คนเชียงใหม่รวมพลัง จี้ผู้ว่าฯ ตรวจสอบ-เอาผิด ผู้บ่อนทำลายสถาบันหลัก

คนเชียงใหม่รวมพลัง จี้ผู้ว่าฯ ตรวจสอบ-เอาผิด ผู้บ่อนทำลายสถาบันหลัก

- in headline, จับกระแสสังคม

เชียงใหม่ / คนเชียงใหม่ รวมตัวปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ ให้ตรวจสอบการกระทำของบุคคลที่มีพฤติกรรมจาบจ้วง ดัดแปลงธงชาติ-บิดเบือนความจริง และให้ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดกฎหมาย บ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 มี.ค.กลุ่มคนเชียงใหม่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ชมรมคนรักในหลวง จ.เชียงใหม่ และกองทัพประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (กทปส)  ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ขอให้ดำเนินการตรวจสอบการกระทำของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จำนวน 2 ฉบับเนื้อความในหนังสือฉบับแรก เป็นของคนเชียงใหม่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  อ้างถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่บริเวณสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ 14 มี.ค.64 และบริเวณหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มช. เมื่อ 22 มี.ค.64 ซึ่งกิจกรรมทั้ง 2 ครั้ง มีการแสดงธงชาติดัดแปลง โดยการนำพื้นสีน้ำเงินที่หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ออก แล้วแทนที่ด้วยแผ่นพลาสติกโปร่งใส อันน่าจะหมายถึงการไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันสำคัญ 1 ใน 3 ของชาติ นอกจากจะเป็นการแสดงการเหยียมหยามอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังร่วมกันเขียนข้อความที่ไม่เหมาะสมลงในผืนธงชาติดัดแปลงนั้นด้วย เป็นการแสดงออกและวาจาในลักษณะของการจาบจ้วงต่อสถาบันฯทั้งยังเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นหลายครั้งทั้งในพื้นที่ มช. และพื้นที่ภายนอก ซึ่งแต่ละครั้งจะมีบุคคลต่างๆ กล่าววาจาจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง ด้วยประสงค์ที่จะสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และหวังให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง บ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ เพื่อให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างชัดแจ้ง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 หมวดพระมหากษัตริย์ มาตรา 6 และหน้าที่ปวงชนชาวไทยมาตรา 50ในนามของคนเชียงใหม่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะให้ดำเนินการแก่บุคคลทุกชั้นและทุกอาชีพที่บังอาจกระทำการจาบจ้วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเร็ว

สำหรับหนังสือฉบับที่ 2 จากกองทัพประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื้อหากล่าวถึงการบิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้าย จาบจ้วง ด้อยค่า ก้าวล่วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ นักวิชาการ ที่บ่มเพาะสอดแทรกแนวคิด หรือชุดความคิดที่ไม่ถูกต้องต่อสถาบันฯ สร้างให้เกิดอคติ ความเกลียดชัง ปรับเปลี่ยนแนวคิดให้เห็นว่าสถาบันฯ ไม่มีความสำคัญ รวมถึงพฤติกรรมแสดงออกที่ไม่เหมาะสมในการวิพากษ์วิจารณ์ต่อสถาบัน มีการตีพิมพ์เป็นหนังสือ หรือผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย และกล่าวปราศรัยในการชุมนุมทางการเมืองก่อให้เกิดความแตกแยก วุ่นวายในสังคมไทย และเกิดการเข้าใจผิด ทำลายรากเหง้าทางวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของความเป็นไทย ทั้งยังเป็นปัญหาต่อความมั่นคงของชาติ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และหน้าที่ปวงชนชาวไทย ที่กำหนดไว้ในมาตรา 50

กทปส.จึงขอให้ผู้ว่าฯ และผู้บริหารส่วนราชการประจำจังหวัด ดำเนินการตรวจสอบนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ นักวิชาการในเขตปกครอง ไม่ให้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะก่อให้เกิดความเสียหายหรือทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดกฎหมายด้านผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กล่าวภายหลังการรับมอบหนังสือทั้ง 2 ฉบับ ว่า สถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์คือเสาหลักของประเทศไทย ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันปกป้องรักษาให้มั่นคงต่อไป.

You may also like

SUN จับมือพันธมิตรจีน พัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ ตอบโจทย์ตลาดโลก

จำนวนผู้