จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมออกประกาศควบคุมการเดินทางใน 2 พื้นที่ หลังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง โดยขอให้ประชาชนงดการเดินทางเข้า-ออกนอกหมู่บ้าน และงดการทำกิจกรรมรวมกลุ่มพบปะผู้คนโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่
วันนี้ (4 พ.ค. 64) ที่ ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ในวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลสนามก็มีจำนวนลดลงและทยอยเดินทางกลับบ้าน
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มีจำนวน 40 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,766 ราย รักษาหายแล้ว 2,498 ราย คิดเป็นร้อยละ 66 ของผู้ป่วยทั้งหมด ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 1,261 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตในจังหวัดเชียงใหม่ยังคงอยู่ที่ 7 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 946 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 159 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 66 ราย และอาการหนัก (สีแดง) 20 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ซึ่งดูแลภายใต้ระบบ Bubble & Seal นั้น ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 239 ราย
การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเมื่อวานนี้ (3 พ.ค. 64) พบผู้ติดเชื้อน้อยลงเหลือร้อยละ 2.54 ขณะที่การตรวจจากโรงพยาบาลของอำเภอยังคงสูงอยู่ถึงร้อยละ 9.36 โรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลในเขตเมืองร้อยละ 8.91 แสดงให้เห็นว่ายังคงมีการระบาดในพื้นที่ชุมชนต่างอำเภอ ทั้งคลัสเตอร์งานศพอำเภออมก๋อย คลัสเตอร์ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด ที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่มา 2-3 วันแล้ว ส่วนคลัสเตอร์ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ โดยวันนี้ (4 พ.ค. 64) ทีมคัดกรองของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่คัดกรองเชิงรุกแล้วจำนวน 146 คน และอีกคลัสเตอร์ใหม่ที่พบเพิ่มคือคลัสเตอร์ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 10 ราย ซึ่งทั้งหมดติดเชื้อจากการสัมผัสในชุมชน และสัมผัสในงานเลี้ยงสังสรรค์
สำหรับการปฏิบัติตัวของชุมชนที่พบมีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ ทางทีมงานควบคุมโรคจะลงไปสอบสวน ป้องกัน และควบคุมโรคทันที พร้อมทำการค้นหากลุ่มเสี่ยงสูง คือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันและนำมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมสั่งให้กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน และตรวจคัดกรองหาเชื้ออีกครั้งก่อนครบ 14 วันกักตัว ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำนั้นให้คุมไว้สังเกตที่บ้าน ยังไม่ต้องตรวจหาเชื้อ คุมไว้เป็นเวลา 14 วันเช่นเดียวกัน และหากระหว่างนั้นถ้ามีอาการต้องแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อทำการตรวจหาเชื้อ ถ้าผลเป็นลบก็กักตัวต่อจบครบ 14 วัน แต่ถ้ามีการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น จะประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมโซนที่มีการระบาด จากนั้นทีมสาธารณสุขจะสุ่มตรวจคัดกรองร้อยละ 10 ของหลังคาเรือน เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ปิดทำการโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจเทศบาลตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด โดยได้จำหน่ายผู้ติดเชื้อทั้งหมด เนื่องจากครบกำหนดการรักษาแล้ว โดยผู้ที่ถูกส่งกลับบ้านทุกคนมีสุขภาพการและจิตดี สามารถกลับไปดำรงชีวิตในชุมชนได้ตามปกติ พร้อมชื่นชมทุกภาคส่วนในตำบลแม่คือ และอำเภอดอยสะเก็ด ที่ดำเนินงานครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี และผู้ติดเชื้อทุกคนปลอดภัย
ในการนี้ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน คือหมู่บ้านแม่อ้อใน (หย่อมบ้านห้วยน้ำฮาก) หมู่ที่ 8 ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ซึ่งพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจำนวน 10 ราย และพื้นที่บ้านไร่ หมู่ที่ 5 ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง ซึ่งพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจำนวน 8 ราย โดยขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดการเดินทางที่เสี่ยงต่อการสัมผัสโรค พร้อมขอความร่วมมือประชาชนทั้ง 2 พื้นที่ งดการเดินทางออกนอกหมู่บ้านและอยู่ในเคหสถาน โดยงดทำกิจกรรมรวมกลุ่มพบปะผู้คนโดยไม่มีเหตุจำเป็น ทั้งนี้ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอหางดง และอำเภอเชียงดาว ดำเนินการจัดระเบียบ ระบบ และควบคุมติดตามผู้ที่เดินทางเข้า-ออกหมู่บ้านดังกล่าว และดำเนินการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ โดยจะมีผลตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 รวมระยะเวลา 14 วัน.