แกนนำพรรคเพื่อไทยและเสื้อแดงเปิดเวทีปราศรัยท่ามกลางกองเชียร์ร่วม 2 พันคน ยันถึงเวลาทวงศักดิ์ศรีคนเชียงใหม่คืน “วรชัย”ย้ำหากเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งอบจ.เชียงใหม่จะถูกเย้ยหยัน ตราหน้าอย่าคิดทวงประชาธิปไตยจากเผด็จการ ด้าน “อดิศร”ไลฟ์สดให้”ทักษิณ –สมชาย-ยิ่งลักษณ์”ชมพร้อมกัน
เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ที่โรงพลศึกษา 2 สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี พรรคเพื่อไทยได้จัดงานเปิดตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย โดยมีกรรมการบริหารและอดีตสส. ของพรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอิน อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตสส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ แกนนำคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และดร.อดิศร เพียงเกษ อดีตสส.พรรคเพื่อไทย มาขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงและเปิดตัวนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร และผู้สมัครส.อบจ.เชียงใหม่ทั้ง 42 เขตเลือกตั้งซึ่งสมัครได้เบอร์ 1
สำหรับบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เข้ามาให้กำลังใจผู้สมัครส.อบจ.เชียงใหม่ และนายกอบจ.เชียงใหม่ มากถึง 2,000 คน จนเต็มพื้นที่ในโรงยิมเนเซียม 2 และแกนนำได้ปลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย
นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.เพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงได้กล่าวบางช่วงบางตอนว่า จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทยมีนายกรัฐมนตรีถึง 2 คน คือนายกฯทักษิณ และนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่สิ่งที่เผด็จการรัฐประหารทำกับอดีตนายกฯทั้ง 2 คน ถือว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ถ้าหากว่าการเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ ถ้าหากแพ้เท่ากับยอมจำนนต่อเผด็จการ
“ครั้งนี้เรามาเรียกร้องความชอบธรรมให้อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นชาวเชียงใหม่เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยและชาวเชียงใหม่จะแพ้ไม่ได้ เราต้องทวงคืนศักดิ์ศรีให้ชาวเชียงใหม่และอดีตนายกรัฐมนตรี เพราะพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯที่มาจากการยึดอำนาจและสืบทอดอำนาจ เลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวเชียงใหม่ออกมาเลือกตั้ง เลือกพรรคไทยในทุกเขตที่มีการเลือกตั้งเพื่อล้มล้างเผด็จการ และหากเพื่อไทยแพ้บทบาทของพรรคเพื่อไทยก็จะมัวหมองทันที และจะถูกตราหน้าว่าขนาดเลือกตั้งนายกอบจ.ยังแพ้ จะไปเลือกตั้งใหญ่ ทวงคืนประชาธิปไตยได้อย่างไร ดังนั้นเราต้องชนะให้ได้ การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของใครคนใด คนหนึ่ง แต่เป็นการเรียกร้องความชอบธรรมจองฝ่ายประชาธิปไตย”นายวรชัย กล่าว
จากนั้นนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ปราศรัยในบางช่วงว่า การเลือกตั้งอบจ.เชียงใหม่นี้เพื่อไทยจะต้องชนะอย่างเดียว หากเพื่อไทยแพ้แสดงว่าคนเชียงใหม่เอาด้วยกับพล.อ.ประยุทธ์ เพราะพรรคเพื่อไทยเสนอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญและพล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออก ที่ผ่านมาอดีตนายกฯทักษิณและยิ่งลักษณ์ถูกเผด็จการใช้ความอยุติธรรมมาจัดการที่เรียกว่าตุลาการภิวัฒน์ จนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยมากที่สุด เพื่อเป็นการแก้แค้นคนเชียงหม่ต้องเลือกเพื่อไทยยกทีมทั้งนายกอบจ.และส.อบจ.เพื่อที่จะทำให้สามารถเดินหน้าขับเคลื่อนประชาธิปไตยต่อไป แม้พรรคเพื่อไทยส่งผู้ลงสมัครในหลายจังหวัด แต่เชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นบ้านเกิดของอดีตนายกฯ 2 คนซึ่งถูกเผด็จการย่ำยีทั้งๆ ซึ่งก็เหมือนย่ำยีคนเชียงใหม่ไปด้วย การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการคนศักดิ์ศรีให้กับคนเชียงใหม่
นายพิชัย กล่าวอีกว่า การออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา เยาวชนอย่าคิดว่าแค่คนหลักแสน แต่คนครี่งประเทศก็ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ขอให้ชาวเชียงใหม่คิดทบทวนก่อนเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมืองบอกจะไม่ร่วมมือกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่พอเลือกตั้งเสร็จก็หันไปอยู่ฝ่ายประยุทธ์หมด เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองอื่นอีก เชื่อไม่ได้
จากนั้นนายอดิศร เพียงเกษ ได้ขึ้นปราศรัยโดยบอกว่าวันนี้ชาวเชียงใหม่ที่อยู่ในโรงยิมเนเซี่ยมแห่งนี้จะได้ฟังการปราศรัยและชมพร้อมกับอดีตนายกรัฐมนตรี 3 คนคือทักษิณ ยิ่งลักษณ์และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พร้อมกับยกมือถือที่ทำการไลฟ์การปราศรัยไปด้วย
นายอดิศร กล่าวในบางช่วงว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จึงต้องยุ่งกับทุกเรื่องที่เป็นประชาธิปไตย สมัยก่อนพรรคเคยสนับสนุนใครบางคนแต่ตอนนี้ไม่อยากพูดถึง สำหรับนายพิชัย หรือส.ว.ก๊องเป็นผู้ที่ศรัทธาประชาธิปไตยอย่างยิ่ง เป็นคนที่พรรคเพื่อไทยไว้วางใจ จึงได้มาช่วยหาเสียง แม้ตอนนี้ทราบว่ามีความพยายามที่จะสกัดไม่ให้เพื่อไทยชนะได้เข้าไปบริหารอบจ.เชียงใหม่ แต่ขอให้ชาวเชียงใหม่พร้อมใจกันเลือกเบอร์ 1 พรรคเพื่อไทยเพื่อแสดงพลังให้ทหารได้เห็นและกลับเข้ากรม กองเหมือนเดิม
ปิดท้ายการปราศรัยด้วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือส.ว.ก๊อง ซึ่งยืนยันความตั้งใจที่จะเข้ามาบริหารอบจ.เชียงใหม่ โดยจะทำงานอย่างตั้งใจและรับฟังทุกเสียงความต้องการของคนเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันพัฒนาให้เชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.