรุนแรง แต่ก็ยอมรับว่าการเผาเกิดจากคนในพื้นที่ ซึ่งต่อไปจะมีความเข้มข้นในการจัดการปัญหามากขึ้น”ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าว
ทางด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ประสานและสั่งการไปทุกอำเภอในเรื่องที่จะให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากยิ่งขึ้น เพราะชุมชนเองจะรู้ดีว่าใครมีอาชีพอะไร ใครเข้าป่า นอกจากนี้ก็ให้ทางอำเภอแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เรื่องการใช้งบประมาณและกลไกการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการปัญหา เพื่อลดการเผา และนำผู้ที่มีอาชีพหาของป่ามาฝึกอบรมอาชีพใหม่ด้วย
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากนี้จะยกระดับความเข้มข้นเพื่อให้ประชาชนเชื่อฟังและเคารพกติกา บังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ที่ผ่านมาแม้จะมีคำสั่งปิดป่าหรือมีการตรวจตราการเข้าออกแล้วแต่ก็ยังปรากฏการลักลอบเผา ชุดเฉพาะกิจนี้จะเข้าไปเสริมและจับคนที่เผามาลงโทษเด็ดขาด พื้นที่เป้าหมายแรกคือที่อ.เชียงดาวและสะเมิงซึ่งมีจุดเกิดไฟป่ามากมาย จุดเหล่านี้จะไม่ยอมให้มีไฟเกิดขึ้นมาได้อีกและต้องใช้กำลังของชุดเฉพาะกิจนี้เข้าไปควบคุมซึ่งจะเริ่มดำเนินการทันที และหากประชาชนได้เบาะแสหรือพบการกระทำผิดขอให้โทร.แจ้งสายด่วนของกรมอุทยานฯ1362 ได้ทันที
ขณะที่นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธ์พืช กล่าวว่า สาเหตุของการเผาป่าในปีนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการหาของป่า ซึ่งก็ยากที่จะหาตัวหรือเจอตัวผู้ที่จุดไฟ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟได้เข้าไปดำเนินการดับไฟป่าทุกวัน ทุกพื้นที่เพื่อยับยั้งและหยุดความเสียหายแต่ก็ถูกตำหนิ โจมตีมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่ควรจะตำหนิคนที่ลักลอบเผา แม้ที่ผ่านมาจะมีประกาศปิดป่าและตั้งด่านตรวจสอบและให้รายงานตัวก่อนเข้าป่าแต่ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้เนื่องจากพื้นที่ป่าไม่ได้มีทางเข้าทางเดียว แต่ก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยถึงสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่ปกคลุมในพื้นที่ภาคเหนือและส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนว่า ได้สั่งให้กระทรวงทรัพย์ฯ และกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์บูรณาการประสานและปรับแนวทางการทำงานเพื่อยุติไฟป่าและดูแลพี่น้องประชาชนจึงได้รีบดำเนินการในวันนี้ และนายกรัฐมนตรีเองจะขึ้นมาประชุมอีกครั้ง.
