สหรัฐฯยันสร้างสถานกงสุลใหม่ไม่ใช่ที่สอดแนมหรือซ่องสุมกำลัง-อาวุธ

 เมื่อวันที่ 23 มี.ค.65 ที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ นายฌอน เค.โอนีลล์ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายไมเคิล โกรอาร์ค ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่แห่งใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงการก่อสร้างสถานกงุสลฯแห่งใหม่ หลังจากมีกระแสข่าวลือว่า สหรัฐอเมริกาได้ใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อดำเนินการก่อสร้างสถานกงสุลฯแห่งใหม่เพื่อแสดงฐานอำนาจในภูมิภาคและใช้เป็นสถานที่จอดเฮลิคอปเตอร์กับซ่องสุมอาวุธ

โดยกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวลือว่าสหรัฐฯท่มเงินสร้างสถานกงสุลแห่งใหม่เพื่อใช้เป็นที่ซ่องสุมกำลัง อาวุธและจอดเฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งต่อต้านการรุกอำนาจของจีน ว่า สหรัฐฯมีสถานกงสุล 5 แห่งในต่างประเทศซึ่งเชียงใหม่เป็น 1 ใน 5 และจัดตั้งมาเป็นปีที่ 72 แล้ว รวมทั้งสถานฑูตอีก1 แห่ง ขณะที่บางประเทศมีสถานกงสุลหลายแห่ง ซึ่งสหรัฐฯเป็นมิตรประเทศกับไทยมาก กว่า 200 ปี มีความร่วมมือกันทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและการศึกษามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน รวมทั้งทางภาคเหนือของประเทศไทยด้วย และได้อำนวยความสะดวกให้กับคนไทยถึง 12 ล้านคนที่มาใช้บริการที่สถานกงสุลแห่งนี้

“เรื่องข่าวลือต่างๆ นั้นทางสถานกงสุลฯเองก็ได้เห็นจากข่าวในสื่อ ซึ่งก็น่าแปลกใจว่าทำไมประชาชนคนไทยไม่ให้ความสนใจความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่สหรัฐฯได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในประเทศทั้งด้านความมั่นคง ด้านการศึกษา สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเศรษฐกิจ แต่ไปมองว่าการที่สหรัฐฯใช้เงินกว่า 284 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างสำนักงานสถานกงสุลใหญ่แห่งใหม่ ซึ่งจะรวมไปถึงการจ้างแรงงานก่อสร้างกว่า400 คน จัดซื้อที่ดินและสำนักงานแห่งใหม่จะเป็นอาคารสำนักงานที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ กล่าวและชี้แจงอีกว่า

ยืนยันว่าสถานกงสุลฯแห่งใหม่ไม่มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์อย่างแน่นอน แม้เชียงใหม่จะมีรถติดจนบางครั้งอยากจะนั่งฮ.ไปไหนต่อไหนแทนบ้าง แต่ก็คงทำแบบนั้นไม่ได้ และข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่สหรัฐฯมักจะเจอตลอดเวลาที่สหรัฐฯไปดำเนินการอะไรขึ้นมาใหม่ และเวลามีข่าวลือเกิดขึ้นก็เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่าทำไมคนไม่สนใจว่า 72ปีที่สถานกงสุลฯในเชียงใหม่ได้ทำอะไรไปบ้าง กลับไปสนใจเรื่องอื่นนายฌอน ยังกล่าวอีกว่า จริงๆ สหรัฐฯเปิดเผยมากจากสิ่งที่ทำ พอบอกว่าได้ใช้เงินลงทุนก่อสร้างมากก็ไปคิดในแง่อื่น และพอเอาโมเดลการก่อสร้างให้สื่อดู คนก็เอาไปตีความอื่นๆ อีก ทั้งๆ ที่เปิดเผยข้อมูลตลอด ก็มีคนที่บอกเล่าเรื่องเท็จ ซึ่งสหรัฐฯอยากให้โฟกัสงานที่ทำตลอด72 ปีและเปิดเผยเรื่องงานที่ทำร่วมกันด้วย

ผู้สื่อข่าวยังสอบถามเรื่องการเมืองระหว่างประเทศด้วยว่าขณะนี้มีการสู้รบกันระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ทางสหรัฐฯเองวางท่าทีกับนานาประเทศในภูมิภาคนี้อย่างไรว่า สหรัฐฯกับไทยเป็นพันธมิตรกันมายาวนานเป็นหุ้นส่วนเก่าแก่กว่า 200 ปี แม้จะเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ทางการค้าแต่ต่อมาก็มีการขยายความสัมพันธ์ครอบคลุมไปหลายๆ ด้านและมีสนธิสัญญาด้านความมั่นคงและทำงานร่วมกับไทยในการรักษาความปลอดภัยด้านชายแดนและปกป้องประเทศไทยจากอาชญากรต่างๆ ด้วความร่วมมือที่มีทำให้มีการฝึกอบรมและตอบสนองในด้านต่างๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงก็จะได้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว.