เชียงใหม่ปลื้มสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 ปีนี้ลดลงกว่า 70%

เชียงใหม่ปลื้มสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 ปีนี้ลดลงกว่า 70%

เชียงใหม่ปลื้มสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 ปีนี้ลดลงกว่า 70% แจงเทียบกับปีก่อนย้อนหลัง 3 ปีช่วงนี้พีคสุด แต่คุณภาพอากาศเชียงใหม่มีผลกระทบต่อประชาชนแค่ 7 วัน ยันงานระดมทุนแข่งกอล์ฟฯจัดซื้อเครื่องเป่าลมแจก 24 อำเภอ พร้อมทำประกันให้อาสาดับไฟอีก 1 พันคน

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.65 ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ โดยนายมนัส คำต่าย ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัดเชียงใหม่ รายงานถึงสถานการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่น pm2.5 ว่า สำหรับสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นpm2.5  จุดความร้อนหรือ Hot Spot ยอดสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-14 มี.ค.พบ 1,551 จุด ลดลง 77.90% โดยจุดความร้อนย้อนหลัง 3 ปีพบว่าปี 2562 พบจำนวน 5,900 จุด ปี 2563 จำนวน 9,036 จุดและปี 2564 จำนวน 5,625 จุด เฉลี่ย 7,019 จุด โดยวันนี้(15 มี.ค.)พบจุดความรอ้น 21 จุด โดยพบในป่า 18 จุดและพื้นที่เกษตร 3 จุด

            ส่วนค่าpm2.5 ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะต้องลดลงจากย้อนหลัง 3 ปีร้อยละ 20 หรือต้องมีวันที่ค่าฝุ่นpm2.5 เกินค่ามาตรฐานต้องไม่เกิน 72 วัน และในปี 65 นี้พบว่าวันที่ค่าฝุ่นฯสูงเกินค่ามาตรฐานมีเพียง 7 วัน และในเดือนมีนาคมตั้งแต่ 1-14 มี.ค.พบจุดความร้อน 522 จุด เทียบค่า 3 ปีย้อนหลังที่มี 2,700 กว่าจุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปีนี้พบจุดความร้อนน้อยลงถึงร้อยละ 70 โดยพื้นที่ที่พบจุดความร้อนมากที่สุดเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ถึงร้อยละ 57 พื้นที่ป่าสงวนร้อยละ 36 และอำเภอเฝ้าระวังมากที่สุด 3 อำเภอคือแม่แจ่ม ฮอดและเชียงดาว

            “ค่าฝุ่นpm2.5 ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันเกินค่ามาตรฐานเพียง 17 วัน สูงสุดคือวันที่ 3 มี.ค.65 ที่สถานีตรวจวัดอ.แม่แจ่มวัดได้ 117 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.นอกจากนี้ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่าในระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค.65 จะมีพายุ ฝนฟ้าคะนองซึ่งก็จะทำให้จุดความร้อนลดลงด้วย และค่าคุณภาพอากาศทั้ง 4 สถานีวันนี้(15 มี.ค.)ไม่เกินค่ามาตรฐาน เป็นค่าปานกลางที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน”ผช.หน.สำนักงานปภ.เชียงใหม่ กล่าวและว่า

            จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯที่อบจ.เชียงใหม่ และจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวร 24 ชั่วโมงเพื่อรับแจ้งเหตุไฟไหม้ป่า และคณะกรรมการฯมีการประชุมทุกวันพุธเพื่อสรุปสถานการณ์ นอกจากนี้ทางจังหวัดร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่จัดห้องปลอดฝุ่นหรือเซฟตี้โซนสำหรับกลุ่มเปราะบางที่รพ.สต.ทุกแห่ง

            ผช.หน.สำนักงานปภ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯที่ผวจ.เชียงใหม่เป็นประธานได้สั่งการให้ทุกอำเภอตั้งชุดปฏิบัติการ 48 ชุดๆ ละ 10 คนเพื่อลาดตระเวนใน 24 อำเภอที่มีพื้นที่ป่ายกเว้นอ.สารภี และให้อำเภอบูรณาการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดชุดลาดตระเวนและรายงานการปฏิบัติงานทุกวัน นอกจากนี้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้มีประกาศห้ามเผาในที่โล่งแจ้งตั้งแต่ 1 ม.ค.-30 เม.ย.65 และตอนนี้ให้รวมพื้นที่ป่าและพื้นที่ทำกินในป่าด้วย โดยให้บังคับใช้กฎหมายอย่างสูงสุดเพื่อไม่ให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน

            นายมนัส กล่าวอีกว่า ทางอบจ.เชียงใหม่ได้อุดหนุนงบประมาณให้กับหมู่บ้านที่อยู่ติดเขตป่าจำนวน 644 หมู่บ้านในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ขณะเดียวกันผวจ.เชียงใหม่ได้จัดระดมทุนโดยการแข่งกอล์ฟและยิงปืนได้เงินมา 2 ล้านบาทซึ่งได้จัดหาเครื่องเป่าลม 24 เครื่องมอบให้ 24 อำเภอและสนับสนุนอารหารสำเร็จรูปและน้ำดื่มสำหรับศูนย์บัญชาการในระดับอำเภออีกรวมเป็นเงิน 4 แสนบาท และได้ทำประกันชีวิตให้กับทีมดับไฟจำนวน 1,000 คนเป็นเงิน 1.8 แสนบาท

            ด้านนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นpm2.5 เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปีโดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนซึ่งถือเป็นช่วงพีค อย่างไรก็ตามจังหวัดได้มีการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน มีการผ่อนปรนให้ทำกินในพื้นที่ป่าและให้แผ้วถางเตรียมพื้นที่ทางการเกษตรได้โดยให้ขออนุญาตผ่านทางอำเภอและจองผ่านแอพพลิเคชั่นภายใต้การควบคุมของแต่ละอำเภอที่เรียกว่าการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งประชาชนก็เข้าใจและให้ความร่วมมือซึ่งจะเห็นว่าสถิติที่ผ่านมาถ้าเป็นช่วงนี้จะเกิดสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันฯสูงมาก แต่ปีนี้เทียบกับปีก่อนๆ ลดลงอย่างมากทั้งจุดความร้อน พื้นที่เผาไหม้และค่าฝุ่นฯซึ่งลดลงกว่า 70%

            รองผวจ.เชียงใหม่ ยังกล่าวด้วยว่า การจัดกิจกรรมแข่งกอล์ฟและยิงปืนเพื่อระดมทุนมาใช้ในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า โดยมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมในปีนี้ทำให้ได้เงินถึง 2 ล้านบาท ซึ่งก็กระจายไปให้ทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว.

 

 

You may also like

อบจ.เชียงใหม่จับมือสสจ.และศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทย์มช.จัดงาน”มหกรรมสุขภาพเมืองเชียงใหม่2567″เพื่อยกระดับคุณภาพสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน

จำนวนผู้