ผู้ว่าฯเชียงใหม่นัดสถานบันเทิงและสถานประกอบการลงนาม MOU เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ย้ำการจัดงานรวมคนจำนวนมากผู้จัดหรือออกาไนซ์จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดหากตรวจสอบพบฝ่าฝืนสั่งยุติและยกเลิกจัดงานพร้อมเจอโทษหนักทั้งติดคุกและปรับตามพรก.ฉุกเฉินและพรบ.ควบคุมโรคติดต่อ
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.3 ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ โดยดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดเชียงใหม่ แถลงเกี่ยวกับการแจ้งเตือนประชาชนต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยกล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้จะไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ แต่ก็พบว่าประชาชนเริ่มการ์ดตกไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำในการป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยและการใช้แอลกอฮอล์ล้างมือและไปในที่แออัด
ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นข้อกังวลคือสถานการณ์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะเมียนมาร์ซึ่งได้ประกาศล็อคดาวน์เมืองเอกรัฐยะไข่ เพราะพบผู้ติดเชื้อโควิดฯในชุมชนครั้งแรก และที่เมืองหลวงของรัฐยะไข่ที่ซิตตเว มีโรฮิงยาประมาณ 1 แสนรายและเชื้อโควิดฯที่พบยังเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์ซึ่งพบว่ามีการระบาดอย่างรวดเร็วกว่าโควิดฯที่ระบาดในจีนครั้งแรกด้วย
“ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นใน 3 เรื่องหลักในขณะนี้คือไม่นำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ซึ่งสคบ.ให้แรงงานต่างด้าวทุกคนต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันในสถานกักกันของรัฐสำหรับจังหวัดเชียงใหม่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้ 5 อำเภอชายแดนตั้งด่านตรวจโควิดฯและให้แต่ละอำเภอมีสถานกักกันด้วย ส่วนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองหากจับกุมตัวได้บริเวณชายแดนให้ผลักดันออกทางช่องทางที่เข้ามาทันทีแต่ถ้าเล็ดลอดเข้ามาในอำเภอชั้นในให้นำเข้าไปกักตัว”ดร.ทรงยศ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
ชาวเชียงใหม่จะต้องการ์ดไม่ตก เพราะจากการสุ่มตรวจตามห้างสรรพสินค้าและสถานประกอบการหลายแห่งพบว่าประชาชนเริ่มการ์ดตกแล้ว ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนรักษาวินัยในการป้องกันตนเองตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรคด้วย และเรื่องสุดท้ายคือการจัดงานรวมคนต่างๆ จะต้องมีความปลอดภัย โดยการจัดงานที่มีการรวมคนมากๆ จะต้องมีการลงบันทึกข้อตกลง MOU เพื่อรับผิดชอบในมาตรการป้องกัน โดยผู้จัดการไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ เอกชนหรือออกาไนซ์ เมื่อขออนุญาตจัดงานต่อเจ้าหน้าที่อำเภอพื้นที่จัดงานจะต้องลงนามในบันทึกข้อตกลงและทางอำเภอนั้นๆ จะต้องเชิญผู้ประกอบการมาประชุมชี้แจงถึงมาตรการที่จะต้องปฏิบัติด้วย
“เกณฑ์หลักที่กำหนดการจัดงานคือต้องมีการตรวจคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ การจัดเจลแอลกอฮอล์และการเว้นระยะห่าง ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามหากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบก็จะถูกดำเนินคดีตามพรก.ฉุกเฉิน จำคุก 2 ปีปรับ 4 แสนบาทและผิดตามพรบ.ควบคุมโรคติดต่อพ.ศ.2558 โทษจำคุก 1 ปีปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำและปรับ”ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและว่า
สำหรับการจัดงานแสดงคอนเสิร์ตที่มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในช่วงกลางเดือนพ.ย.นั้น จะต้องมาขออนุญาตต่อทางอำเภอด้วย แม้ว่าทางศคบ.จะไม่ได้กำหนดว่าการจัดงานแสดงคอนเสิร์ตจะมีคนเข้าชมได้กี่คน แต่ก็มีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ว่าหากเป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศพื้นที่ 1 ตรม.จะต้องไม่เกิน 4 คนและหากเป็นที่โล่งแจ้งจะให้ 1 ตรม.ต่อ 5 คน ซึ่งทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดว่าหากมีการขออนุญาตจัดงานผู้จัดหรือออกาไนซ์จะต้องมาลงนามในบันทึกข้อตกลงและให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด หากไม่ปฏิบัติตามก็สามารถสั่งยุติทันทีและยกเลิกการจัดงานพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
ทางด้านนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้จังหวัดเชียงใหม่โดยนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดได้เชิญสถานประกอบการประเภทสถานบันเทิงที่มีใบอนุญาตกว่า 30 รายมาลงนามในข้อตกลงหรือ MOU เพื่อให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดซึ่งปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่ได้ต่อใบอนุญาตให้กับสถานบันเทิงเหล่านี้ ส่วนสถานประกอบการที่ลักษณะคล้ายสถานบันเทิงก็ให้แต่ละอำเภอเชิญมาประชุมและทำMOU เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสถานบันเทิงและสถานประกอบการคล้ายสถานบันเทิงปัจจุบันจะเปิดให้บริการได้ไม่เกินเที่ยงคืนตามพรก.ฉุกเฉิน
“ในกรณีการจัดงานแสดงคอนเสิร์ตหรือจัดงานที่มีการรวมกลุ่มคนมากๆ ไม่ว่าจะจัดในสถานที่ของใครไม่ว่ารัฐ เอกชนหรือทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อสามารถเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ได้หมด และหากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดก็สามารถสั่งให้หยุดและยกเลิกการจัดงานดังกล่าวได้ทันที เพื่อไม่ให้เกิดทฤษฎีเอาอย่างและจะมีการสุ่มตรวจ เช็คลิสต์อย่างต่อเนื่อง”ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวยืนยัน.