ผู้ว่าฯเรียกประชุมปรับแผนหลังคืนกระทงวันแรกโคมไฟพรึ่บในเขตห้ามปล่อยเด็ดขาด กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการเข้มสั่งตรึงกำลังปิดหัวท้ายสะพาน ตรวจยึดห้ามปล่อยโคมลอย(ไฟ)
วันที่ 12 พ.ย.62 ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชนในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็งเชียงใหม่ว่า ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีประกาศจังหวัดกำหนดมาตรการในการอนุญาตให้ปล่อยโคมลอย โคมควันและพลุได้ในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำและแรม 1 ค่ำหรือตรงกับวันที่ 11-12 พ.ย.62 นี้ โดยโคมควันอนุญาตให้ปล่อยตั้งแต่เวลา 10.00-12.00 น.ของวันนี้(12พ.ย.) แต่ก็ยอมรับว่าวันแรกก็มีการฝ่าฝืนการปล่อยโคมลอยและโคมควันนอกเวลาที่อนุญาต ส่วนกรณีที่มีการนำภาพเผยแพร่ทางโซเซียลและสื่อมวลชนดูแล้วไม่น่าจะเป็นโคมลอยที่ปล่อยในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่น่าจะเป็นของจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียง
“เมื่อคืนมีผู้ฝ่าฝืนปล่อยโคมไฟกันหลายจุดในเขตอ.เมืองโดยเฉพาะที่บริเวณสะพานนวรัฐ ขัวเหล็กและสะพานนครพิงค์ ซึ่งในเขตอำเภอเมืองครอบคลุมทุกพื้นที่ไม่อนุญาตให้มีการปล่อยโคมลอยหรือจุดพลุ จุดประทัดได้เพราะอยู่ในเขตปลอดภัยทางเดินอากาศ แม้ว่าเครื่องบินจะงดบินแล้วก็ตามแต่เป็นเซฟตี้โซน ซึ่งมีกฎหมายพ.ร.บ.เดินอากาศควบคุมและบังคับใช้และเช้าวันนี้(12 พ.ย.)นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมและสั่งการให้เข้มงวด กวดขันและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด”รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ในคืนนี้จะดำเนินการปิดสะพานนวรัฐ สกรีนคนที่ถือโคมลอยจะไม่ให้เข้าและยึดเด็ดขาด อย่างไรก็ตามอยากให้สื่อมวลชน สมาคมโรงแรมและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวแจ้งให้นักท่องเที่ยวได้ทราบว่าจังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้อนุญาตให้ปล่อยโคมลอยในเขตอ.เมืองซึ่งเป็นเซฟตี้โซนอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้จากมาตรการในการเฝ้าระวังการปล่อยโคมลอยหรือโคมไฟที่เราห่วงมากที่สุดคือไฟไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจรและอากาศยาน ซึ่งก็พบว่า เมื่อคืนวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมามีเหตุไฟไหม้บ้านเรือน 1 จุดที่ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ แต่เกิดจากการจุดผางประทีป
นอกจากนี้ยังพบว่ามีโคมลอยตกลงมาพาดสายไฟ ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรไฟไหม้ 2 แห่งที่ถนนหมื่นด้ามพร้าคต ต.ช้างเผือก และที่ทางลอดใต้สะพานป่าตัน ซึ่งสายไฟฟ้าได้รับความเสียหายทั้ง 2 จุด ส่วนผลกระทบกับอากาศยานนั้น พบซากโคมลอยไปตกในเขตรันเวย์และในเขตท่าอากาศยาน 21 ลูก
นายคมสัน กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการดำเนินการจับกุมผู้จำหน่ายโคมไฟเมื่อคืนทีผ่านมาสามารถยึดโคมไฟไว้ 3,021 ลูกที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ 1,134 ลูก ที่ขัวเหล็ก 610 ลูก ที่ลานท่าแพหรือข่วงประตูท่าแพ 1,070 ลูกและที่สะพานนวรัฐ 124 ลูก หลังแขวงนครพิงค์ 83 ลูก ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 10-11 พ.ย.62 สามารถตรวจจับและยึดโคมลอยไว้ 3,168 ลูก ส่วนรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงเทศกาลลอยกระทงจากข้อมูล 16 โรงพยาบาลมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากประทัด 5 ราย จากดอกไม้เพลิง 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ มือ แขนและเท้า 7 รายและใบหน้า 1 ราย ส่วนอีก 15 โรงพยาบาลกำลังรวบรวมข้อมูลส่งมาให้จังหวัด ทั้งนี้ยอมรับว่ายังมีการลักลอบจุดประทัด และพลุอยู่แต่ก็น้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา.